ประธานที่ปรึกษาบริษัท เหมราชฯ และบริษัทในเครือ มอบเงินบริจาคช่วยเฮติ เกือบ 7 ล้าน ผ่าน “สุเทพ-เขยซีพี” ขณะยอดบริจาคศูนย์รวมน้ำใจฯ 2 วัน ได้เกือบ 3 ล้าน “วีระชัย” คาดค่าใช้จ่ายส่งข้าวไปร่วมกว่า 300 ล้าน
วันนี้ (21 ม.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง และนายวีระชัย วีระเมธีกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รับมอบเงิน จำนวน 6,618,931 บาท จากนายสวัสดิ์ หอรุ่งเรือง ประธานที่ปรึกษาบริษัท เหมราชฯ และบริษัทในเครือ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติในประเทศเฮติ
นายสุเทพกล่าวว่า ภาคเอกชนรวมทั้งประชาชนได้แสดงเจตนารมณ์ในการบริจาคเงินช่วยเหลือประเทศเฮติ โดยติดต่อมายังคณะรัฐมนตรี (ครม.) ทั้งผ่านตนและนายอภิสิทธิ์โดยตรง ทั้งนี้ ผู้บริจาคมีความต้องการให้รัฐบาลเป็นแกนกลางในการรับบริจาคเงิน ในฐานะเป็นน้ำใจของคนไทยทั้งประเทศ ซึ่งเป็นการช่วยเหลือเพิ่มเติมจากที่ ครม.ได้อนุมัติกรอบการช่วยเหลือเบื้องต้น อาทิ เงิน 1 แสนเหรียญสหรัฐ และข้าวสาร 2 หมื่นตัน
ขณะที่ นายสวัสดิ์ หอรุ่งเรือง ในฐานะตัวแทนผู้รวบรวมเงินบริจาค กล่าวว่า วันนี้ได้มีผู้ร่วมบริจาคเงิน อาทิ นายเดวิด นาร์โดน ซีอีโอกลุ่มเหมราชฯ ประมาณ 2 ล้านบาท นายชวลิต เศรษฐเมธีกุล ประธานเครือข่ายศรีราชาฮาเบอร์ ประมาณ 1 ล้านบาท นายอุดม ตันติประสงค์ชัย ประธานกรรมการบริษัท วันทูโก แอร์ไลน์ ประมาณ 3 แสนบาท และซีอีโอเอซีโพสต์ อีกประมาณ 2 ล้านบาท
ด้าน นายวีระชัยกล่าวถึงการดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในประเทศเฮติว่า การช่วยเหลือจะเป็นการส่งข้าวสารไปช่วยเหลือซึ่งคาดว่าจะสามารถส่งได้ประมาณ 2,000-3,000 พันตัน เป็นข้าวในสต๊อกของรัฐบาล โดยล็อตแรกจะส่งไปภายในต้นเดือนกุมภาพันธ์ ในส่วนของค่าใช้จ่ายในการส่งข้าวไปเฮติประมาณ 300 กว่าล้านบาท มีข้าว 2 ประเภท คือข้าวขาว 5 เปอร์เซ็นต์ และข้าวอีกประมาณ 25 เปอร์เซ็นต์ และจะส่งทางเรือเป็นล็อตใหญ่
ทั้งนี้ ในวันที่ 22 มกราคม จะมีการประชุมเพื่อคุยในรายละเอียดต่างๆในสิ่งที่จะต้องทำทันที ทั้งนี้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ประกาศว่าจะสนับสนุนเรื่องข้าวประมาณ 20,000 ตัน ก็จะเป็นการขนส่ง 2-3 ครั้ง
เมื่อถามว่า หลังจากที่ครม.มีการอนุมัติช่วยเหลือแล้วยังมีการช่วยอย่างอื่นอีกหรือไม่ นายวีระชัย กล่าวว่า การช่วยเหลือจะต้องแบ่งออกเป็น 2 ระยะ คือ ระยะที่ต้องทำทันที และระยะยาว ซึ่งจะเป็นช่วงในการฟื้นฟูประเทศ ในล็อตแรกที่เราทำทันทีที่รัฐบาลได้ประกาศไป คือ การบริจาคเงิน 1 แสนเหรียญสหรัฐ ซึ่งเราจะให้ทางสถานทูตไทยที่กรุงเม็กซิโกซิตี นำไปซื้อยา,เวชภัณฑ์อื่นๆ ในส่วนที่ 2 นายกฯ ได้เชิญชวนคนไทยมาร่วมกันบริจาคเงินตามกำลังที่มี ส่วนที่ 3 คือ เราจะส่งข้าว 20,000 ตันไปให้ และในส่วนที่ 4 เรา จะส่งคณะทีมแพทย์ไปช่วยเหลือในกรอบความร่วมมือขององค์การระหว่างประเทศ และเรื่องขององค์การสหประชาชาติ หรือองค์การอนามัยโลกก็เป็นสิ่งที่เราจะทำ ประสานทันที อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการฟื้นฟูประเทศที่จะต้องมีการซ่อมแซมถนน ระบบโทรคมนาคม สร้างโรงพยาบาล โรงเรียน บ้านพัก เราก็พิจารณาในด้านของทหารช่าง ทั้งนี้ เราเชื่อว่าทั้ง 4 ส่วนที่เราทำจะเพียงพอกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในเฮติ
เมื่อถามว่า มีการหารือเรื่องการส่งทหารไปควบคุมความสงบหรือไม่ นายวีระชัยกล่าวว่า เรามีการพูดคุยเรื่องของการส่งทหารช่างในร่วมในการฟื้นฟูประเทศเฮติ ในช่วงที่หลังจากนี้สิ่งที่จะทำภายใต้หลักสิทธิมนุษยชน แต่ยังไม่มีการคุยเรื่องของจำนวนทหารที่จะส่งไป
ผู้สื่อข่าวรายงานถึงยอดเงินบริจาคในโครงการศูนย์รวมน้ำใจฯ ของวันที่ 21 ม.ค. เวลา 09.30น.ว่า มีจำนวนเงินทั้งสิ้น 2,863,356.04 บาท แบ่งเป็นบริจาคผ่านศูนย์รับบริจาคทำเนียบรัฐบาล 129,444 บาท และผ่านธนาคารกรุงไทย 2,733,912.04 บาท
วันนี้ (21 ม.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง และนายวีระชัย วีระเมธีกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รับมอบเงิน จำนวน 6,618,931 บาท จากนายสวัสดิ์ หอรุ่งเรือง ประธานที่ปรึกษาบริษัท เหมราชฯ และบริษัทในเครือ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติในประเทศเฮติ
นายสุเทพกล่าวว่า ภาคเอกชนรวมทั้งประชาชนได้แสดงเจตนารมณ์ในการบริจาคเงินช่วยเหลือประเทศเฮติ โดยติดต่อมายังคณะรัฐมนตรี (ครม.) ทั้งผ่านตนและนายอภิสิทธิ์โดยตรง ทั้งนี้ ผู้บริจาคมีความต้องการให้รัฐบาลเป็นแกนกลางในการรับบริจาคเงิน ในฐานะเป็นน้ำใจของคนไทยทั้งประเทศ ซึ่งเป็นการช่วยเหลือเพิ่มเติมจากที่ ครม.ได้อนุมัติกรอบการช่วยเหลือเบื้องต้น อาทิ เงิน 1 แสนเหรียญสหรัฐ และข้าวสาร 2 หมื่นตัน
ขณะที่ นายสวัสดิ์ หอรุ่งเรือง ในฐานะตัวแทนผู้รวบรวมเงินบริจาค กล่าวว่า วันนี้ได้มีผู้ร่วมบริจาคเงิน อาทิ นายเดวิด นาร์โดน ซีอีโอกลุ่มเหมราชฯ ประมาณ 2 ล้านบาท นายชวลิต เศรษฐเมธีกุล ประธานเครือข่ายศรีราชาฮาเบอร์ ประมาณ 1 ล้านบาท นายอุดม ตันติประสงค์ชัย ประธานกรรมการบริษัท วันทูโก แอร์ไลน์ ประมาณ 3 แสนบาท และซีอีโอเอซีโพสต์ อีกประมาณ 2 ล้านบาท
ด้าน นายวีระชัยกล่าวถึงการดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในประเทศเฮติว่า การช่วยเหลือจะเป็นการส่งข้าวสารไปช่วยเหลือซึ่งคาดว่าจะสามารถส่งได้ประมาณ 2,000-3,000 พันตัน เป็นข้าวในสต๊อกของรัฐบาล โดยล็อตแรกจะส่งไปภายในต้นเดือนกุมภาพันธ์ ในส่วนของค่าใช้จ่ายในการส่งข้าวไปเฮติประมาณ 300 กว่าล้านบาท มีข้าว 2 ประเภท คือข้าวขาว 5 เปอร์เซ็นต์ และข้าวอีกประมาณ 25 เปอร์เซ็นต์ และจะส่งทางเรือเป็นล็อตใหญ่
ทั้งนี้ ในวันที่ 22 มกราคม จะมีการประชุมเพื่อคุยในรายละเอียดต่างๆในสิ่งที่จะต้องทำทันที ทั้งนี้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ประกาศว่าจะสนับสนุนเรื่องข้าวประมาณ 20,000 ตัน ก็จะเป็นการขนส่ง 2-3 ครั้ง
เมื่อถามว่า หลังจากที่ครม.มีการอนุมัติช่วยเหลือแล้วยังมีการช่วยอย่างอื่นอีกหรือไม่ นายวีระชัย กล่าวว่า การช่วยเหลือจะต้องแบ่งออกเป็น 2 ระยะ คือ ระยะที่ต้องทำทันที และระยะยาว ซึ่งจะเป็นช่วงในการฟื้นฟูประเทศ ในล็อตแรกที่เราทำทันทีที่รัฐบาลได้ประกาศไป คือ การบริจาคเงิน 1 แสนเหรียญสหรัฐ ซึ่งเราจะให้ทางสถานทูตไทยที่กรุงเม็กซิโกซิตี นำไปซื้อยา,เวชภัณฑ์อื่นๆ ในส่วนที่ 2 นายกฯ ได้เชิญชวนคนไทยมาร่วมกันบริจาคเงินตามกำลังที่มี ส่วนที่ 3 คือ เราจะส่งข้าว 20,000 ตันไปให้ และในส่วนที่ 4 เรา จะส่งคณะทีมแพทย์ไปช่วยเหลือในกรอบความร่วมมือขององค์การระหว่างประเทศ และเรื่องขององค์การสหประชาชาติ หรือองค์การอนามัยโลกก็เป็นสิ่งที่เราจะทำ ประสานทันที อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการฟื้นฟูประเทศที่จะต้องมีการซ่อมแซมถนน ระบบโทรคมนาคม สร้างโรงพยาบาล โรงเรียน บ้านพัก เราก็พิจารณาในด้านของทหารช่าง ทั้งนี้ เราเชื่อว่าทั้ง 4 ส่วนที่เราทำจะเพียงพอกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในเฮติ
เมื่อถามว่า มีการหารือเรื่องการส่งทหารไปควบคุมความสงบหรือไม่ นายวีระชัยกล่าวว่า เรามีการพูดคุยเรื่องของการส่งทหารช่างในร่วมในการฟื้นฟูประเทศเฮติ ในช่วงที่หลังจากนี้สิ่งที่จะทำภายใต้หลักสิทธิมนุษยชน แต่ยังไม่มีการคุยเรื่องของจำนวนทหารที่จะส่งไป
ผู้สื่อข่าวรายงานถึงยอดเงินบริจาคในโครงการศูนย์รวมน้ำใจฯ ของวันที่ 21 ม.ค. เวลา 09.30น.ว่า มีจำนวนเงินทั้งสิ้น 2,863,356.04 บาท แบ่งเป็นบริจาคผ่านศูนย์รับบริจาคทำเนียบรัฐบาล 129,444 บาท และผ่านธนาคารกรุงไทย 2,733,912.04 บาท