กกต.เปลี่ยนแผน จ่อติดกล้องวงจรปิดดูม็อบเถื่อนเรียลิตีหน้าสำนักงาน ประธาน กกต.ขอ ผอ.ใหม่ น้อมนำพระบรมราโชวาทในหลวงปรับใช้ อย่าทำตามกระแส เน้นสุจริต เที่ยงธรรม นักวิชาการโผล่จี้ฟัน “ชาญชัย” ใช้เอกสารปลอมเป็นสมาชิกเพื่อแผ่นดิน แถมให้คนนอกร่วมประชุมพรรค
วันนี้ (19 ม.ค.) ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการที่กลุ่มคนเสื้อแดงได้เดินทางไปยื่นหนังสือที่กรมสอบสวนพิเศษ (ดีเอสไอ) ทำให้ กกต.ซึ่งมีที่ทำการอยู่ในอาคารศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ใกล้เคียงกับดีเอสไอ เตรียมการรับมือกับกลุ่มคนเสื้อแดงที่อาจเดินทางเข้ามาชุมนุมอีกครั้ง โดยมีการนำแผงเหล็กมากันหน้าอาคารตลอดแนว และตั้งกรวยไม่ให้มีการนำรถมาจอด รวมทั้งไม่ให้นำรถเข้ามาภายในอาคารได้ พร้อมกันนี้ก็ได้มีการประสานกับทาง กทม.ขอรถสุขา 1 คัน เพื่อไว้คอยอำนวยความสะดวกแก่ผู้ชุมนุม โดยไม่ต้องเข้ามาในตึกเหมือนอย่างเมื่อครั้งที่ผ่านมา นอกจากนี้ ทางสำนักงานยังมีการประสานกับบริษัทวิทยุการบินให้มาตรวจสอบสถานที่ เพื่อที่จะติดตั้งกล้องซีซีทีวี ซึ่งเป็นกล้องวงจรปิด ไว้คอยติดตามดูความเคลื่อนไหวของบุคคลที่จะเข้าออก และกลุ่มผู้ชุมนุมต่างๆ เพื่อที่หากมีกรณีการกระทำผิดกฎหมายเกิดขึ้นก็จะใช้ภาพต่างๆ เป็นหลักฐานเอาผิดได้
ขณะที่ นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ กกต.ได้เชิญผู้บริหารระดับกลางที่เพิ่งได้รับแต่งตั้งจำนวน 42 ราย และเข้าปฏิบัติเป็นวันแรกเมื่อวานนี้ (18 ม.ค.) เข้าพบประธาน กกต.และ กกต.เพื่อรับนโยบาย โดยนายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต.ได้เน้นย้ำให้ ผอ.ใหม่ทุกคนน้อมนำพระบรมราชโชวาท กระแสรับสั่งของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ได้ให้ไว้กับรัฐมนตรีใหม่ที่ไปเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ รับสั่งกระแสพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ได้ให้ไว้กับรัฐมนตรีใหม่ที่ไปเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณตนมาเป็นแนวทางในการปฏิบัติงานให้เกิดประโยชน์แก่ประเทศชาติ และการทำงานก็ไม่ควรที่จะทำตามกระแส ประชาชนจับตาการทำงานของ กกต.อยู่ เพราะฉะนั้น ทำอะไรก็ขอให้ทำด้วยความสุจริต เที่ยงธรรม โปร่งใส เพื่อที่จะได้เป็นเกราะป้องกันในเวลาทำงาน
ด้าน นายสมคิด หอมเนตร นักวิชาการอิสระ ได้ยื่นหนังสือต่อประธานกรรมการการเลือกตั้ง ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง ขอให้เร่งดำเนินคดีและวินิจฉัยในกรณี นายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง รมว.อุตสาหกรรม หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน ฐานปลอมแปลงเอกสารและรายงานเอกสารอันเป็นเท็จต่อนายทะเบียนพรรคการเมือง กรณีที่พรรคเพื่อแผ่นดินได้จัดให้มีการประชุมใหญ่วิสามัญพรรคเพื่อแผ่นดิน ครั้งที่ 1 /2552 เมื่อวันที่ 20 เม.ย.2552 มิชอบด้วยกฎหมาย และยังได้มีการนำบุคคลภายนอกเข้ามาเป็นกรรมการบริหารพรรคเพื่อแผ่นดินทั้งที่ยังไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคจำนวน 3 คน คือ นายสมปอง ทองวีระประเสริฐ นายชะลอ นาคอุไร และนายประจักษ์ รัชธร กรรมการบริหารพรรคลำดับที่ 46-48 โดยทั้ง 3 คนนี้หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดินได้ลงนามรับรองภายหลังจากวันประชุม จึงถือเป็นการลงนามในเอกสารอันเป็นเท็จที่ยื่นต่อนายทะเบียนพรรคการเมือง
นายสมคิดกล่าวว่า ประเด็นการปลอมแปลงเอกสารนี้ เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. กกต.ยังไม่ได้มีมติ เนื่องจากเห็นว่าทางคณะอนุกรรมการไต่สวนยังไม่ได้ดำเนินการส่งลายมือชื่อของ นายชาญชัย ที่มีระยะเวลาการเขียนในปี 51 และ 52 ไปให้กับทางกองพิสูจน์หลักฐานตามที่ร้องขอ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทราบว่าทางกองพิสูจน์หลักฐาน โดยกลุ่มงานตรวจเอกสารกองพิสูจน์หลักฐานกลาง ได้รายงานผลการตรวจสอบลายมือชื่อของ นายชาญชัย กลับมายังกกต.แล้ว ระบุว่า “ได้ตรวจพิจารณาลายมือชื่อตรงที่มีหมายเลข 1 ถึง 4 กำกับไว้ในเอกสารของกลาง เปรียบเทียบกับตัวอย่างลายมือชื่อของนายชาญชัย ตามที่ได้ระบุไว้ในเอกสารตัวอย่างดูโดยละเอียด ปรากฏว่า มีคุณสมบัติการเขียนรูปลักษณะของลายมือชื่อแตกต่างกัน จึงลงความเห็นว่าไม่ใช่ลายมือชื่อของบุคคลคนเดียวกัน” ซึ่งเอกสารดังกล่าวลงชื่อ ว่าที่ พ.ต.ท.หญิง พรสวรรค์ คล้ายสุบรรณ์ นักวิทยาศาสตร์ (สบ 2) กลุ่มงานตรวจเอกสาร กองพิสูจน์หลักฐานกลาง วันที่ 23 ธ.ค. โดยตนก็ได้นำเอกสารดังกล่าวมามอบให้ทางนายทะเบียนพรรคการเมืองพิจารณาด้วย เพราะเห็นว่าการดำเนินการของคณะอนุกรรมการฯ ในขณะนี้เลยเวลา 30 วันที่ กกต.กำหนดแล้ว