“ไตรรงค์” พร้อมคุย “กอร์ปศักดิ์” รับมือถูกซักฟอก โชว์กึ๋นดอกเตอร์วางแผนประเทศไทยระยะยาว 40 ปี แย้มดึง “ธารินทร์-หม่อมอุ๋อ ร่วมทีม คาดประกาศรายชื่อกุนซือได้สัปดาห์นี้ ไม่หวั่นทะเลาะเอ็นจีโอ บอกเจอพวกพูดไม่รู้เรื่องก็ไม่เชิญมา
วันนี้ (19 ม.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายไตรรงค์ สุวรรณคิรี รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ กล่าวถึงการเตรียมการอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้านว่า ตนก็ต้องเท่าที่จะช่วยได้ และหากเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับงานที่ตนดูแลก็ต้องช่วยชี้แจงก็ต้องช่วยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เพราะท่านต้องรับผิดชอบทุกเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวข้องกับโครงการต่างๆ ก็จะต้องมีการปรึกษากับนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เลขาธิการนายกฯ
“มันคงมีการอภิปรายในเรื่องงานที่เกี่ยวข้องกับนายกอร์ปศักดิ์ ซึ่งตอนนั้นผมก็ต้องคุยกับท่านกอร์ปศักดิ์ว่าเรื่องจริงเป็นอย่างไร เป็นโฆษกตอบแทนท่าน เพราะท่านไม่ได้อยู่ในสภาฯ ก็ช่วยท่านนายกฯอีกที เพราะท่านนายกฯ ต้องรับผิดชอบในช่วงนั้น” นายไตรรงค์กล่าว
นายไตรรงค์กล่าวต่อว่า ในเรื่องโครงการต่างๆ นั้นก็ต้องดำเนินการต่อ เพราะเป็นนโยบายของรัฐบาล ส่วนในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับคณะกรรมการฯ ชุดต่างๆ ที่นายกอร์ปศักดิ์เคยเป็น ตนก็คงต้องเข้ามาดำเนินการต่อจากที่คุยกับท่านนายกฯ ไป การพบกับนายกฯ วานนี้ (18 ม.ค.) ก็แต่การพูดคุยในเรื่องทั่วๆไปพร้อมกับ รมต.ใหม่ทั้งหมด และในเบื้องต้นจะดูงานทุกเรื่องจะยังไม่หยิบเรื่องหนึ่งเรื่องใดขึ้นมาดูเป็นพิเศษก่อน และเวลานี้ตนกำลังจะแบ่งกลุ่มของคณะที่ปรึกษาออกประมาณ 3-4 กลุ่ม
“ที่กล่าวไปก่อนหน้านี้เป็นการพูดเรื่องปัญหาที่เผชิญหน้าของประเทศไทย ปี 2553 แต่สิ่งที่ผมอยากจะทำมากคือ ต้องการจะทำในสิ่งที่ต้องการบอกพี่น้องประชาชนให้ทราบว่าในอีก 30-40 ปี ข้างหน้า ประเทศไทยควรจะมีหนาตาอย่างไรในทางเศรษฐกิจ ถ้าต้องการให้ประเทศไทยเป็นอย่างนั้นต้องเริ่มตั้งแต่วันนี้ และนี่คือสิ่งที่ผมจะทำ จึงต้องมีคณะที่ปรึกษาและแบ่งเพื่อยกร่าง เพื่อดีไซน์ประเทศไทยฉบับ 30-40 ปีข้างหน้าว่าจะให้ลูกหลานอยู่อย่างไร และหากไม่วางแผนตอนนี้ลูกหลานจะลำบาก” นายไตรรงค์กล่าว
เมื่อถามว่า ระยะยาวนานขนาดนั้นเลย นายไตรรงค์กล่าวว่า แน่นอน เศรษฐกิจต้องวางกันแบบนั้น เมืองไทยได้แต่พูดไม่ได้ทำอะไร เขาเรียกเป็นพวกนาโต้ คนไทยพูดเก่ง แต่ว่าไม่ทำอะไรให้เป็นเรื่องเป็นราว หรือปฏิบัติจริงๆ มันต้องใช้เวลาและเมื่อทำไปเรื่อยๆ พอถึง 30 ปี แล้วหน้าตาประเทศจะเป็นเช่นนั้น ส่วนบรรดาที่ปรึกษานั้น ก็จะมีอาทิ กลุ่มเกษตรกรรม อุตสาหกรรม ลอจิสติกส์ การค้า นโยบายการเงินการคลัง เป็นระดับแมคโครที่จะคลุมทั้งหมด โดยทีมที่ปรึกษาตนนั้นหลังการประชุม ครม.เสร็จก็จะพิจารณาตัวบุคคล คาดว่าภายในสัปดาห์นี้น่าจะประกาศรายชื่อที่ปรึกษาได้ ที่ผ่านมาก็คุยๆ ไปบ้างแล้ว และทุกอย่างต้องรอบคอบ เพราะเป็นงานระดับชาติไม่ใช่งานขายก๋วยเตี๋ยว ก็ต้องใช้เวลาบ้าง
“กับนายธารินทร์ นิมมานเหมินทร์ อดีต รมว.คลัง ที่ผ่านมาก็มาช่วยผมพอสมควร เมื่อวานก็มีการประชุมกับกลุ่มคุณธารินทร์ไป ผมปรึกษาบางคนจะใช้ชื่อ บางคนเขาขอร้องไม่ใช้ชื่อขออยู่ข้างหลัง อย่าง ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีต รมว.คลัง ก็เป็นที่ปรึกษาผมมาตลอดชีวิตเพราะเป็นรุ่นน้องแต่ว่าท่านเป็นผู้ใหญ่เกินไป ที่จะใส่ชื่อลงไปในบัญชี ศ.ดร.นิพนธ์ พัวพงศกร ประธานทีดีอาร์ไอ ศ.ดร.พลายพล คุ้มทรัพย์ ทุกคนเป็นที่ปรึกษาผมหมด คนเหล่านี้อาจไม่มีชื่อในบัญชี แต่ต้องมาประชุม และต้องไปทำงาน ทุกคนอยากมาช่วยผมเยอะ เพราะผมหน้าตาน่ารัก จะมีกลุ่มกรรมกร กลุ่มเอ็นจีโอ ผมมีทุกกลุ่ม ผมไปฟังความ ไม่ได้ฟังแต่นายทุน หรือฟังแต่เอ็นจีโอ ผมไม่ใช่คนอย่างนั้น ผมเช็กบาลานซ์ทั้งหมด เพราะทุกคนคือคนไทยหมด การประชุมครั้งแรกคงกำหนดไม่ได้เพราะต้องประกาศก่อนให้เป็นที่ทราบว่าใคร อยู่กลุ่มไหนมีจำนวนเท่าไร ใครควรจะเป็นประธานเป็นเลขาฯ แล้วจะเรียกประชุมมอบนโยบายแบ่งกลุ่มให้ทำงานให้เสร็จจากนั้นก็จะมาดูว่า ต้องทำงบประมาณต้องวางแผนว่าใน 30 ปีต้องทำอะไรบ้างนึกภาพอีก 30 ปีจะได้อยู่กันอย่างสบายหลังจากผมตายแล้ว ผมอยากให้เป็นอย่างนั้น” นายไตรรงค์กล่าว
เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่กับกลุ่มเอ็นจีโอบางกลุ่มที่อาจจะมีปัญหา นายไตรรงค์กล่าวว่า ตนก็จะเลือกเฉพาะที่ไม่ปัญหา ที่ฟังไม่รู้เรื่องก็ไม่เชิญมา เพราะเอ็นจีโอบางคนก็ใจแคบ บางคนก็ใจกว้าง แต่เราก็จะเลือกเอาคนที่ทำงานร่วมกับเราได้ ผู้สื่อข่าวถามว่า นอกจากที่ปรึกษาแล้วยังมีหน่วยงานราชการอื่นเข้ามาช่วยมากน้อยแต่ไหน นายไตรรงค์กล่าวว่า หน่วยที่เกี่ยวข้องจะมาช่วยหมด โดยตนจะไปพูดกับ รมต.ว่าการกระทรวงต่างๆ และหัวหน้าพรรคต่างๆ ซึ่งเป็นงานที่ตนต้องไปเจรจา ทุกคนต้องช่วยกัน กับกระทรวงพาณิชย์เองก็ยังไม่มีการพูดคุยเป็นงานเป็นการ มีแต่พูดคุยส่วนตัว ตนเข้าใจว่าเวลานี้ทุกคนต่างก็รอตนอยู่
