“ประสาท” ซัดนักการเมือง-นักธุรกิจ ตัวงาบป่าสงวนทุกรูปแบบ วอนประชาชนช่วยเป็นหูเป็นตาป้องกันพวกกินที่หลวง คาดสอบที่เขากระโดง บุรีรัมย์ เสร็จในไม่ช้า ไม่พูดมติ ก.ตร. แนะรอฟังผลที่ประชุมพรุ่งนี้
วันนี้ (18 ม.ค.) ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายประสาท พงษ์ศิวาภัย กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เป็นประธานเปิดโครงการ “เสริมสร้างเครือข่ายในการพิทักษ์สาธารณสมบัติของแผ่นดิน” โดยให้สัมภาษณ์ ว่า ป.ป.ช.ได้รับเรื่องร้องเรียนเป็นจำนวนมากเกี่ยวกับเรื่องของการบุกรุกทำลายป่าไม้ ป.ป.ช.จึงคิดว่าไม่ควรที่จะแก้ปัญหาที่ปลายเหตุโดยการปราบปรามเจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือผู้ที่มีอำนาจ ให้ประชาชนเป็นหูเป็นตามาเป็นพยานในการชี้ช่อง แจ้งความ ตนมองว่าการป้องกันดีกว่าการปราบปราม โดยพบว่ามีนักการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้องเป็นจำนวนมาก คือมีนักการเมืองท้องถิ่น นักการเมืองระดับประเทศ และระดับสูงที่เกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ รวมถึงนักธุรกิจเอกชน และมีการบุกรุกทุกรูปแบบ ทั้งอุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า พื้นที่ชายทะเล การบุกรุกพื้นที่นั้นๆหากเจ้าหน้าที่เพิกเฉยก็จะโดน ป.ป.ช.ไต่สวนไปด้วย เนื่องจากเป็นการให้ความช่วยเหลือ
ส่วนกรณีการออกเอกสารสิทธิที่ดิน น.ส.3 และ น.ส.3 ก.โดยมิชอบ ทับที่สาธารณประโยชน์ “ทำเลเลี้ยงสัตว์โคกเขากระโดง” ตำบลอิสาณ อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์นั้น นายประสาทกล่าวว่า เรื่องนี้เป็นหน้าที่ของนายวิชา มหาคุณ ป.ป.ช.ซึ่งเป็นประธานอนุกรรมการไต่สวน คาดว่าจะเสร็จในไม่ช้า ขณะที่กรณีคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ ยังคงมติเดิมที่กลับมติ ป.ป.ช.ให้ 3 นายตำรวจกลับเข้ารับราชการ นายประสาทปฏิเสธที่จะตอบคำถาม กล่าวเพียงว่ายืนยันว่าเราทำตามหน้าที่ให้ตัวบทกฎหมายของเราเท่านั้น ขอให้รอผลการประชุมของกรรมการ ป.ป.ช.ในวันพรุ่งนี้ (19 ม.ค.) จะดีกว่า
วันนี้ (18 ม.ค.) ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายประสาท พงษ์ศิวาภัย กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เป็นประธานเปิดโครงการ “เสริมสร้างเครือข่ายในการพิทักษ์สาธารณสมบัติของแผ่นดิน” โดยให้สัมภาษณ์ ว่า ป.ป.ช.ได้รับเรื่องร้องเรียนเป็นจำนวนมากเกี่ยวกับเรื่องของการบุกรุกทำลายป่าไม้ ป.ป.ช.จึงคิดว่าไม่ควรที่จะแก้ปัญหาที่ปลายเหตุโดยการปราบปรามเจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือผู้ที่มีอำนาจ ให้ประชาชนเป็นหูเป็นตามาเป็นพยานในการชี้ช่อง แจ้งความ ตนมองว่าการป้องกันดีกว่าการปราบปราม โดยพบว่ามีนักการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้องเป็นจำนวนมาก คือมีนักการเมืองท้องถิ่น นักการเมืองระดับประเทศ และระดับสูงที่เกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ รวมถึงนักธุรกิจเอกชน และมีการบุกรุกทุกรูปแบบ ทั้งอุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า พื้นที่ชายทะเล การบุกรุกพื้นที่นั้นๆหากเจ้าหน้าที่เพิกเฉยก็จะโดน ป.ป.ช.ไต่สวนไปด้วย เนื่องจากเป็นการให้ความช่วยเหลือ
ส่วนกรณีการออกเอกสารสิทธิที่ดิน น.ส.3 และ น.ส.3 ก.โดยมิชอบ ทับที่สาธารณประโยชน์ “ทำเลเลี้ยงสัตว์โคกเขากระโดง” ตำบลอิสาณ อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์นั้น นายประสาทกล่าวว่า เรื่องนี้เป็นหน้าที่ของนายวิชา มหาคุณ ป.ป.ช.ซึ่งเป็นประธานอนุกรรมการไต่สวน คาดว่าจะเสร็จในไม่ช้า ขณะที่กรณีคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ ยังคงมติเดิมที่กลับมติ ป.ป.ช.ให้ 3 นายตำรวจกลับเข้ารับราชการ นายประสาทปฏิเสธที่จะตอบคำถาม กล่าวเพียงว่ายืนยันว่าเราทำตามหน้าที่ให้ตัวบทกฎหมายของเราเท่านั้น ขอให้รอผลการประชุมของกรรมการ ป.ป.ช.ในวันพรุ่งนี้ (19 ม.ค.) จะดีกว่า
