ในปี 2553 องค์กรอิสระ ทั้งสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.และสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ประกาศทำงานในเชิงรุก เพื่อติดตามตรวจสอบนโยบายรัฐบาลให้ทันกับสถานการณ์การทุจริต และประพฤติมิชอบให้มากขึ้น โดยนายวิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช. ยอมรับว่า ข้อกฎหมายเป็นอุปสรรคสำคัญต่อกระบวนการเอาผิดผู้ทุจริต แต่ในปีหน้าคาดว่าร่าง พ.ร.บ. ป.ป.ช.แก้ไขเพิ่มเติมในการกันบุคคลที่เกี่ยวข้องกับเหตุทุจริตไว้เป็นพยานจะออกมาบังคับใช้ ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถเอาผิดผู้ทุจริตได้จนถึงระดับสั่งการ
กรรมการ ป.ป.ช.หยิบยกกรณีเหตุการณ์ 7 ตุลาคม 2551 ที่ ป.ป.ช.ชี้การทำงานของตำรวจไปมอบด้วยกฎหมายมาทำวิจัยหาสาเหตุที่มาของการประพฤติมิชอบ เพื่อป้องกันก่อนเหตุจะเกิด และในปีหน้าจะเห็นงานของ ป.ป.ช.ในลักษณะการปราบปรามควบคู่ไปกับการป้องกันมากขึ้น
ขณะที่ นางสดศรี สัตยธรรม กรรมการการเลือกตั้ง กล่าวว่า ปี 2552 เป็นปีแห่งการมีส่วนร่วมระหว่างนักการเมืองกับ กกต.ด้วยการปูพื้นฐานให้นักการเมืองเกิดความรู้ ความเข้าใจในการเมืองและการเลือกตั้ง เมื่อจบหลักสูตรการอบรมนี้แล้ว เชื่อว่า นักการเมืองจะเข้าใจรากฐานการเมืองที่แท้จริง และจะนำไปถ่ายทอดสู่ประชาชน
กรรมการ ป.ป.ช.หยิบยกกรณีเหตุการณ์ 7 ตุลาคม 2551 ที่ ป.ป.ช.ชี้การทำงานของตำรวจไปมอบด้วยกฎหมายมาทำวิจัยหาสาเหตุที่มาของการประพฤติมิชอบ เพื่อป้องกันก่อนเหตุจะเกิด และในปีหน้าจะเห็นงานของ ป.ป.ช.ในลักษณะการปราบปรามควบคู่ไปกับการป้องกันมากขึ้น
ขณะที่ นางสดศรี สัตยธรรม กรรมการการเลือกตั้ง กล่าวว่า ปี 2552 เป็นปีแห่งการมีส่วนร่วมระหว่างนักการเมืองกับ กกต.ด้วยการปูพื้นฐานให้นักการเมืองเกิดความรู้ ความเข้าใจในการเมืองและการเลือกตั้ง เมื่อจบหลักสูตรการอบรมนี้แล้ว เชื่อว่า นักการเมืองจะเข้าใจรากฐานการเมืองที่แท้จริง และจะนำไปถ่ายทอดสู่ประชาชน
