ที่ประชุม ป.ป.ช.คาใจท่าทีรองนายกฯ ด้านความมั่นคง มีมติทำหนังสือสอบถามจุดยืน ก.ตร.อย่างเป็นทางการ เชื่อจงใจอุ้ม 3 บิ๊ก ตร.เข่นฆ่า ปชช.กลับเข้ารับราชการ แถมทะลึ่งกลับลำคำวินิจฉัย ป.ป.ช.
วันนี้ (12 ม.ค.) น.ส.สมลักษณ์ จัดกระบวนพล กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยว่า ที่ประชุม ป.ป.ช.วันนี้ (12 ม.ค.) ได้หารือกรณีที่คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) มีมติให้ตำรวจ 3 นายที่ถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดวินัยร้ายแรงในคดีสั่งสลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551 กลับเข้ารับราชการ เนื่องจาก ป.ป.ช.เห็นว่ากรณีนี้อยู่ในความสนใจของประชาชน อีกทั้งยังเป็นการกลับมติของ ป.ป.ช.
“ที่ประชุมจึงมีมติให้สำนักงานเลขาธิการ ป.ป.ช.ทำหนังสือสอบถามไปยังนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ในฐานะประธาน ก.ตร. และสอบถามไปยัง ก.ตร.ด้วย เพื่อขอสำเนามติอย่างเป็นทางการ ก่อนนำเข้าสู่การพิจารณาของ ป.ป.ช.ชุดใหญ่อีกครั้ง” น.ส.สมลักษณ์กล่าว และว่า หาก ป.ป.ช.ได้รับหนังสือตอบกลับมาโดยเร็ว จะเรียกประชุมนัดพิเศษในทันที
ส่วนกรณีที่ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหา ยื่นเรื่องให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบกรณี ส.ส.พรรคเพื่อไทยรับของขวัญมูลค่าเกิน 3,000 บาท ในการจัดงานฉลองเทศกาลปีใหม่ น.ส.สมลักษณ์กล่าวว่า ที่ประชุม ป.ป.ช.ยังไม่ได้พิจารณาเพราะอยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลของเจ้าหน้าที่
ด้าน นายเมธี ครองแก้ว กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยถึงการประชุมกรรมการ ป.ป.ช.ชุดใหญ่ในวันที่ 12 มกราคมว่า การประชุมยังไม่มีการนำเรื่องที่คณะกรรมการข้าราชการตำรวจแห่งชาติ (ก.ตร.) มีมติขัดแย้งกับความเห็นของ ป.ป.ช.กรณีที่ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ตร., พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว อดีต ผบช.ภาค 4, พล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ ภราดรศักดิ์ อดีต ผบก.ภ.จว. อุดรธานี ที่มติ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดวินัยร้ายแรง จากเหตุสลายการการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551 โดยให้นายตำรวจทั้ง 3 นายออกจากราชการ แต่มติ ก.ตร.กลับเห็นว่านายตำรวจทั้ง 3 ไม่มีความผิด และยังทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีเพื่อขอให้คืนตำแหน่งราชการดังเดิม แต่ขณะนี้ ป.ป.ช.มอบหมายให้สำนักเลขาธิการ ป.ป.ช.ทำหนังสือถึงนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความความมั่นคง ในฐานะที่เป็นประธาน ก.ตร. เพื่อขอดูเอกสารสำเนามติในการพิจารณาข้อเท็จจริงของ ก.ตร.ในเรื่องดังกล่าว เพื่อนำมาพิจารณาในการประชุมต่อไป
