“เรืองไกร” ประเดิมงานแรกของปีเสือ จ่อเล่นเพื่อไทยจับรางวัลฉลองปีใหม่ ยันต้องมีหลักฐานฟันได้แน่ แย้มประชาธิปัตย์อาจโดนด้วย ด้าน “เด็จพี่” เปิดโรงน้ำแข็ง พูดมาได้ไม่มีใครรับรางวัลแม้แต่ชิ้นเดียว อ้างเสร็จงานเลี้ยงก็กลับไปเตรียมเลือกตั้งซ่อม ซัด “สมลักษณ์” ชี้โพรงให้พวกฟ้อง หวังแก้แค้นถูก “เพื่อแม้ว” ร้องถอดถอน ปูดอีกมี พล.อ.ใกล้ชิดองคมนตรีครองที่เขายายเที่ยงด้วย
นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหา กล่าวถึงกรณีที่ น.ส.สมลักษณ์ จัดกระบวนพล คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ระบุว่า ส.ส.พรรคเพื่อไทยจัดงานวันปีใหม่ เมื่อวันที่ 23 ธ.ค.2552 ที่ผ่านมา โดยมีการแจกรางวัลของขวัญชิ้นใหญ่ เช่น รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ โน้ตบุ๊ก และนาฬิกา เข้าข่ายขัดกฎหมาย ป.ป.ช.มาตรา 103 ที่ห้ามไม่ให้ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองรับสิ่งของที่มีมูลค่าเกิน 3,000 บาทว่า ตนได้ติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดแต่เบื้องต้นตนยังไม่เห็นของกลาง แต่คาดว่าจะสามารถรวบรวมหลักฐานได้เร็วๆ นี้ อย่างไรก็ตาม นอกจากติดตามเรื่องของพรรคเพื่อไทยแล้ว ตนยังได้ติดตามกรณีของพรรคประชาธิปัตย์เช่นกัน เนื่องจากมีการจัดงานปีใหม่และมีการแจกของรางวัลเช่นกัน หากตนสามารถรวบรวมหลักฐานได้ทั้งหมดแล้วจะยื่นต่อ ป.ป.ช.ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป ซึ่งในเรื่องนี้หากมีการแจกจริงเชื่อว่าไม่ยากในการหาของกลางที่แจกไปแต่ยอมรับว่าการแจก นาฬิกาหรือโน้ตบุ๊กอาจจะตรวจสอบยาก แต่หากมีการแจกรถยนต์และมีการรับของรางวัลจริง ก็จะมีหลักฐานการเซ็นรับอย่างแน่นอน เพราะถ้าเป็นกรณีของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่มีการรับของกลางทั้งแหวนทองคำ และงาช้าง ล้วนมีหลักฐานชัดเจน
ด้าน นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีเดียวกันว่า การออกมาให้สัมภาษณ์ของนางสมลักษณ์เห็นได้ชัดว่าเป็นการกล่าวเปิดช่องชี้โพรงให้กระรอก ซึ่งจากการตรวจสอบทั้งหมดทราบว่าไม่มีการแจกของขวัญให้กับ ส.ส.ในพรรคเพื่อไทยแม้แต่ชิ้นเดียว อีกทั้งภายหลังการจัดงานทุกคนต่างยุ่งกับเรื่องการลงพื้นที่หาเสียงในการเลือกตั้งซ่อมที่ จ.มหาสารคาม และจ.ปราจีนบุรี และยืนยันว่าการจัดงานดังกล่าวได้มีการเชิญสื่อมวลชนร่วมงานอย่างเปิดเผย ไม่มีอะไรแอบแฝง ทั้งนี้ ตนขอตั้งข้อสังเกตว่าเหตุใด น.ส.สมลักษณ์ จึงออกมาให้ข่าวในลักษณะชี้โพรงให้กระรอกและให้สัมภาษณ์อย่างเป็นทางการ ทั้งที่เรื่องดังกล่าวยังไม่มีผู้ร้องเรียน พฤติกรรมดังกล่าวเป็นไปในลักษณะเหมือนเปิดช่องเพื่อให้มีผู้ร้องเรียนและจะได้มาดำเนินการกับ ส.ส.พรรคเพื่อไทยใช่หรือไม่ เนื่องจากมีเหตุจูงใจให้ตั้งข้อสังเกตเช่นนี้เพราะอาจมาจากการที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทยได้ยื่นคำร้องไปยังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพื่อให้เอาผิดกับ ป.ป.ช.ทั้ง 9 คนที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
“พฤติกรรมของ น.ส.สมลักษณ์ครั้งนี้จึงน่าจะเป็นการกระทำเพื่อหวังแก้แค้นหรือเอาคืน ส.ส.พรรคเพื่อไทยใช่หรือไม่ และการที่ น.ส.สมลักษณ์ ได้นำญาติที่มีนามสกุลเดียวกันมาเป็นเลขาฯ ได้รับเงินเดือนๆ ละกว่า 40,000 บาท มีความเหมาะสมหรือไม่ ผมอยากเรียกร้องให้ ป.ป.ช.ปฏิบัติหน้าที่พิจารณาคดีต่างๆที่มีอยู่มาก มายมหาศาลให้เสร็จสิ้นจะดีที่สุดเพราะมีคดีใหญ่ๆ ค้างอยู่อีกหลายเรื่อง” นายพร้อมพงศ์กล่าว
นายพร้อมพงศ์กล่าวอีกว่า จากกรณีดังกล่าวตนเทียบเคียงกับกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่ได้รับแหวนทองคำเป็นที่ระลึก อีกทั้งยังได้รับงาช้างอีก 1 คู่จากนายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม ที่เป็นข่าวและมีหลักฐานอย่างชัดเจนว่ามีมูลค่าเกิน 3,000 บาท แต่นายวิชา มหาคุณ กลับออกมาชี้ช่องกฎหมายเชิงแนะนำนายอภิสิทธิ์ว่า หากรับมาโดยไม่ทราบจำนวนราคาสามารถส่งคืนเจ้าของได้อีกทั้งเรื่องดังกล่าวยังได้มีการยื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช.ให้ดำเนินคดีต่อนายอภิสิทธิ์ ตามกฎหมาย ป.ป.ช.มาตรา 103 แต่สุดท้ายนายอภิสิทธิ์ได้นำของไปคืนเจ้าของทั้งหมดและ ป.ป.ช.ได้ยกคำร้องในคดีดังกล่าว จึงเห็นได้ว่า ป.ป.ช.ปฏิบัติหน้าที่ 2 มาตราฐาน
นายพร้อมพงศ์กล่าวถึงกรณีที่มีการบุกรุกเขายายเที่ยงของ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรีและอดีตนายกรัฐมนตรีว่า นอกจาก พล.อ.สุรยุทธ์ แล้วยังมีบุคคลใกล้ชิดระดับพลเอก ได้บุกรุกพื้นที่เขายายเที่ยงซึ่งเป็นเขตป่าอนุรักษ์เช่นกันจำนวน 150 แปลง ซึ่งบุคคลดังกล่าวมีความใกล้ชิดกับองคมนตรีเป็นอย่างดี แต่ ป.ป.ช.กลับไม่มีการตรวจสอบทั้งๆ ที่อยู่ในความรับผิดชอบของ ป.ป.ช. อย่างไรก็ตาม หากมีการคืนพื้นที่เขตป่าอนุรักษ์ดังกล่าวจริงตนก็ยังเห็นว่า เป็นความผิดที่สำเร็จแล้วไม่สามารถยกคำร้องได้ อย่าคิดว่าคืนที่ดินแล้วจะพ้นความผิดได้