ไม่รู้ไปกินหัวใจหมี ดีมังกรมาจากไหน ขึ้นปีที่สองในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็เดินหน้าเปิดเกมรุกทางการเมืองทันที ประกาศล้มโครงการหวยออนไลน์ ที่เดินหน้ามาจนใกล้จะได้ฤกษ์คลอดแล้ว กำหนดกันไว้คร่าวๆ ในช่วงเดือนกุมภาพันธุ์ หรือมีนาคมนี้
ที่ว่า เป็นเกมรุกทางการเมือง ก็เพราะว่างานนี้ นายอภิสิทธิ์น่าจะได้คะแนนนิยมไปเต็มๆ จากคนที่ไม่เห็นด้วยกับหวยออนไลน์ ด้วยเหตุผลว่า เป็นการส่งเสริมอบายมุข ซึ่งคนกลุ่มนี้มีอยู่มาก และเป็นพลังเงียบที่ไม่ค่อยมีใครได้ยินเสียง
การตัดสินใจล้มโครงการหวยออนไลน์ครั้งนี้ ต้องถือว่า เป็นมิติใหม่ในการตัดสินใจของผู้นำรัฐบาล ที่ให้น้ำหนักกับ ประโยชน์ของสังคมส่วนใหญ่ ไม่เอาแต่อ้างว่า ต้องทำตามสัญญา ไม่เช่นนั้น จะถูกเอกชนฟ้องเรียกค่าเสียหาย และต่างชาติไม่เชื่อมั่นในประเทศไทย เหมือนที่ผ่านมา ที่ประชาชนต้องถูกมัดมือชกอยู่ข้างเดียวจากสัญญาที่ไม่เป็นธรรม ดั่งเช่น กรณีของการขึ้นค่าผ่านทางดอนเมืองโทลเวย์เมื่อเร็วๆ นี้
ที่แปลก และเป็นเรื่องเดียว ที่นายอภิสิทธิ์ถูกวิพากษ์วิจารณ์ก็คือ ถ้าไม่เห็นด้วย แล้วทำไมจึงปล่อยให้ สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ดำเนินการมาโดยตลอด ทำไมจึงไม่ค้าน และสั่งระงับโครงการตั้งแต่แรก ปล่อยให้ทุกอย่างเดินหน้าไป จนจะขายกันอยุ่แล้ว จึงออกมาระงับ แล้วทำไมนายกฯต้องออกโรงแอง ทั้งๆที่เรื่องนี้เป็นเรื่องของกระทรวงการคลัง ทำเหมือนจะเอาความดีใส่ตัว เป็นพระเอกตอนจบอยู่คนเดียว
ความจริงแล้ว นายอภิสิทธิ์ และบางส่วนในพรรคประชาธิปัตย์ ในสมัยที่เป็นฝ่ายค้านก็มีจุดยืนต่อต้าน การออกหวยออนไลน์ ในสมัยของ นช. ทักษิณ ชินวัตรอยู่แล้ว เมื่อมาเป็นรัฐบาลเอง ก็ไม่ต้องการให้โครงการนี้เกิดขึ้น เพราะจะถูกฝ่ายค้านโจมตีได้ว่า พูดอย่าง ทำอย่าง ว่าต่าเขา อิเหนาเป็นเอง
หนังสือ พิมพ์ผู้จัดการ 360 องศารายสัปดาห์ ฉบับวันที่ 15 ตุลาคม 2552 รายงานไว้ว่า โครงการหวยออนไลน์นี้ เป็นข้อตกลงระหว่างนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์กับ พรรครวมใจไทยชาติพัฒนา ตอนที่ไปชวนกันมาจัดตั้งรัฐบาลว่า โครงการนี้ต้องเกิด และอยุ่ภายใต้การดูแลของ นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ เลขาธิการพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา
เมื่อตั้งรัฐบาลได้แล้ว นายประดิษฐ์ได้เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กำกับดูแล สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล พยายามผลักดันโครงการหวยออนไลน์อย่างเต็มที่ โดยลงนามอนุมัติไปตั้งแต่วันที่ 17 มิถุนายน 2552 ตั้งเป้าหมายไว้ว่า จะให้เป็นของขวัญวันขึ้นปีใหม่ 2553 มีการออกข่าวเป็นระยะๆ นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีคลังก็ไม่คัดค้านอะไร
จนกระทั่งถึงปลายเดือนกันยายน นายอภิสิทธิ์เรียกนายกรณ์ไปสั่งว่า ไม่ต้องการให้โครงการหวยออนไลน์เกิด เพราะ พรรคประชาธิปัตย์เคยแสดงจุดยืนคัดค้านไว้แล้ว ตัวนายอภิสิทธิ์เอง หลังรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีใหม่ๆ มีกลุ่มเครือข่ายเด็ก และเครือข่ายพ่อแม่ ๆ ไปยื่นหนังสือต่อต้านหวยออนไลน์ ในครั้งนั้น เขาให้สัมภาษณ์ว่า ไม่เห็นด้วย โดยกล่าวว่า
“เรื่องหวยบนดิน ผมไม่เคยสนับสนุนหลักคิดที่ว่า อะไรผิดกฎหมายปราบไม่ได้แล้ว ต้องเอาขึ้นมาให้ถุกกฎหมาย ผมไม่ยอมรับ”
แต่โครงการหวยออนไลน๋ก็ยังคงเดินหน้าต่อไป หลังจากนายสถิตย์ ลิ่มพงษ์พันธุ์ ได้รับการแต่งตั้งเป็นปลัดกระทรวง และเป็นประธานคณะกรรมการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เดินหน้าจะออกหวยออนไลน์ให้ได้ มีการส่งเรื่องไปให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตีความว่า ออกหวยออนไลน์ได้ไหม ซึ่งผลออกมาว่า ออกได้ ภายใต้กฎหมายการพนันและสลากการกุศล มีการ สร้างฉันทามติสนับสนุนหวยออนไลน์ โดยให้นายนครินทร์ เมฆไตรรัตน์ อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หนึ่งในคณะกรรมการสำนักงานสลากฯ ไปว่าจ้างสวนดุสิต โพลล์ ไปสำรวจความเห็นประชาชน ซึ่งแน่นอนว่า สวนดุสิต โพลล์ต้องเดาใจเจ้าของเงินถูกว่า อยากให้ผลสำรวจออกมาแบบไหน
ผลสำรวจความเห็นของประชาชน 10,462 คนในครั้งนั้น ปรากฏว่า 53 % เห็นด้วยกับโครงการหวยออนไลน์ ซึ่งถูกใช้เป็นข้ออ้างในการผลักดันโครงการนี้
เรียกว่า นายประดิษฐ์ทำทุกอย่าง เพื่อให้โครงการหวยออนไลน์เกิดให้ได้ รวมทั้งการเคลียร์กับนายกรณ์จนรู้เรื่อง ดังนั้น เมื่อ นายอภิสิทธิ์ ออกมาเบรกโครงการนี้ด้วยตัวเอง คนที่เจ็บปวดที่สุดคนหนึ่งคือ นายประดิษฐ์ เพราะไม่รู้จะไปพูดกับบริษัทล็อกซ์ เลย์ ซึ่งได้รับการคัดเลือกจากกองสลาก ให้เป็นผู้ติดตั้งเครื่องขายหวย 12,000 เครื่องอย่างไร
นายประดิษฐ์จะเจ็บปวดอย่างไร ก็พูดไม่ได้ เพราะนี่คือ นโยบายของนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นหัวหน้ารัฐบาล และนายประดิษฐ์ก็ไม่จำเป็นต้องพูด เพราะนายสังศิต พิริยะรังสรรค์ นักวิชาการหวยได้พูดแทนทั้งหมดแล้ว นายประดิษฐ์แม้จะอยู่พรรครวมใจไทยชาติพัฒนา แต่ใจไม่เคยห่างจาก พลตรีสนั่น ขจรประศาสน์ และนายสังศิตก็มีความสนิมสนมกับพลตรีสนั่น ถึงขั้นเคยเป็นที่ปรึกษามาแล้ว
จึงไม่ต้องแปลกใจที่นายสังศิต จะต้องโจมตีนายอภิสิทธิ์ในเรื่องนี้
นอกจากนายประดิษฐ์แล้ว ผู้ที่ต้องสูญเสียจากการที่นายอภิสิทธิ์ล้มโครงการหวยออนไลน์ ก็คือ บริษัทล๊อกซ์เลย์ ซึ่งใช้เวลาในการผลักดันเรื่องนี้มา 4 ปีเต็มๆ ติดตั้งเครื่องไปแล้ว 6,000 เครื่อง หมดเงินไปกับค่าวางระบบ 2,000 ล้านบาท ส่วนเงินค่าหล่อเลี้ยงให้โครงการเดินหน้าไปได้ จะเป็นเท่าไร มีหรือไม่ ไม่รู้ แต่ที่ล็อกซ์เลย์ เสียดายสุดๆคือ ค่าคอมมิชชั่น ที่ทุกครั้งที่มีคนกดซื้อหวยจะได้ส่วนแบ่ง 0.75 % คิดเป็นงวดละ 75 ล้านบาท รวมทั้งหมด 8 ปี 14,400 ล้านบาท
กำลังจะได้เป็นเสือนอนกิน จู่ๆก็ถูกนายอภิสิทธิ์ ง้างปากดึงเอาเนื้อก้อนใหญ่ออกไป
สำหรับสังคมไทย ไม่ได้อะไรจากเรื่องนี้ เพราะไม่มีตู้หวยออนไลน์ ก็ซื้อหวยใต้ดินได้ทั่วไปอยู่แล้ว การพนันขันต่อ เป็นนิสัยของคนทั่วโลก ไม่ใช่เฉพาะคนไทย ห้ามไม่ได้ ต้องให้เรียนรู้กันเอง ส่วนเยาวชนที่นายอภิสิทธิ์เป็นห่วงว่าจะเข้าถึงอบายมุขได้ง่ายขึ้นนั้น ไม่ต้องห่วง เพราะหวยเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ เด็กๆสมัยนี้ ชอบพนันบอล เพราะมีให้เล่นเกือบทุกวัน มีโต๊ะรับแทงอยู่ทุกหนแห่ง แทงก่อน จ่ายทีหลัง ไม่ต้องกำเงินสดไปแทง เหมือนซิ้อหวย
จะมีก็แต่นายอภิสิทธิ์ ที่กินรวบอยู่คนเดียว จากการล้มโครงการหวยออนไลน์ครั้งนี้