“ส.ว.คำนูณ” ชี้ พท.ทุ่มศึกซ่อม ส.ส.มหาสารคามสุดกำลัง แต่ชนะแค่เฉียดฉิว ทำเอา ภท.ตาสว่างเห็นทางชนะ พท.ในภาคอีสาน เร่งดึง รธน.40 กลับคืน หวังใช้สิทธิเขตเดียวเบอร์เดียวหักลำ พท. ระบุเห็นต่างแก้ รธน.ทำสภาวุ่น พท.ค้านหัวชนฝาไม่แก้ประเด็นเขตเลือกตั้งเหมือน ภท.เพราะจะเสียเปรียบ ขณะที่ ส.ว.กลุ่มหนึ่งจะผลักดันแก้ไข 6 ประเด็นตามคณะกรรมการสมานฉันท์ ส่วน ปชป.ลอยตัว เพราะไม่แก้ก็ไม่เสียประโยชน์ กุมสถานการณ์ไม่อยู่ก็ยังยุบสภาได้
วันนี้ (4 ม.ค.) นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองไทยในช่วงนี้ว่า พรรคร่วมรัฐบาลโดยเฉพาะพรรคภูมิใจไทย จะผลักดันให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ประเด็นเขตเลือกตั้ง จากเขตละ 3 คนเป็นเขตเดียวคนเดียว เพราะจากผลการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.มหาสารคาม ที่พรรคเพื่อไทยชนะไปอย่างหวุดหวิด เมื่อดูคะแนนโดยละเอียดแล้ว หากเป็นการเลือกตั้งแบบเขตเดียวคนเดียวเหมือนรัฐธรรมนูญ 2540 พรรคภูมิใจไทยจะชนะอย่างแน่นอน การเลือกตั้งครั้งนี้พรรคเพื่อไทยทุ่มเทเต็มที่ คนเสื้อแดงทุกกลุ่มก็ช่วยเต็มที่ แต่ก็ยังชนะหวุดหวิด ในขณะที่พรรคภูมิใจไทยปรับตัวอย่างหนักหลังแพ้เลือกตั้งซ่อมที่สกลนคร ไม่ชูนายเนวิน ชิดชอบ ให้โดดเด่นเกินไป ทำงานลึกเป็นหลัก และเน้นประเด็นพิทักษ์เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์
“ภูมิใจไทยแพ้พันกว่าคะแนน ถือว่าชนะ มหาสารคามโมเดลจะเป็นต้นแบบการหาเสียงของพรรคนี้ต่อไป และจะเป็นแรงผลักดันให้พวกเขาต้องเร่งแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นการเลือกตั้งแบบเขตเดียวคนเดียว เพราะเห็นว่านี่เป็นหนทางที่จะชนะพรรคเพื่อไทยในภาคอีสาน ซึ่งก็สอดคล้องกับความต้องการของพรรคชาติไทยพัฒนา ผมมองว่าพรรคประชาธิปัตย์คงจะขัดยาก แต่จะมีวาทกรรมว่าปล่อยให้เป็นเรื่องของรัฐสภา และถ้าจะมีการต่อรองก็คงเป็นให้คงการเลือก ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อไว้ที่ 8 บัญชี 80 คนทั่วประเทศเหมือนเดิม ไม่ต้องแก้ให้เป็นบัญชีเดียว 100 คนเหมือนรัฐธรรมนูญ 2540” นายคำนูณกล่าว
นายคำนูณกล่าวต่อไปว่า ความพ่ายแพ้อย่างเฉียดฉิวของพรรคภูมิใจไทยจะทำให้พรรคนี้ไม่กลัวการยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่เหมือนหลังการพ่ายแพ้ที่สกลนครเมื่อปีก่อน การแข็งขืนต่อพรรคประชาธิปัตย์จึงจะมีมากขึ้น แต่จะพยายามผลักดันให้มีการแก้รัฐธรรมนูญในประเด็นเขตเลือกตั้งก่อนยุบสภา ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์เองก็น่าจะรู้ตัวว่ายากจะประคองสถานการณ์ให้ผ่านปี 2553 ไปได้โดยไม่ยุบสภา การเตรียมการเลือกตั้งจึงเริ่มมีให้เห็น เพียงแต่พรรคประชาธิปัตย์ไม่มีความจำเป็นจะต้องผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะจะไม่ได้ประโยชน์อะไรโดยตรงเหมือนพรรคภูมิใจไทย
อย่างไรก็ตาม นายคำนูณเห็นว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญคงจะไม่ง่าย เพราะมีความเห็นแตกแขนงกันเป็นหลายทาง พรรคเพื่อไทยไม่ต้องการแก้ไขเฉพาะประเด็นเขตเลือกตั้งเหมือนพรรคภูมิใจไทย เพราะตนจะเสียเปรียบ ขณะที่ส.ว.กลุ่มหนึ่งจะผลักดันแก้ไข 6 ประเด็นตามคณะกรรมการสมานฉันท์ ส่วนพรรคประชาธิปัตย์คงจะลอยตัว เพราะไม่แก้ก็ไม่เสียประโยชน์ กุมสถานการณ์ไม่อยู่ก็ยังยุบสภาได้
“การเปิดประเด็นว่าจะยกเลิกหวยออนไลน์ของนายกฯ มองในมุมหนึ่งก็เป็นการหาคะแนนนิยมของนายกฯและพรรคประชาธิปัตย์ได้เช่นกัน และดูเหมือนเรื่อง พ.ร.บ.กู้เงิน 4 แสนล้านที่ติดอยู่ในชั้นกรรมาธิการร่วม นายกฯก็ไม่เป็นห่วงมากแล้วว่าจะผ่านหรือไม่ หรือจะผ่านออกมาอย่างไร เพราะลำพังเงินกู้ประมาณ 3 แสนล้านบาทที่ใช้จาก พ.ร.ก.กู้เงิน 4 แสนล้าน ก็น่าจะเพียงพอให้ประชาชนจดจำพรรคประชาธิปัคย์ได้แล้วในช่วงเลือกตั้ง” นายคำนูณกล่าว
