หนาวนี้ ใครๆ ก็ไปที่ยวอำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย เมืองเล็กๆ ริมฝั่งแม่น้ำโขงที่กำลังมาแรงในหมู่นักท่องเที่ยว ที่มีรสนิยมโหยหาบรรยากาศบ้านเรือนวิถีชีวิตแบบอดีต
ใครมาเที่ยวเชียงคานช่วงนี้ จะถูกทักว่า ไปเที่ยวตรงจุดเกิดเหตุ ที่นาธาน โอมาน นักร้อง นักแสดงขี้โกง ซึ่งหนีหมายจับ มาถูกตำรวจตะครุบตัวเข้าตะรางที่นี่
แม่เลี้ยงนาธาน อยู่เชียงคาน จึงพาหนีหมายจับคดีโกงเงินแม่บ้าน ของสถานีตำรวจภูธรอำนาจเจริญ มากบดานที่นี่ เมืองเล็กๆ แบบนี้ ผู้คนรู้จักกันหมด จะไปหลบใครพ้น ยิ่งทำตัวแบบเอิกเกริก มีนักการเมืองท้องถิ่น จัดปาร์ตี้ต้อนรับ พาตระเวนชมเมือง ขนาดโพกหัว ปิดหน้า ปิดตา ใส่แว่นดำ ยังมีคนจำไฮไลท์ผม รอยสักที่ข้อเท้าซ้าย และวิธีใส่รองเท้าแบบเหยียบส้นได้ หลังจากสะกดรอยตามจนแน่ใจว่า ใช่นาธานแน่ จึงโพสต์ข้อมูลขึ้นเว็บไซต์ยอดนิยม กระจายข่าวไปทั่ว เพราะไม่อยากปล่อยให้คนคดมาลอยนวลอยู่ในเชียงคาน
เวลาผ่านไปสองสามวัน กว่าตำรวจอำนาจเจริญ จะพกหมายจับมาถามหา แล้วตามไปรวบตัวได้ที่บ้านพัก
ได้ประกันตัวมาแล้ว ก่อนปีใหม่ ยังมีคนเห็นรถเชฟโรเล็ตสีดำ เลขทะเบียน ศท 1141 ของนาธาน โฉบเฉี่ยวอยู่บนถนนเลียบน้ำโขง ไม่รู้ว่า ไม่มีที่ไป หรือหลงเสน่ห์เชียงคาน จึงย้อนกลับมาอีก
เชียงคาน เพิ่งจะจัดงานครบรอบหนึ่งร้อยปีของการเป็นอำเภอหนึ่งในจังหวัดเลยเมื่อต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา แต่ประวัติศาสตร์ความเป็นมาของชื่อ เชียงคาน ถ้าจะย้อนกลับไปให้ครบถ้วน ตั้งแต่สมัยลาวยังแยกเป็นหลวงพระบางกับเวียงจันทน์ ก็มีความเป็นมานานถึงหนึ่งพันปีเศษ มีการอพยพผู้คนย้ายถิ่นข้ามไปมาระหว่างสองฝั่งแม่น้ำโขง มาโดยตลอด
สุดท้าย สมัยที่ไทยต้องยกดินแดนฝั่งขวาแม่น้ำโขง ให้ฝรั่งเศส คนลาวในเมืองปากเหือง จำนวนมาก ที่อยากพึ่งพระบรมโพธิสมภารมากกว่าอยู่ใต้อาณัติฝรั่งเศส จึงอพยพข้ามแม่น่ำโขงมาอยู่ฝั่งไทย สมทบกับคนลาวที่อยู่ฝั่งนี้ ที่เมืองเชียงคาน ซึ่งอยากอยู่กับไทยมากกว่าอยู่กับฝรั่งเศสเช่นกัน จึงไม่ย้ายกลับไปฝั่งโน้น
พื้นเพคนเชียงคานจึงมาจากลาว แม้จะแยกประเทศกัน แต่ผู้คนทั้งสองฝั่งโขงยังข้ามไปมาหาสู่กัน จนถึงปัจจุบัน มีความเกี่ยวดองเป็นเครือญาติ เหมือนดินแดนอื่นๆ สองฟากฝั่งแม่น้ำโขง ปัจจุบัน อำเภอเชียงคานอยู่ตรงข้ามกับ เมืองสานะคาม ซึ่งขึ้นอยู่กับนครเวียงจันทน์ของลาว
เชียงคาน เพิ่งจะอยู่ในจุดหมายปลายทางแบบ “ สถานที่ท่องเที่ยว 1000 แห่งที่ต้องไปก่อนตาย” ของนักท่องเที่ยว เมื่อไม่ถึง 2 ปีมานี้เอง เริ่มต้นจากการบอกกันแบบปากต่อปาก ผ่านเว็บบอร์ด ในห้องท่องเที่ยวของ เว็บไซต์พันทิพย์ ก่อเกิดเป็นกระแสแบบเงียบๆ ที่มาแรง จนการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กระโดดเข้าไปเล่นด้วย ขนสื่อมวลชนไปทำข่าวโปรโมท และร่วมเป็นโต้โผจัดงาน หนึ่งร้อยปี ของอำเภอเชียงคาน ทำให้เชียงคานดังสุดๆ ในพ.ศ.นี้
เชียงคานมีแรงดูงดูดใจตรงไหน
เชียงคานมีบรรยากาศสงบเงียบ มีถนนสายเล็กๆ เลียบแม่น้ำโขง มีซอยแยกลงตลิ่งน้ำโขง สองข้างทางคือ บ้านเก่า ที่เป็นบ้านไม้ มีตลาดสดเช้า – เย็น ที่เต็มไปด้วยพืชผักพื้นบ้า น และปลาน้ำโขง มีคนท้องถิ่นที่มีความป็นอยู่เรียบง่าย มีน้ำใจไมตรี
เชียงคานจึงเหมือนตลาดสามชุก ตลาดบ้านใหม่ ตลาดคลองสวน ตลาดอัมพวาฯ คือ มีบรรยกาศ บ้านเรือน วิถีชีวิตแบบเก่าๆ ซึ่งกำลัง “อินเทรนด์” สำหรับคนไทยใน พ.ศ.นี้ แต่ เชียงคานมีมากกว่าที่อื่นๆ คือ อากาศหนาวเย็น สบาย และสายหมอกในหน้าหนาว กับ แม่น้ำโขง เช้าๆ ชาวบ้านออกมาใส่บาตรข้าวเหนียว ริมถนนหน้าบ้าน มีพระชักแถว ออกบิณฑบาต เหมือนหลวงพระบาง
เชียงคานยังเป็นสิ่งที่เข้ามาทดแทนอารมณ์ “เบื่อปาย ไม่อยากไปทองหล่อ” ดังนั้น กว่า 80 % ของนักท่องเที่ยวที่เดินอยู่บนถนนศรีเชียงคาน จึงเป็นคนหนุ่มสาว ที่ยังเรียนหนังสือ หรือเพิ่งเริ่มทำงาน เช่นเดียวกับ ผู้ประกอบการร้านขายของที่ระลึก ที่พัก ร้านกาแฟ ร้านอาหาร อีกไม่น้อยที่เป็นคนรุ่นใหม่ ที่มีความฝันอยากจะมีธุรกิจส่วนตัวในเมืองเล็กๆ เงียบสงบ ที่อยู่ในกระแสนิยมของการ ท่องเที่ยว
เนื่องจาก เป็นเมืองเล็กๆ ที่ตั้งตัวไม่ทันกับ กระแสการท่องเที่ยวที่จู่ๆก็บูมขึ้นมา เชียงคานจึงยังไม่พร้อมที่จะรองรับ การหลั่งไหลเข้ามาของนักท่องเที่ยวในช่วงเทศกาล ทั้งในด้านที่พัก ซึ่งส่วนใหญ่ ดัดแปลงจากบ้านพักอาศัย มีขนาดเล็ก หลังละ 5- 10 ห้อง ราคาเฉลี่ยคืนละ 500 บาท และห้องพักแบบโฮมสเตย์ ราคาเฉลี่ย 200 บาทต่อคืน และร้านอาหาร หากเป็นร้านอร่อย ราคาย่อมเยา กินอย่างไรก็ไม่เกิน 500 บาท อย่างร้านลุก หรือ ศรีพรรณ ลูกค้าต้องอดทน ใจเย็น และเห็นใจพ่อครัวไว้ก่อน
แน่นอนว่า บรรยากาศการท่องเที่ยวที่คึกคัก ย่อมนำมาซึ่งช่องทางการลงทุน ทั้งจากคนในท้องถิ่น และคนนอก ก่อนจะถึงปีใหม่ไม่กี่สัปดาห์ บ้านเรือนสองฝั่งถนนศรีเชียงคาน ต่างเร่งปรับปรุงบ้านพักให้เป็นโฮมสเตย์ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยว พื้นที่ริมน้ำบางแห่ง กำลังตอกเสาเข็มขึ้นอาคารใหม่ ที่ดินติดตลิ่งแม่น้ำโขง 100 ตารางวา ปีที่แล้ว เจ้าของบอกขาย 800,000 บาท ปีนี้ปรับราคาเป็น 2 ล้านบาทแล้ว
ความเปลี่ยนแปลงกำลังมาเยือนเชียงคาน เป็นทั้งความเปลี่ยนแปลงที่ดี คือ ทำให้เชียงคานมีชีชิวิตชีวา และเป็นความเปลี่ยนแปลงที่ไม่ดี คือ ทำให้สภาพแวดล้อม วิถีชีวิตเปลี่ยนไป
วันนี้ คุณไปเที่ยวเชียงคานหรือยัง
