“เด็จพี่” ทำปากดี! อวยพรปีใหม่คนไทย อ้างเฉยเพื่อไทยทำการเมืองสมานฉันท์ คาดพรรคถกเรื่องซักฟอกจันทร์หน้า ยังอุบเปิดสภายื่นเลยหรือไม่ โวไม่ต้องมีผู้นำฝ่ายค้านก็ทำได้ เล็งล่อนายกฯ บวก 7 กระทรวง จ่อฉวยโอกาสหยิบข้อมูล สธ.ใช้ด้วย โคตรโมเมหาว่ารัฐบาลกดดันศรีลังกาไม่ให้ “นช.แม้ว” นั่งที่ปรึกษาเศรษฐกิจ เชื่อ “ชายจืด” ไม่ทำให้ตัวเองหน้าแหกแน่
วันนี้ (31 ธ.ค.) นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงว่า ในวาระขึ้นปีใหม่ในนามพรรคหัวหน้าพรรคและส.ส.พรรคเพื่อไทย 187 คน ขออำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุณพระศรีรัตนตรัย และพระบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ปกป้องรักษาคนไทย เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารที่ปฏิบัติงานที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้แคล้วคลาดปลอดภัยมีกำลังใจที่เข็มแข็ง ในส่วนพรรคเพื่อไทยจะยืนหยัดเคียงข้างประชาชน และจะทำหน้าที่ของฝ่ายค้านในการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลอย่างเข้มแข็ง และยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยจะทำการเมืองแบบสมานฉันท์
นายพร้อมพงศ์กล่าวต่อว่า ตนขอแสดงความยินดีกับว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขคนใหม่ล่วงหน้า และขอฝากว่าเมื่อเข้ามาทำหน้าที่ก็ขอให้ทำงานอย่างโปร่งใสเดินหน้าตรวจสอบ การทำงานโดยไม่เห็นแก่พวกพ้อง หลังที่ผ่านมากระทรวงสารธารณสุขเกิดกรณีส่อทุจริตในหลายๆโครงการ ยกตัวอย่างกรณีโครงการลงทุนภายใต้แผนปฎิบัติการไทยเข้มแข็งชุดที่ถูกตรวจสอบว่า ส่อไปในทางทุจริต ซึ่งหากไม่เปิดเผยก็จะถือว่าความผิดสำเร็จไปแล้ว ส่วนการหาตัวผู้นำฝ่ายค้านของพรรคนั้น ขณะนี้พรรคมีนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ เป็นหัวหน้าพรรค มี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วนทำหน้าที่ประธาน ส.ส. ฉะนั้น แม้ไม่มีผู้นำฝ่ายค้านก็ทำงานได้ ที่ผ่านมาการถูกยุบพรรค 2 ครั้งถือเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญหากยังไม่เร่งแก้ไขเรื่องนี้ก็จะทำให้พรรคถูกยุบบุคลากรก็จะหาย และพรรคไม่กังวลที่มีการกระแนะกระแหนจากรัฐบาลและฝ่ายต่างๆ แต่เป็นห่วงเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่จะกระทบต่อการทำงานของรัฐาลและพรรค การเมืองต่างๆ
ส่วนเรื่องการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลนั้น นายพร้อมพงศ์กล่าวว่า คงต้องมีการหารือที่คณะกรรมการบริหารพรรคและคณะทำงานยุทธศาตร์และการเมือง ที่จะประชุมในวันที่ 4 ร่วมกับประธานคณะกรรมาธิการสภาฯ 14 คณะ และรองประธานกรรมาธิการ 21 คณะ รวม 35 คณะเพื่อกำหนดทิศทางการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ส่วนสาเหตุที่เรายังไม่เปิดเผยข้อมูลในขณะนี้เพราะจะเก็บไว้อภิปราย โดยที่ไม่ได้มีเพียงแค่กระทรวงสาธารณสุขแต่ มีของกระทรวงคมนาคมและกระทรวงมหาดไทย โดยจะมีหลายโครงการเช่น โครงการชุมชนพอเพียง ต้นกล้าอาชีพ เป็นต้น ส่วนการยื่นถอดถอนหลังการอภิปรายขณะนี้ มีรัฐมนตรี 6-7 กระทรวง รวมทั้งตัวนายกรัฐมนตรี ก็จะดำเนินการไปพร้อมกันด้วย ส่วนจะเสนอเป็นญัตติอภิปรายทันทีที่เปิดสมัยหรือยื่นเป็นกระทู้ในสภาก่อนนั้นพรรคจะมีการหารืออีกครั้ง ส่วนการที่นายวิทยา แก้วภราดัย รมว.สาธารณสุข ลาออกไปแล้วจะมีผลต่อการอภิปรายฯหรือไม่ ตนเชื่อว่า การที่รัฐมนตรีลาออกแต่โครงการยังอยู่และนายอภิสิทธิ์ ซึ่งเป็นหัวหน้ารัฐบาลมีหน้าที่กำกับกระทรวงทบวงกรมต่างๆต้องรับผิดชอบเพราะ ถือเป็นผู้มีอำนาจ ดังนั้นที่นายกฯประกาศกฎเหล็กกับรัฐมนตรีก็ต้องใช้กับตัวเองด้วย
โฆษกพรรคเพื่อไทยยังกล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลออกมายืนยันว่า รัฐบาลศรีลังกาจะไม่ตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นที่ปรึกษาเศรษฐกิจ ด้วยว่า เรื่องดังกล่าวคงต้องรอความชัดเจนจากรัฐบาลศรีลังกาอีกครั้ง แต่ยืนยันว่านายสมชายซึ่งเคยเป็นถึงอดีตผู้พิพากษา อดีตปลัดกระทรวงยุติธรรม และอดีตนายกรัฐมนตรี หากไม่รู้ข้อมูลจริงก็คงไม่กล้าออกมาพูด เพราะอาจทำให้หน้าแตก ซึ่งในมุมของรัฐบาลก็คงไม่อยากให้ตั้ง และอาจไปกดดันไปแทรกแซงรัฐบาลศรีลังกาเหมือนที่เคยพยามแทรกแซงกัมพูชา จึงขอเตือนไปยังรัฐบาลว่า หากกำลังไปกดดันรัฐบาลศรีลังกาเพื่อไม่ให้แต่งตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณอยู่ ก็อาจ เกิดปัญหาระหว่างประเทศซ้ำรอยกัมพูชาอีก