“เทพไท” ยอมรับฉายาสภา ชี้ยุคเป็นสภาฯ ตกต่ำมากที่สุด หวั่นขาดความน่าเชื่อถือ วอน ส.ส.ช่วยกันกอบกู้เกียรติภูมิกลับมา พร้อมตั้งฉายาผู้นำฝ่ายค้าน “วิญญาณล่องหน” ส่วนเพื่อไทยได้ชื่อ “ร่างไร้วิญญาณ” ขณะที่ นช.แม้ว เจอฉายา “ชูชกขายชาติ” เปรียบกินทุกอย่างที่ขวางหน้า แถมสมคบ “ฮุนเซน” ทรยศขายชาติ ส่วน 5 ทีมโฆษกฯ “เกี่ยวกุ๊ยฉาวฉุ่ย” คล้ายพวกกุ๊ยปากเสีย ปั้นแต่งข้อมูลใส่ร้ายคนนั้นคนนี้ทั้งที่ไม่มีข้อมูลหลักฐานเพียงพอ
วันนี้ (28 ธ.ค.) นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า กรณีที่สื่อมวลชนประจำรัฐสภาตั้งฉายาบุคคลและเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับสภาผู้แทนราษฎรในปี 52 โดยเฉพาะฉายาสภาผู้แทนฯ ว่า “เถื่อน-ถ่อย-ถีบ” ถือเป็นกระจกสะท้อนภาพสภายุคนี้ว่าตกต่ำมากที่สุด ฉะนั้น ส.ส.ทั้งสภาต้องช่วยกันกอบกู้เกียรติภูมิ ไม่เช่นนั้นสภาจะขาดความน่าเชื่อถือ นอกจากนี้ ฉายาอื่นๆ ถือว่าเหมาะสม ตรงกับบุคลิกและอธิบายได้ดี โดยเฉพาะดาวดับปีนี้ที่เป็นของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย ซึ่งตนเห็นใจ ร.ต.อ.เฉลิม ที่เคยเป็นดาวสภา สมัยก่อนถึงกับมีคำพูดว่ามาทะเลเจอฉลาม มาสภาเจอเฉลิม แต่วันนี้บทบาทนั้นหายไปอย่างสิ้นเชิง แต่ ร.ต.อ.เฉลิม ก็ออกมาโอดครวญว่าไม่มีบทให้เล่น จุดนี้สะท้อนว่าบทที่เล่นอยู่ถูกกำหนดโดยนายใหญ่ขีดเส้นไว้แค่ไหน ซึ่งถ้า ร.ต.อ.เฉลิม ได้รับการโปรโมตจากนายใหญ่เป็นผู้นำฝ่ายค้านในสภา คงจะเด่นกว่านี้ ตอนนี้จึงเป็นอาการดาวร่วง ต่อมาเป็นดาวโรย ดาวดิ่ง และดาวดับ
นายเทพไทกล่าวว่า สำหรับฉายาที่พรรคเพื่อไทย ตั้งให้รัฐบาลและพรรคประชาธิปัตย์ก็เป็นสีสันการเมือง แต่ฟุ่มเฟือย เลอะเทอะที่พยายามตั้งสักๆ ให้ครบรัฐมนตรีทุกคน จึงขาดคุณภาพไร้ความหมาย ทั้งนี้ ตนขอถือโอกาสตั้งฉายาฝ่ายค้านด้วย ได้แก่ 1.ผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯที่สื่อมวลชนไม่ได้ตั้งฉายา ตนขอตั้งว่า “วิญญาณล่องหน” เพราะไม่มีตัวตน มีแต่วิญญาณที่เป็นผู้นำ ล่องหนอยู่ในดูไบบ้างหรือเขมรบ้าง 2.พรรคเพื่อไทย ฉายา “ร่างไร้วิญญาณ” คือมีแต่ร่างทรง ตัววิญญาณไม่มีสถิต จะมาเมื่อจุดธูปหรือทำพิธีกรรม แต่ปกติก็ลอยเคว้งคว้าง 3.หัวหน้าพรรคเพื่อไทย คือนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ ฉายา “ปู่โสมเฝ้าทรัพย์” เพราะเหมือนเป็นแขกยามรักพรรค รอเจ้าของพรรคตัวจริงกลับมา ไม่มีอำนาจตัดสินใจ ส่วนกรรมการบริหารพรรคก็เป็นร่างทรงเพื่อหนีรัฐธรรมนูญมาตรา 237 4.ส.ส.พรรคเพื่อไทย ฉายา “ผีปากมัน กระสันตำแหน่ง” โดยแต่ละคนพยายามพูดเพื่อตัวเองจะได้มีตำแหน่ง เพื่อจะเข้าไปโกงต่อ
5.ทีมโฆษกพรรคเพื่อไทย ได้แก่ นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ นายการุณ โหสกุล น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม. นายสุชาติ ลายน้ำเงิน ส.ส.ลพบุรี ฉายา “เกี่ยวกุ๊ยฉาวฉุ่ย” เป็นภาษีจีน โดยเกี่ยวกุ๊ย แปลว่า พวกกุ๊ย ฉาวฉุ่ย แปลว่า ปากเสีย รวมแล้วคือ เป็นพวกกุ๊ย ที่ปั้นแต่งข้อมูลใส่ร้ายคนนั้นคนนี้โดยไม่มีข้อมูลหลักฐานเพียงพอ 6.วาทะแห่งปี ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร พูดว่า “ตายเป็นตาย เราจะไม่กลับบ้านมือเปล่า” ซึ่งหลอกหลอนความรู้สึกของคนไทยทุกคนที่จะกลับมาภาค 2 ช่วงหลังปีใหม่นี้ 7.พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้รับฉายา “ชูชกขายชาติ” เพราะได้รับข้อกล่าวหาว่ากินทุกอย่างที่ขวงหน้า จนนำมาซึ่งการที่ทหารออกมาทำรัฐประหาร ต่อมายังสมคบสมเด็จฯ ฮุนเซน นายกฯ กัมพูชา ขายชาติ ทรยศชาติ จึงขอให้ระวังท้องแตกตาย