xs
xsm
sm
md
lg

“เทพไท” เย้ยอดีตพลร่มแค่ทหารแก่ ท้าลงสมัคร ส.ส.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เทพไท  เสนพงศ์
“โฆษกมาร์ค” เหน็บอดีตทหารพลร่ม แค่ทหารแก่ หวังสร้างภาพช่วยนายใหญ่ ชี้ลงสนามเลือกตั้งดีกว่าเล่นระบบใต้ดิน ท้าลงสมัคร ส.ส.อย่ารอให้ “นช.แม้ว” ขีดเส้น แนะ โฆษก พท.ย้อนดูพฤติกรรมนายใหญ่ ก่อนจะเสนอให้นายกฯ ขออภัยโทษ

วันนี้ (15 ธ.ค.) นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณที่ทางพรรคเพื่อไทย เปิดตัวอดีตทหารพลร่มป่าหวายกว่า 60 คน ตบเท้าเข้าสังกัดพรรคภายใต้การนำของ พล.อ.วัฒนา สรรพานิช อดีต ส.ว.กาญจนบุรีว่า เป็นอีกกรณีที่สร้างภาพให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของรัฐบาลกัมพูชาเป็นรอบที่สอง หลังจากที่มีนายทหารชุดแรกคือเตรียมทหารรุ่น 10 (ตท.10 ) จำนวนหนึ่ง ตบเท้าเข้าสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยแล้ว และยังไม่เคยปรากฏว่าจะมีความเคลื่อนไหวทางการเมืองใดๆ เป็นเพียงแต่ข่าวการสร้างภาพ เรื่องความจงรักภักดีให้กับนายใหญ่ และยิ่งเมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณให้สัมภาษณ์ไทมส์ ออนไลน์ จาบจ้วงสถาบันเบื้องสูง ซึ่งเป็นการเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงและกระทบถึงความรู้สึกของคนไทยทั้งชาติ จึงจำเป็นต้องระดมนายทหารแก่อีกจำนวนหนึ่งมาเป็นฐานให้กับตัวเอง ซึ่งไม่มีผลใดๆต่อทางการเมือง เพราะทหารแก่เหล่านี้ล้วนแล้ว แต่หมดหน้าที่กับทางราชการไปแล้ว จึงเปรียบเป็นยักษ์ที่ไม่มีกระบอง

นายเทพไทกล่าวต่อว่า การที่รัฐบาลจัดงานเฉลิมฉลองในงาน 5 ธันวามหาราช โดยมีประชาชนคนไทยทั้งชาติร่วมแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันมากกว่าทุกปีที่ผ่านมา ย่อมแสดงให้เห็นว่า คนไทยทั้งชาติยังสำนึกและมีความจงรักภักดีต่อสถาบัน ก็ยิ่งทำให้กลุ่มคนที่มีความคิดทรยศต่อราชบัลลังก์ย่อมรู้สึกหวั่นไหว เมื่อเห็นภาพพสกนิกรเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาที่ร่วมแสดงออก ซึ่งการตบเท้าเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยของทหารกลุ่มนี้ พรรคประชาธิปัตย์ไม่รู้สึกหวั่นไหวใดๆ และสนับสนุนที่ให้นายทหารเข้าสู่ระบบการเมืองมากกว่าที่จะไปเคลื่อนไหวใต้ดิน โดยสนับสนุนขบวนการที่ผิดกฎหมายและสนับสนุนให้นายทหารเหล่านี้เมื่อเป็นสมาชิกพรรคการเมืองแล้ว ก็ควรเสนอตัวลงสมัครรับเลือกตั้งด้วย ไม่ใช่รอแต่ให้นายใหญ่ลิขิตขีดเส้นให้เดินเพื่อเป็น ส.ส.ในระบบสัดส่วนเท่านั้น ซึ่งต้องไปแย่งที่นั่งกับบรรดา ส.ส.เก่าที่มีอยู่แล้ว ยิ่งเลือกตั้งครั้งหน้าพรรคเพื่อไทยได้จำนวน ส.ส.น้อยลงก็จะมีการแย่งชิงตำแหน่ง ส.ส.อย่างอุตลุด

โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวอีกว่า สำหรับข้ออ้างของทหารแก่กลุ่มนี้ ว่าที่เข้าเป็นสมาชิก เพราะเห็นว่านโยบายพรรคเพื่อไทยสามารถทำได้จริง ตั้งแต่ยุคสมัยพรรคไทยรักไทย จึงอยากให้นายทหารกลุ่มนี้กลับไปดูว่า ที่อ้างว่านโยบายที่ทำได้จริง โกงได้จริงด้วยใช่หรือไม่ เพราะทุกนโยบายของพรรคไทยรักไทย ล้วนแล้วแต่มีผลประโยชน์ทับซ้อน มีการทุจริตเชิงนโยบายอย่างมโหฬาร ถ้าจะเปรียบเทียบกับนโยบายของรัฐบาลชุดนี้ แตกต่างราวฟ้ากับเหว เพราะนโยบายของรัฐบาลชุดนี้ล้วนแล้วแต่เป็นนโยบายที่ส่งตรงถึงมือของประชาชนโดยตรง ไม่มีการตัดตอนและหาประโยชน์จากนโยบายตั้งแต่เรื่องนโยบายเรียนฟรี 15 ปี เบี้ยเลี้ยง อสม. เงินทุนให้ผู้สูงอายุ รวมถึงการแก้หนี้สินนอกระบบและการประกันราคาพืชผลทางการเกษตร ล้วนแล้วแต่สร้างความพึงพอใจให้ประชาชน เพราะทำให้ราคาพืชผลการเกษตรทุกชนิดมีราคาดีขึ้น อย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน

นายเทพไทกล่าวถึงกรณีที่โฆษกพรรคเพื่อไทยออกมาระบุให้นายกรัฐมนตรีทำเรื่องขอพระราชทานอภัยโทษให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของประเทศกัมพูชา โดยเปรียบเทียบกับกรณีที่สมเด็จฯ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ที่ทำเรื่องขออภัยโทษให้กับสมเด็จกรมพระนโรดมรณฤทธิ์ อดีตนายกรัฐมนตรีร่วมของกัมพูชาเพื่อความปรองดองสมานฉันท์ภายในชาติว่า เรื่องนี้เป็นคนละกรณีที่ไม่สามารถนำเอามาเปรียบเทียบกันได้ เพราะแต่ละประเทศย่อมมีเงื่อนไขและขั้นตอนของกฏหมายที่แตกต่างกัน การที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทยพยายามเคลื่อนไหวช่วยเหลือนายใหญ่ทุกวิถีทาง เพียงเพื่อต้องการให้หลุดพ้นจากคดีการทุจริตต่างๆนั้น ตนอยากให้ดูองค์ประกอบและพฤติกรรมการกระทำของผู้ที่จะร้องขอทำเรื่องขออภัยโทษด้วย หากนักโทษผู้นั้นยังไม่สำนึกในความผิดที่ทำขึ้นและยังคงจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์อยู่ตอลดเวลาเมื่อมีโอกาส และจะให้รัฐบาลรับหน้าเป็นผู้ขอพระราชทานอภัยโทษได้อย่างไร แม้แต่นักโทษชั้นดีที่ถูกคุมขังในคุกก็ยังรอคอยเวลา และโอกาสสำคัญเพื่อจะขอพระราชทานอภัยโทษตามขั้นตอนของกฏหมาย แต่สำหรับนักโทษชั้นเลวที่หลบหนีคดีไม่ยอมติดคุก หนำซ้ำยังมีพฤติกรรมทรยศต่อชาติจาบจ้วงสถาบันเบื้องสูง ปลุกปั่นให้คนในชาติเหกิดความแตกแยกสามัคคีกัน ก็คงจะไม่มีใครที่คิดจะขอพระราชทานอภัยโทษให้
กำลังโหลดความคิดเห็น