xs
xsm
sm
md
lg

“พัลลภ” สนอง “แม้ว” ตวาดใส่ “ป๋า” อย่าผูกขาดรักชาติเพียงผู้เดียว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี
ตท.10 ตบเท้าเข้าสังกัด พท.ส่งรายชื่อครึ่งร้อยแต่ตัวไม่รู้อยู่ที่ไหน อ้างไฟยังแรงประโคมข่าวรักสถาบันกันกลมเกลียว ด้าน “พัลลภ” โผล่หน้าต้อนรับนายทหารรุ่นน้อง สนอง"แม้ว"สุดฤทธิ์ ตะหวา่ดใส่ “ป๋าเปรม” อย่าผูกขาดรักชาติคนเดียว คนเห็นไม่ตรงไม่ได้แปลว่าทรยศชาติ

วันนี้ (20 ต.ค.) ที่พรรคเพื่อไทย นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยน.ส.สุนีย์ เหลืองวิจิตร เลขาธิการพรรค พล.ท.มะ โพธิ์งาม ส.ส.กาญจนบุรี ในฐานะเพื่อนร่วมรุ่น ตท.10 คณะผู้บริหารและส.ส.พรรคเพื่อไทย ให้การต้อนรับคณะทหารตท.10 ที่เดินทางมาโดยรถบัส นำโดย พล.อ.อ.สุเมธ โพธิ์มณี อดีต ผบ.หน่วยบัญชาการอากาศโยธิน กว่า 20 คน เพื่อสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย โดยหลายคนมาพร้อมกับภรรยาด้วย ทันทีที่มาถึงคณะผู้บริหารพรรคและคณะทหาร ตท.10 ร่วมกันถ่ายภาพหมู่และทักทายกันอย่างยิ้มแย้ม ก่อนเดินทางขึ้นไปหารือบนที่ทำการพรรค

จากนั้นนายยงยุทธพร้อมด้วย พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี อดีตรอง ผอ.กอ.รมน. ในฐานะสมาชิกพรรคเพื่อไทย พร้อมคณะเตรียมทหารรุ่น 10 และ ส.ส.ของพรรค ร่วมกันแถลงข่าวอย่างคึกคักจนล้นเวทีแถลงข่าว โดยนายยงยุทธกล่าวว่า เหล่าทหารที่มาวันนี้ไม่ได้มาในฐานะผู้อาศัยแต่จะมาเป็นเจ้าของบ้านร่วมกัน พรรคเพื่อไทยรู้สึกอบอุ่น เป็นเกียรติและภาคภูมิใจขึ้นไปอีกที่มีโอกาสต้อนรับคณะนายทหารรุ่นเตรียม 10 โดยวัตถุประสงค์ ที่ท่านทั้งหลายกับพรรคล้วนเห็นตรงกันที่จะทำประโยชน์ต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน

พล.อ.อ.สุเมธกล่าวว่า การที่ตัดสินใจสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย เนื่องจากได้หารือกับเพื่อนหลายคนในรุ่นตท.10 ซึ่งทุกคนล้วนเคยเรียนโรงเรียนเตรียมทหาร ได้ปฏิญาณตนว่า จะจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เมื่อมารับราชการแยกย้ายไปทำงานมีประสบการณ์พอสมควร และวันนี้ยังมีเจตนารมณ์ตรงกันเหมือนเดิม ทุกคนยังมีกำลังกาย ประสบการณ์ ก็หารือร่วมกันและมีมติว่าจะมาร่วมงานกับพรรคเพื่อไทย ที่มีนโยบายที่ดี ปฏิบัติได้จริง

พล.อ.อำนวย ถิระชุณหะ อดีตผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก กล่าวว่า ทุกคนที่มาร่วมงานกับพรรคเพื่อไทย ต่างมีไฟอยู่คิดว่ายังเป็นประโยชน์ต่อพรรค พวกเราทนไม่ได้เห็นบ้านเมืองอยู่อย่างไร้ทิศทางเหมือนเช่นทุกวันนี้ พรรคการเมืองที่ถูกยุบไปทำให้ประชาชนอยู่ดีมีสุข คิดว่าพรรคเพื่อไทยจะทำให้ประชาชนมีความสุข จึงอยากอาสามาทำงาน ยืนยันว่าทุกคนที่มาวันนี้ล้วนจงรักภักดี

พล.ต.ต.ธวัช บุญเฟื่อง อดีตรองผู้บัญชาการภูธรภาค 9 กล่าวว่า เหตุที่มาสมัครเข้าพรรคเพื่อไทย ก็เพราะชื่นชอบนโยบายพรรคเพื่อไทย ที่ปฏิบัติได้จริง เน้นสร้างงานสร้างคน สร้างชาติ และพวกเราล้วนจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ทุกคน

ด้าน พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี สมาชิกพรรค อดีต ตท.รุ่น 7 กล่าวว่า ขอต้อนรับน้องๆ ที่มาร่วมงานด้วยความยินดี วันนี้ที่ทุกคนมาก็เป็นเครื่องพิสูจน์ว่าสิ่งที่ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เคยกล่าวหาว่าคนที่มาร่วมงานกับพรรคเพื่อไทยเป็นผู้ทรยศชาติ วันนี้เป็นเครื่องพิสูจน์แล้วว่าคำพูดดังกล่าวไม่เป็นจริง บรรดาพี่น้องที่มาวันนี้ทุกคนเคยรับใช้ชาติ ทุกคนเคยเสี่ยงชีวิตเพื่อชาติและราชบัลลังก์มาโดยตลอด

“อยากฝากถึง พล.อ.เปรม ในฐานะนักเรียนนายร้อยรุ่นพี่ และอดีตผู้บังคับบัญชาของผม ว่าการผูกขาดความรักชาติ อย่าผูกขาดไว้แต่ผู้เดียว อย่ามองว่าใครมีความคิดไม่ตรงกับท่านจะเป็นผู้ทรยศต่อชาติ เพราะมันไม่ใช่ วันนี้ก็เป็นเครื่องพิสูจน์ อยากกราบเรียนท่านช่วงรับราชการผมเป็นผู้ใต้บังคับบัญชา ท่านเป็นฝ่ายยุทธการนั่งอยู่ในห้องเย็น แต่ผมถือปืนอยู่ในป่าบนภูเขา แต่เราก็มีความคิดตรงกันเพื่อจะรักษาความสงบสุขของประชาชน พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคที่หวังของประชาชนไม่อย่างนั้น น้องๆ คงไม่มาร่วมงานกับพรรคเรา คนที่มามีประสบการณ์เคยเป็นผู้บัญชาการหน่วยทั้งนั้น ขอขอบคุณทุกท่านที่มาร่วมงาน” พล.อ.พัลลภกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างการแถลงข่าวนั้น กลุ่มคนเสื้อแดงและกลุ่มผู้สนับสนุนพรรคเพื่อไทยได้เดินทางมายังที่ทำการพรรคเพื่อร่วมรับฟังเป็นจำนวนมาก โดยส่งเสียงไชโยโห่ร้องเป็นระยะ แต่ที่ดังอื้ออึงเป็นพิเศษคือช่วงที่ พล.อ.พัลลภพูดถึง พล.อ.เปรม เมื่อการแถลงข่าวเสร็จสิ้นลง นายนที สุทินเผือก (กรุง ศรีวิไล) ส.ส.สมุทรปราการ ได้เป็นต้นเสียงให้ กลุ่มคนแฟนคลับและคนเสื้อแดงว่าตะโกน “ไชโย ประเทศไทยจงเจริญ และ เพื่อไทยจงเจริญ” แต่ ส.ส.ที่มาร่วมรับฟังการแถลงข่าวบางคน แสดงท่าทีตกใจและเดินเลี่ยงออกไป

พล.อ.อ.สุเมธ ให้สัมภาษณ์อีกครั้งว่า ทหารรุ่น ตท.10 ก่อนมาร่วมงานได้คุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ และมีส่วนนิดหน่อยในการตัดสินใจเข้าร่วมงาน โดยท่านขอให้เพื่อนๆ ที่ยังมีแรงมาช่วยทำงานให้พรรคเพื่อไทยและประเทศชาติ เพราะเห็นว่าพวกเรามีประสบการณ์ ซึ่งท่านได้ชักชวนมานานแล้ว ซึ่งพวกเราต้องการมาช่วยงานทำทุกอย่างที่พรรคมอบหมาย ส่วนจะเป็นผู้ประสานงานระหว่างพรรคกับทหารอย่างไร พล.อ.อ.สุเมธ กล่าวว่า ก็อาจใช้ความเป็นเพื่อนเข้ามาช่วยพูดคุยกับทหาร อย่างไรก็ดีแล้วแต่พรรคจะมอบหมาย เชื่อว่าจะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างพรรคเพื่อไทยและกองทัพดีขึ้น หลังจากนี้เชื่อว่าจะมีนายทหารคนอื่นๆเข้ามาสมัครเป็นสมาชิกพรรคอีก

ผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุใดทหารจึงตบเท้ามาอยู่กับพรรคเพื่อไทยในช่วงเวลานี้ มีสัญญาณอะไรหรือไม่ พล.อ.อ.สุเมธกล่าวว่า ไม่มีเหตุผลอะไร เป็นเพียงเพราะว่าพวกเราเกษียณอายุราชการพอดี และเราก็มีความตั้งใจและหารือกันมานานแล้ว เมื่อถามถึงคำพูดพล.อ.เปรมครั้งล่าสุดมีส่วนในการตัดสินใจเข้าพรรคเพื่อไทยหรือไม่ พล.อ.อ.สุเมธกล่าวว่า คงไม่เกี่ยวข้อง เมื่อถามอีกว่า การมาสมัครร่วมงานกับพรรคเพื่อไทยแสดงถึงการเลือกข้างอย่างชัดเจน พล.อ.อ.สุเมธตอบว่า ไม่ใช่การเลือกข้างแต่จะทำให้ประเทศชาติดีขึ้น

พล.อ.อำนวย ถิระชุณหะ อดีตผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ให้สัมภาษณ์ว่า เชื่อว่าหลังจากที่ ตท. 10 เข้าพรรคเพื่อไทยการเมืองจะร้อนแรงขึ้น เพราะวันนี้สถานการณ์ของพรรคร่วมรัฐบาลก็ปริร้าว สนิมเกิดจากเนื้อในตน รัฐบาลมีความไม่ชอบธรรมหลายเรื่อง ทั้งเรื่องการทุจริต การแบ่งปันผลประโยชน์พรรคร่วม การแช่แข็งฎีกาของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ กลุ่มของตนที่เข้ามาจะทำให้พรรคเข้มแข็งขึ้น เพราะแต่ละคนเป็นข้าราชการระดับผู้ใหญ่ ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันถึงความจงรักภักดี เพราะกว่าจะขึ้นมาถึงระดับนี้ได้ ต้องทำงานรับใช้ประเทศชาติบ้านเมืองอย่างหนัก ดังนั้นตรงนี้น่าจะเป็นจุดแข็งของพรรคได้ อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า ตท.10 ทั้งหมดจะรักษาระยะห่างจากคนเสื้อแดง จะไม่สนับสนุนใดๆ ทั้งการขึ้นเวทีหรือการร่วมชุมนุม เพราะถ้าไปเราต้องพังแน่นอน ขณะเดียวกันก็จะไม่ไปเตือนหรือยุ่งเพราะถือว่าเป็นคนละส่วนกัน

ขณะที่ นายสุชาติ ลายน้ำเงิน ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า นายทหารที่สมัครเข้าพรรคเพื่อไทยวันนี้คงไม่ใช่ทุกคนที่จะได้ลงส.ส. ส่วนใหญ่จะทำงานอยู่เบื้องหลัง ทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยง ส.ส. ดูแลเรื่องความมั่นคง ซึ่งนายทหารที่เข้ามาอยู่กับพรรคเพื่อไทยวันนี้ก็มีหลายคนที่ได้คุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณถึงแนวทางในการทำงานต่างๆแล้ว จุดยืนของเรายังชัดเจนว่าจะต้องนำประชาธิปไตยกลับมา และเอาพ.ต.ท.ทักษิณกลับประเทศไทยให้ได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับรายชื่อ ตท.10 ที่มาสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยนั้นมีทั้งสิ้น 52 คน แต่เป็นที่น่าสังเกตว่า ในจำนวนนี้มีนายทหารชื่อดังที่มีชื่อมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยแต่ไม่ได้เดินทางมาที่พรรคหรือร่วมแถลงข่าวด้วย อาทิ พล.ต.ท.ฉลอง สนใจ อดีต ผบช.ภ.1 พล.ท.พฤณฑ์ สุวรรณทัต พล.อ.ไตรรงค์ อินทรทัต อดีตผู้ทรงคุณวุฒิกระทรวงกลาโหม พล.อ.พรชัย กรานเลิศ อดีตรอง ผบ.นทพ. เป็นต้น




กำลังโหลดความคิดเห็น