“ศิวรักษ์” ยอมรับตกเป็นเหยื่อทางการเมือง จนชีวิตต้องโทษจำคุกตลอดจนการได้รับพระราชทานอภัยโทษ โบ้ยไม่รู้สาเหตุที่แน่จริง ยันได้รับความช่วยเหลือจากกระทรวงการต่างประเทศเป็นอย่างดี แม้รู้ว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศจะมีความขัดแย้งกันกันทางการเมือง แต่ไม่วายวอนคำรบออกมาเปิดเผยข้อเท็จจริง
วันนี้ (14 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริเวณประตู 5 คณะสื่อมวลชนทั้งจากประเทศไทยและต่างประเทศที่ติดตามข่าวนายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ วิศวกรไทย ได้เดินทางมารอการต้อนรับภายหลังที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษจากกษัตริย์สีหมุนี หลังจากถูกจำคุกอยู่ที่จำเปรยซอร์ ประเทศกัมพูชา นานกว่า 1 เดือน ในข้อหาจารกรรมข้อมูลการบิน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
นายศิวรักษ์ได้เปิดใจกับสื่อมวลชนที่มารอทำข่าว ภายหลังสายการบินบางกอกแอร์เวย์สด้วยสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส เที่ยวบิน PG 0934 ลงจอดที่ท่าอากาศสุวรรณภูมิทันทีว่า การถูกจับกุมไม่ได้มีการจัดฉาก และเชื่อว่าการที่ต้องจำคุกนานกว่า 1 เดือนนั้น ไม่น่าจะใช่สิ่งที่หลายคนต้องการ อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ ตนรู้สึกว่าตกเป็นเหยื่อของเกมการเมือง แต่จะเป็นเหยื่อของใครนั้น ขึ้นอยู่กับแต่ละคน แต่ละฝ่ายจะมอง ส่วนจะกลับไปที่ประเทศกัมพูชาหรือไม่ ขณะนี้ยังไม่มีการวางแผนชีวิต
พร้อมยังกล่าวถึงนายคำรบ ปาลวัฒน์วิไชย เลขานุการเอกสถานเอกอักครราชทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ ว่าทางที่ดีคุณคำรบออกมาพูดความจริงหรือชี้แจงก็คงจะทราบว่าความจริงเป็นอย่างไร โดยที่ผ่านมาจนถึงวันนี้ยังไม่ได้ติดต่อกับคุณคำรบ ฝากคุณคำรบออกมาพูดอะไรหน่อย อย่างน้อยก็โท.รมาคุยกับแม่ ในส่วนของกระทรวงการต่างประเทศก็ให้ความช่วยเหลือมา แต่คงเข้าใจว่ารัฐบาล 2 รัฐบาลกำลังมีปัญหากันอยู่
เมื่อถามว่ารู้จักกับนายคำรบได้อย่างไร นายศิวรักษ์กล่าวว่า ไม่ได้รู้จักในฐานะเลขานุการสถานทูตไทยในกัมพูชา แต่รู้จักในฐานะรุ่นพี่ของเพื่อนอีกที
เมื่อถามว่า เรื่องนี้ถูกมองว่าเป็นการจัดฉาก วิศวกรไทยกล่าวว่า “ไม่รู้ว่าเอาอะไรคิด ชีวิตคนติดคุกไม่ใช่เรื่องตลก ถ้าลูกหลานติดคุกต่างแดน คุณจะไม่หาทางช่วยลูกตัวเองหรืออย่างไร เราก็ช่วยทุกทาง ทราบว่าแม่ก็ติดต่อทั้งกระทรวงต่างประเทศ และพรรคเพื่อไทย”