“เทพไท” แนะลูกพรรคเพื่อไทยสละเก้าอี้ เปิดทางให้ “จิ๋ว” ลงสมัครเลือกซ่อม เปิดตัวเข็นขึ้นนั่ง หน.พรรคอย่างภาคภูมิใจไทย ดีกว่าทำตัวเป็นอีแอบ จวกเพื่อแม้วลิเกหลงโรง สร้างภาพช่วย “ศิวรักษ์” รายวัน ย้ำบัวแก้วพร้อมให้ความช่วยเหลือคนไทย แต่ไม่อยากตกตัวเป็นละคร ในเกมชิงพื้นที่สื่อ
วันนี้ (11 ธ.ค.) นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายวิทยา บุรณศิริ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ที่ออกมาระบุว่า พรรคเพื่อไทยจะมีการสรรหาบุคคลเพื่อมาทำหน้าที่เป็นผู้นำฝ่ายค้านในวันที่ 23 ธ.ค.นี้ว่า เป็นเรื่องที่น่ายินดีเพราะจะทำให้การทำหน้าที่ของฝ่ายค้านในสภาฯ ราบรื่นเพราะที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทยไม่เคยมีการรวมศูนย์ในการตัดสินใจต่อท่าทีใดๆ ที่ชัดเจน แม้ว่าทุกเรื่องจะผ่านการหารือออกมาเป็นมติของวิปฝ่ายค้านแล้วก็ตาม แต่ก็ยังมีส.ส.พรรคเพื่อไทยไม่เคารพมติ แหกโผตลอดเวลา ส่วนที่มีการระบุว่าบุคคลที่จะมาเป็นน่าจะมาจากคนที่ลงในการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.จังหวัดปราจีนบุรีนั้น ส่วนตัวเห็นว่า โดยพฤตินัยคนที่มีความเหมาะสมน่าจะเป็น พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทยน่าจะมีความเหมาะสมมากที่สุด แต่ก็เกรงว่าคุณสมบัติที่จะลงสมัครที่ปราจีนบุรีครั้งนี้จะไม่ครบ ซึ่งตัว พล.อ.ชวลิต น่าจะลงสมัครที่นครพนม นนทบุรี และกรุงเทพฯ ดังนั้นจึงอยากเสนอให้ลูกพรรคเพื่อไทยที่เป็น ส.ส.ในสามจังหวัดดังกล่าวให้ลาออกเพื่อให้ พล.อ.ชวลิต ได้ลงสมัครและเป็น ส.ส.เพื่อให้เป็นผู้นำฝ่ายค้านเต็มตัว ดีกว่ามาทำตัวเป็นอีแอบในฐานะประธานพรรค
นายเทพไทยังกล่าวถึงกรณีของนายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ วิศวกรไทยที่ถูกศาลของประเทศกัมพูชาพิพากษาคดีจำคุก 7 ปี และปรับ 1 แสนบาทว่า กรณีนี้ตนห่วงว่ากำลังตกเป็นเหยื่อทางการเมืองเพราะพรรคเพื่อไทยได้ฉวยโอกาสนำเอาประเด็นนี้มาเป็นการเคลื่อนไหวทางการเมือง โดยไม่ได้คำนึงถึงอิสรภาพของนายศิวรักษ์ที่ถูกคุมขังในคุกแต่อย่างใด แต่คนเหล่านี้กำลังมีความสุขกับเกมที่เอาเรื่องของนายศิวรักษ์มาเป็นประเด็นข่าวชิงพื้นที่สื่อไปวันๆ ทำตัวจุ้นจ้านสร้างภาพช่วยเหลือนางสิมารักษ์ ณ นครพนม แม่ของนายศิวรักษ์ โดยอาสาไปยื่นจดหมายลากิจที่กระทรวงศึกษาธิการ หวังเพื่อเป็นข่าว ทั้งที่เรื่องนี้ ใช้เมสเซนเจอร์ หรือเจ้าหน้าที่ธุรการของหน่วยงานสังกัดไปยื่นก็ได้ ไม่จำเป็นต้องใช้หน้าม้าระดับโฆษกพรรคเพื่อไทยมาสร้างภาพแทน
โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวต่อว่า รวมถึงเรื่องการขออภัยโทษ ซึ่งไม่ทราบว่าจะเอาอย่างไรกันแน่เพราะวันหนึ่งก็ออกข่าวมาว่า พรรคเพื่อไทยจะพาแม่ของนายศิวรักษ์ไปยื่นเรื่องต่อสมเด็จฯ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชาที่ประเทศกัมพูชาเอง พออีกวันก็บอกว่าจะไปยื่นเรื่องต่อสถานทูตกัมพูชาในประเทศไทย พอมาวันนี้ (11 ธ.ค.) ก็บอกอีกอย่างว่าจะให้นางสิมารักษ์ แม่ของนายศิวรักษ์ไปยื่นที่กระทรวงการต่างประเทศเอง ซึ่งเมื่อตนได้สอบถามไปยังกระทรวงการต่างประเทศแล้ว ก็ได้รับคำตอบว่าทางกระทรวงยินดีที่จะช่วยเหลือตลอดเวลา และรอคอยอยู่แต่ไม่มีการประสานมาแต่อย่างใด และขอให้เป็นการดำเนินการของนางสิมารักษ์โดยตรงเพราะเป็นผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสีย ไม่ต้องการให้ผู้ที่มีส่วนได้หน้าอย่างพรรคเพื่อไทยมายุ่งเกี่ยว เพราะหากเป็นคนไทยที่ประสบความเดือดร้อนในต่างประเทศกระทรวงการต่างประเทศพร้อมที่จะช่วยเพราะเป็นหน้าที่ของตัวแทนรัฐไทย แต่หากพรรคเพื่อไทยจะเอาเรื่องนี้มาเป็นประเด็นเพื่อสร้างละครทางการเมือง โดยให้คณะกรรมาธิการการต่างประเทศของสภา เข้าร่วมก็สามารถทำได้ เพราะตัวประธานเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย แต่ถ้าจะชวนให้ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ไปร่วมด้วยนั้นก็คงจะไม่มีใครเข้าร่วมเพราะไม่อยากทำตัวเป็นดาราตัวประกอบในละครเรื่องนี้