“เทพไท” ซัดเสื้อแดงชุมนุมผิดวัตถุประสงค์ ใช้เวทีถวายพระพรให้ “ทักษิณ” จ้อด่ารัฐ ฉะ “แม้ว” ก่อนด่าคนอื่นควรกลับมารับโทษ เชื่อการเมืองปีหน้ารุนแรงมากขึ้น เพราะ “นักโทษ” ส่งสัญญาณเร่งเผด็จศึก หวั่นเสื้อแดงป่วนหนักหลังปีใหม่ ซ้ำรอยสงกรานต์เลือด
วันนี้ (11 ธ.ค.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่ม นปช.วานนี้ (10 ธ.ค.) ว่า การชุมนุมดังกล่าวดูแล้วน่าจะผิดวัตถุประสงค์ของงานที่แกนนำได้ประกาศไว้แต่แรกว่าจะเป็นงานการถวายพระพรเพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดี แต่เนื้องานที่ออกมากลับฉกฉวยโอกาสให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้โฟนอินเพื่อสื่อสารกับสมาชิกคนเสื้อแดง ซึ่งท่าทีของ พ.ต.ท.ทักษิณที่ออกมานั้น ก้าวร้าว รุนแรงมาก เสมือนเป็นการส่งสัญญาณให้เร่งเผด็จศึกรัฐบาลให้ได้โดยเร็ว ซึ่งตลอดการพูดของ พ.ต.ท.ทักษิณกลับใช้เวลาถวายพระพรเพียง 3 นาที แต่อีก 42 นาที กลับเป็นการพูดถึงการจะกลับมาประเทศไทยเพื่อให้ตนเองมีอำนาจทางการเมืองเพื่อจะช่วยประชาชนได้ อีกทั้งในขณะที่การชุมนุมเพื่อการถวายพระพรส่วนใหญ่ของประชาชนทั่วไป จะมีการชูภาพของในหลวง แต่ในม็อบคนเสื้อแดงกลับชูรูปของ พ.ต.ท.ทักษิณ กันสลอน ถือเป็นการชุมนุมที่ประหลาดและไม่สมควรอย่างยิ่ง
นายเทพไทตั้งข้อสังเกตด้วยว่า ตลอดเวลาที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีนั้น บางช่วงก็จำเนื้อไม่ได้ ต้องคอยเหลือบมองโพยตลอดเวลา ซึ่งเพลงดังกล่าว แม้แต่เด็กอนุบาลยังร้องได้แบบไม่ต้องมองเนื้อ จึงไม่น่าเชื่อว่าคนเป็นถึงอดีตนายกฯ เวลาร้องเพลงนี้ยังต้องคอยชำเลืองเนื้อตลอด แล้วมาอวดอ้างตัวว่ารักสถาบัน อีกทั้งตลอดเวลาที่พูดมีแต่การโจมตีอำมาตย์และอำนาจพิเศษ โดยพุ่งเป้าหมายไปที่ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ รวมถึงการพูดถึงองค์กรอิสระต่างๆ ทั้ง กกต.-ป.ป.ช.ว่าไม่ทำหน้าที่ แต่ พ.ต.ท.ทักษิณเองกลับไม่ได้สำนึกหรือดูตัวเองเลยว่า ได้ทำหน้าที่ของตัวเองในฐานะเป็นนักโทษด้วยการรับโทษ ตามความผิดที่ก่อไว้หรือไม่ ตนจึงขอเรียกร้องให้พ.ต.ท.ทักษิณ ดูพฤติกรรมของตัวเองและการทำหน้าที่ของตัว เองก่อนที่จะว่าคนอื่นเขา
โฆษกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยังกล่าวถึงกรณีที่แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงประกาศยืนยันว่า หลังปีใหม่จะมีการชุมนุมที่แตกหัก ชนิดตาต่อตาฟันต่อฟัน แถมยังระบุว่าสู้ตายเป็นตาย เลือดต้องนองแผ่นดินว่า พรรคประชาธิปัตย์มีความกังวลว่าหลังปีใหม่แล้วสถานการณ์ทางการเมืองอาจจะย้อนกลับไปทวีความรุนแรงยิ่งกว่าเหตุสงกรานต์เลือด โดยแกนนำคนเสื้อแดงได้ประกาศว่าจะสรุปบทเรียนจากเหตุการณ์สงกรานต์เลือด เพื่อเคลื่อนไหวกดดันและนำปรับไปใช้ในการต่อสู้ครั้งใหม่เพื่อสู้กับอำนาจรัฐครั้งใหม่ให้ได้ชัยชนะ ซึ่งเรื่องดังกล่าวคณะปฏิบัติงานทางการเมือง (วอร์รูม) ของพรรคประชาธิปัตย์ คงจะต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเพื่อประเมินสถานการณ์ให้ทันท่วงที ทั้งนี้ ตนยังเชื่อว่าการเมืองของไทยในปีหน้าคงจะร้อนแรงและมีความรุนแรงมากขึ้น จากสัญญาณ ที่พ.ต.ท.ทักษิณ ส่งให้เร่งดำเนินการปิดเกมล้มรัฐบาลตั้งแต่ต้น ปี 2553 ตามที่ประกาศบนเวทีปราศรัยของคนเสื้อแดงวานนี้