เกาะกระแส
โดย...ก้อนกรวด
00 เมื่อวานนี้(9 ธ.ค.) ถือเป็นวันประวัติศาสตร์อีกวันหนึ่งที่ต้องจารึกเอาไว้สำหรับความสัมพันธ์ไทย-มาเลย์ เป็นวันที่ นาจิบ ราซัก นายกฯ มาเลเซียเดินทางลงพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้พร้อมกับ นายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แม้ว่าครั้งนี้อาจจะไม่ใช่ครั้งแรกที่นายกฯมาเลย์ลงพื้นที่ เพราะก่อนหน้านี้เคยเกิดขึ้นในสมัย อาหมัด บาดาวี กับ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ เคยร่วมกันไปร่วมวางศิลาฤกษ์ก่อสร้างสะพานมิตรภาพแห่งเดียวกันนี้เมื่อ 2 ปีก่อน
00 แต่ในครั้งนี้ถือว่ามีความหมายมากกว่าในแง่ของความสัมพันธ์ที่มีความเอาจริงเอาจังและครอบคลุมแทบจะทุกบริบทที่มีปัญหาในจังหวัดชายแดนใต้ ถือว่าเป็นพื้นที่ “พิเศษ” ต้องใช้ความละเอียดอ่อนในการทำความเข้าใจ การร่วมกันเปิดสะพานมิตรภาพไทย-มาเลย์นับได้ว่าเป็นสัญญลักษณ์ความร่วมมือที่น้อยครั้งจะเกิดขึ้นแบบนี้ และการเดินทางมาเยือนประเทศไทยของ นาจิบ ราซัค ตั้งแต่วันที่ 7-9 ธ.ค.ก็มีความหมายที่น่าจับตา
00 อาจเป็นเพราะทางการมาเลย์เริ่มมีความตระหนักแล้วว่าหากยังปล่อยให้ไทยแก้ปัญหาไปเพียงฝ่ายเดียวสักวันหนึ่ง “ไฟ” ก็อาจลามมาถึงภาคเหนือของตัวเองก็เป็นได้ โดยเฉพาะปัญหาจากมุสลิมหัวรุนแรงที่เริ่มฝังตัวอยู่บ้างแล้ว ทางที่ดีหันมาจับมือร่วมกันดีกว่า ร่วมกันพัฒนาเดินไปด้วยกันน่าจะ “วิน วิน” ขณะที่ทางฝ่ายไทยก็ให้เกียรติอย่างเต็มที่ หลังจากที่เคยถูกเหยียดหยามในยุคผู้นำถ่อย “หน้าเหลี่ยม” จนหมางเมินไปพักใหญ่
00 ขณะเดียวกันอย่าได้แปลกใจที่จะต้องมีรายการป่วน วุ่นวายของกลุ่มโจร เพราะย่อมเป็นเรื่องปกติที่จะต้องเรียกร้องความสนใจให้เต็มที่ เป็นนาทีทองของพวกเขา แต่การก่อเหตุเท่าที่ดูก็เกิดขึ้นในชนบทป่าเขา หรือนอกเส้นทางของผู้นำ โดยภาพรวมก็ถือว่าการรักษาความปลอดภัยเข้าขั้นใช้ได้
00 ในที่สุดละครที่พนมเปญเริ่มมาถึงบทท้ายๆแล้ว เป็นบทที่เขียนล่วงหน้าให้ “คนหน้าเหลี่ยม” เป็นพระเอกในตอนท้าย อย่าไปจริงจังอะไรมาก ก็ได้แต่เห็นใจ “ศิวรักษ์ สิมารักษ์” ที่ต้องตกเป็นเหยื่อ แต่ถึงอย่างไรก็ขอเอาใจช่วยให้ได้รับพระราชทานอภัยโทษกลับมาโดยไว
00 เช่นเดียวกันเมื่อวานนี้ก็ถือว่าเป็นครบกำหนดนัดของ กกต.ที่ขีดเส้นให้ ประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ไปให้ปากคำในฐานะพยานในคดีเงินบริจาค 258 ล้านของพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งหากฟังจากปากของคนใกล้ชิดของ ประชัย ที่ยืนยันว่าได้มอบหมายให้ทนายความนำส่งคำชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษรไปถึง กกต.ตั้งนานแล้ว ก็รู้สึกงงว่าทำไม่ต้องให้เจ้าตัวไปชี้แจงด้วยตัวเอง ทั้งที่ ผู้ถูกกล่าวหาคือ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในฐานะหัวหน้าพรรคก็ใช้สิทธิ์ชี้แจงในลักษณะเดียวกันได้ แต่ว่ากันว่า มี กกต.บางคน อย่าง เช่น “เจ๊สด” เท่านั้นที่ยังคาดคั้น ทำให้ข้องใจเจตนาและในเรื่องสองมาตรฐาน แต่ถึงอย่างไรงานนี้มีลุ้นคำตัดสินในวันที่ 16 ธ.ค.อาจมีเสียวเล็กๆ !!