ก.ม.ม.แนะรบ.ปรับ ครม.เป็นของขวัญปีใหม่คนไทย ชี้ “มาร์ค” ต้องแสดงภาวะผู้นำปรับยุทธศาสตร์การทำงานสร้างผลประโยชน์ให้ประเทศมากกว่าอำนาจต่อรองของพรรคร่วม ติง “สนั่น” อย่าเอาตำแหน่งรองนายกฯ ให้บุตรชายสืบทอดเหมือนมรดกพินัยกรรม แต่ให้ลงรับสมัครเลือกตั้งจะดีกว่า พร้อมเผย ก.ม.ม.เตรียมเชิญนักวิชาการประเมินผลงานรัฐทุกมิติ ปลายเดือนนี้
วันนี้ (6 ธ.ค.) นายสำราญ รอดเพชร โฆษกพรรคการเมืองใหม่ (ก.ม.ม.) ได้เสนอแนะให้รัฐบาลปรับ ครม.เป็นของขวัญปีใหม่แก่ประชาชน โดยการเสนอแนะครั้งนี้เป็นการเสนอด้วยความสร้างสรรค์และสุจริตใจ เนื่องจากรัฐบาล โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้มีการเเสดงท่าทีว่าจะปรับ ครม.ในช่วงปีใหม่
ดังนั้น พรรคการเมืองใหม่มีความเห็นและข้อเสนอแนะ เริ่มจากนายกรัฐมนตรีต้องแสดงภาวะผู้นำในการปรับ ครม. และต้องชี้แนะพรรคร่วมรัฐบาลให้เห็นแก่ภาพรวม ประโยชน์ส่วนรวมของประเทศที่จะได้จากการปรับ ครม. ตลอดจนการมุ่งเน้นประสิทธิภาพ ประสิทธิผลของงานมากกว่าความลงตัวทางการเมืองในแต่ละพรรค หรือในพรรคร่วมรัฐบาล ต้องใช้บุคคลที่ซื่อสัตย์ สุจริต มีความรู้ความสามารถเหมาะสมกับงานและเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม
ทั้งนี้ นอกเหนือจากการปรับเปลี่ยนตัวบุคคลในบางตำแหน่งเเล้ว การปรับเปลี่ยนวิธีคิดยุทธศาสตร์ นโยบายในการทำงานของรัฐมนตรีในบางกระทรวงบางตำแหน่ง เช่น รัฐมนตรีที่กำกับดูแลด้านสื่อ ด้านความมั่นคง เป็นเรื่องที่ต้องพิจารณา
โฆษกพรรคการเมืองใหม่ ยังกล่าวถึงกรณีที่ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรีจะให้บุตรชายของตนดำรงตำแหน่งต่อจากตัวเองว่า พรรคการเมืองใหม่เข้าใจในความเหนื่อยล้าของ พล.ต.สนั่น จนต้องประกาศลาออกจากตำแหน่ง แต่ไม่เห็นด้วยที่ประกาศยกตำแหน่งให้บุตรชายมารับช่วงเพราะงานการเมืองไม่ใช่มรดกทางพินัยกรรม อีกทั้ง พล.ต.สนั่น เป็นผู้อาวุโสทางการเมืองคนหนึ่งที่มีหลักการ ความจริงใจทางการเมืองที่น่าชื่นชมอยู่ไม่น้อย จึงสมควรที่จะอยู่ในตำแหน่งต่อไป หากจะสนับสนุนบุตรชายให้เป็นรัฐมนตรีน่าจะรอหลังการเลือกตั้งทั่วไปสมัยหน้าจะสง่างามกว่า
ด้าน นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการพรรคการเมืองใหม่ กล่าวถึงกรณีนี้ว่า การปรับ ครม.ยังไม่พอต้องปรับโครงสร้างอำนาจเนื่องจากโครงสร้างปัจจุบันไม่เอื้ออำนวยต่อการแก้วิกฤตของประเทศแต่เอื้ออำนวยต่อการต่อรองพรรคร่วมรัฐบาลซึ่งผลประโยชน์ไม่ได้ตกอยู่ที่ประชาชน
ทั้งนี้ พรรคการเมืองใหม่ต้องการเสนอแนะมีหลายภาคส่วนด้วยกัน เช่น สุญญากาศในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ไม่สามารถแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้ การแต่งตั้งข้าราชการประจำหลายระดับที่ไม่ได้เอาวิกฤตของประเทศเป็นที่ตั้ง แต่คำนึงถึงพรรคร่วมรัฐบาล ตลอดจนความไม่ลงตัวทางทีมเศรษฐกิจ ที่คณะ ครม.เอาแต่ชิงดีชิงเด่นกันขาดยุทธศาสตร์ในการคลี่คลายปัญหาของประเทศ
นายสุริยะใสยังได้กล่าวถึงกลุ่มงานที่ต้องปรับปรุงใหม่ว่า กลุ่มงานที่ต้องปรับใหม่ได้แก่ เรื่องกลุ่มงานด้านความมั่นคง เนื่องจากตอนนี้ประเทศกำลังเผชิญวิกฤตด้านนี้อยู่ควรปรับให้เป็นเอกภาพ ต่อมาคือ กลุ่มงานด้านเศรษฐกิจ ที่ต่างคนต่างทำเเล้วมาดิสเครดิตทำให้การขับเคลื่อนการแก้ปัญหาเป็นไปได้ช้า และสร้างแต่ปัญหาใหม่มาให้แก้ไข นอกจากนี้ กลุ่มงานมหาดไทยที่เปรียบเหมือนกับไส้ติ่งของรัฐบาล เนื่องจากเจ้ากระทรวงนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล ขาดยุทธศาสตร์ในหารแก้ปัญหา พยายามสร้างรัฐซ้อนรัฐ ไม่ขึ้นต่อนโยบายรวมกลายเป็นยุทธศาสตร์ที่ไม่สอดคล้องกับการดำเนินงานของรัฐบาล
สุดท้ายคือ กลุ่มงานด้านสื่อสารมวลชนที่ขาดยุทธศาสตร์เชิงรุก ใช้สื่อรัฐในการตอบโจทย์สร้างแค่แปะป้ายประชาสัมพันธ์ แต่ไม่ได้สร้างโจทย์เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนเกิดคำถามเพื่อกำหนดวาระของประเทศอย่างแท้จริง
เลขาธิการพรรคการเมืองใหม่ยังกล่าวว่า พรรคการเมืองใหม่จะมีการประเมินผลงานของรัฐบาลในวันที่ 27 ธ.ค. โดยจะมีการประเมินทุกด้านทุกกระทรวง ซึ่งจะเชิญนักวิชาการมาวิเคราะห์ทุกมิติในผลงานและการแก้ปัญหาของรัฐบาลอีกด้วย
