โฆษกพรรคเพื่อไทย พ่นน้ำลายน้อมนำกระแสพระราชดำรัสในหลวง ใส่เกล้าใส่กระหม่อม แก้ตัวทันควัน ส.ส.มีเอกสิทธิ์ขึ้นเวทีคนเสื้อคนแดงได้อย่างไม่อายปาก สร้างจุดขายอ้าง “สิมารักษ์” จะอยู่กัมพูชาจนกว่า “ศิวรักษ์” จะได้กลับไทย ชอบทำตัวเป็นข่าว เตรียมเดินทางไปส่งถึงล้อเครื่องบินพรุ่งนี้
วันนี้ (6 ธ.ค.) นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงถึงการน้อมนำกระแสพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาปรับใช้ว่า กระแสพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นสิ่งมงคลสำหรับคนไทย พรรคเพื่อไทยในฐานะฝ่ายค้านจะน้อมนำกระแสพระราชดำรัสมาใส่เกล้าใส่กระหม่อม พร้อมทั้งจะนำมาปฏิบัติโดยจะตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลด้วยความซื่อสัตย์สุจริตและสร้างสรรค์ เปรียบเหมือน รปภ.ที่ทำหน้าที่คอยป้องปรามการทุจริต โดยยึดหลัก 1.มีการทุจริต 2.มีการกระทำที่ผิดกฎหมาย 3.ไม่เป็นไปตามนโยบาย และ 4.ประชาชนเดือดร้อน
ผู้สื่อข่าวถามว่า ส.ส.ของพรรคเพื่อไทยบางส่วนยังคงใช้วิธีเคลื่อนไหวอยู่ภายนอกสภา นายพร้อมพงศ์กล่าวว่า รัฐธรรมนูญมาตรา 162 ให้ ส.ส.มีเอกสิทธิ์ดำเนินกิจกรรมทางการเมืองโดยไม่ละเมิดกฎหมาย ซึ่งหาก ส.ส.คนใดกระทำการที่ละเมิดต่อกฎหมายก็ต้องแสดงความรับผิดชอบส่วนพรรคเพื่อไทยจะดำเนินการตามระบบรัฐสภา ใช้เวทีของสภาเป็นที่ตั้ง
นายพร้อมพงศ์ แถลงถึงกรณีนางสิมารักษ์ ณ นครพนม มารดานายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ วิศวกรชาวไทยที่ถูกทางการกัมพูชาควบคุมตัว จะเดินทางไปประเทศกัมพูชาอีกครั้งในวันที่ 7 ธ.ค.ว่า เมื่อช่วงเช้าชองวันที่ 6 ธ.ค.นางสิมารักษ์ได้โทรศัพท์มาแจ้งกับตนว่ากำลังจะเดินทางมากรุงเทพฯเนื่องจากในวันที่ 7 ธ.ค.จะเดินทางไปประเทศกัมพูชาพร้อมกับเจ้าหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศ โดยสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส ในเวลา 07.40 น.และจะพำนักอยู่ที่ประเทศกัมพูชาจนกว่าคดีจะแล้วเสร็จ
ทั้งนี้ การพิจารณาคดีในวันที่ 8 ธ.ค.หากผลการตัดสินออกมาเป็นบวกนางสิมารักษ์ก็จะนำตัวลูกชายกลับประเทศไทยในวันที่ 9 ธ.ค. แต่หากผลการตัดสินออกมาเป็นลบ ก็จะให้ทนายความยื่นขอพระราชทายอภัยโทษให้ และจะอยู่รอจนกว่าลูกชายจะได้กลับประเทศไทย ส่วนพรรคเพื่อไทยนั้นคงจะไม่มีการเดินทางไปด้วย แต่จะมีการไปส่งนางสิมารักษ์เพื่อเป้นการให้กำลังใจเท่านั้น
