นายกฯแถลงข่าวเชิญชวน ปชช.ร่วมงานเฉลิมพระเกียรติ 82 พรรษา จัดกำลังตำรวจ 2,300 นาย รักษาความปลอดภัย เตรียมปิดการจราจรถนนชั้นใน ตั้งแต่เวลา 18.00-24.00 น.ตลอด 9 วัน นัดจุดเทียนชัยถวายพระพรทุกวันในเวลา 21.00 น. กำหนด 8 จุดรับรถคลื่นมหาชน
วันนี้ (30 พ.ย.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง และนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ร่วมแถลงข่าวเชิญชวนประชาชนมาร่วมงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 82 พรรษา 5 ธันวาคม 52 ที่จะจัดระหว่างวันที่ 2-13 ธ.ค.รวม 9 วัน และกิจกรรมเสริมอีก 264 กิจกรรม
นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า รัฐบาลกำหนดการจัดงานในกรุงเทพมหานครไว้ 3 แห่ง คือ บริเวณท้องสนามหลวง ที่จัดโดยมูลนิธิ 5 ธันวามหาราช เริ่มวันที่ 1-7 ธันวาคม โดยมีพิธีเปิดงานวันที่ 4 ธันวาคม บริเวณลานพระราชวังดุสิต โดยกระทรวงมหาดไทย ร่วมกับกระทรวงกลาโหม กระทรวงคมนาคมกระทรวงพาณิชย์ จัดงานระหว่างวันที่ 5-13 ธันวาคม จะมีการแสดงดนตรีออเคสต้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก และทุกวันเวลา 21.00 น.จะมีการจุดเทียนชัยถวายพระพร
ส่วนบริเวณถนนราชดำเนินกลาง โดยกระทรวงการคลังร่วมกับกระทรวงต่างๆ 15 กระทรวง และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จัดงานภายใต้แนวคิด “ความสุขของคนไทยใต้แสงพระบารมี” โดยงานจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 3-7 ธันวาคม ตั้งแต่เวลา 18.00-24.00 น.
ขณะที่การจัดงานเฉลิมพระเกียรติครั้งนี้จะมีการถ่ายทอดสดไปยังโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย และสลับสับเปลี่ยนถ่ายทอดไปยังสถานีโทรทัศน์ทุกช่อง ตั้งแต่วันที่ 1-13 ธันวาคมด้วย
ด้าน พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาการ ผบ.ตร.เปิดเผยว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และสำนักงานตำรวจนครบาล ได้รับมอบหมายจากรัฐบาล ให้ดำเนินการรักษาความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกทางจราจรในงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 82 พรรษา 5 ธันวาคม 2552 โดยที่ประชุมมอบหมาย ให้วางแผนด้านการจัดการจราจรและวางแผนรักษาความปลอดภัย
ทั้งนี้ ได้กำหนดเส้นทางที่จะปิดการจราจรในเขตกรุงเทพฯ ชั้นใน เส้นถนนราชดำเนินกลาง จะปิดการจราจระหว่างวันที่ 3-7 ธ.ค.2552 ตั้งแต่เวลา 18.00-24.00 น.ส่วนวันที่ 2 ธ.ค.2552 จะมีการจัดพิธีซ้อมใหญ่ขบวนพาเหรดรถไฟฟ้า (แสงสีเสียง) ซึ่งจะมีการปิดการจราจรระหว่างเวลา 22.00-05.00 น.
ขณะที่บริเวณลานพระราชวังดุสิต จะปิดการจราจร ระหว่างวันที่ 5-13 ธ.ค.2552 ตั้งแต่เวลา 16.00-22.00 น.ทั้งนี้ บริเวณท้องสนามหลวงจะไม่มีการปิดการจราจรแต่อย่างใด
ทั้งนี้ จะมีจุดจอดรถรับส่งประชาชน ที่นำรถส่วนตัวและรถโดยสาร (รถบัส) ใน 8 จุด จำนวน 3,520 คัน ประกอบด้วย ถ.กำแพงเพชร 5 จำนวน 100 คัน ลานจอดรถโรงปูน จำนวน 100 คัน ถ.กำแพงเพชร 2 จำนวน 150 คัน ลานจอดรถ บช.ภ.1 จำนวน 120 คัน ถ.กำแพงเพชร 6 จำนวน 700 คัน ถ.พุทธมณฑล สาย 1 จำนวน 550 คัน ถ.ราชพฤกษ์ 500 คัน ถ.พุทธมณฑล สาย 2 จำนวน 700 คัน และ ถ.กาญจนภิเษก จำนวน 600 คัน
ส่วนการรักษาความปลอดภัย ได้กำหนดพื้นที่ปฏิบัตการทั้งกรุงเทพฯ ชั้นนอก ชั้นกลาง ตั้งแต่ ถ.ราชดำเนินนอก ถึงแยก จปร.ไปจนถึงสวนมิสกวัน รอบท้องสนามหลวง และพื้นที่โดยรอบลานพระวังดุสิต พื้นที่โดย และชั้นใน บริเวณถนนราชดำเนินนอก ตั้งแต่แยก จปร.มาตามถนนราชดำเนินกลางถึงแยกผ่านพิภพ บริเวณท้องสนามหลวงและบริเวณพระราชวังดุสิต
ทั้งนี้ กำลังตำรวจที่จะใช้รักษาความปลอดภัยในงานนี้ ประกอบด้วย ฝ่ายต่างๆ ในชั้นใน 411 นาย ขณะที่พื้นที่ชั้นนอกใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ตั้งจุดตรวจ 176 จุด กำลังพล 1,760 นาย และกรุงเทพฯชั้นกลาง ใช้จุดตรวจค้น 17 จุด กำลังพล 204 นาย รวมใช้กำลังพล 2,375 นาย
