กห.เผยประชุม “จีบีซี” เน้นทำความเข้าใจด้านทหาร พร้อมวางแผนเก็บกู้ทุ่นระเบิด รวมทั้งถกปัญหาพื้นที่ทับซ้อน ไทย-กัมพูชา ร่วมกับการหารือปัญหาสังคม ทั้งยังชวน ปชช. ร่วมอวยพรปีใหม่ เพื่อส่งกำลังใจให้แก่ทหารแนวชายแดน
วันนี้ (26 พ.ย.) พ.อ.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกระทรวงกลาโหมแถลงภายหลังการประชุมสภากลาโหมถึงความสัมพันธ์ระหว่างไทย และกัมพูชาว่า รมว.กลาโหม ขอให้หน่วยทหารในพื้นที่รักษาสัมพันธภาพที่ดีไว้ให้มั่นคง โดยให้คำนึงถึงความผาสุกของประชาชนเป็นหลัก พร้อมกับประสานผู้บังคับหน่วยทหารกัมพูชาในพื้นที่ที่จะช่วยกันรักษาอธิปไตย และความมั่นคงตามแนวชายแดน ซึ่งจะมีการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา (จีบีซี) ระหว่างวันที่ 26-27 พ.ย.นี้ ที่พัทยา โดยจะมีการชี้แจงทำความเข้าใจและขอให้ฝ่ายทหารของกัมพูชาดูแลประชาชน และนักลงทุนของไทยที่อยู่ในกัมพูชาให้มีความมั่นคงปลอดภัยในการดำเนินธุรกิจ และประกอบอาชีพ เพื่อผลประโยชน์ร่วมกันของฝ่ายไทยและกัมพูชา
“ในการประชุมจะเน้นความเข้าใจของทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ และพื้นที่ต่างๆ ที่มีปัญหา รวมถึงการยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน โดยเฉพาะการจัดทำแผนเก็บกู้ทุ่นระเบิดนั้น รมว.กลาโหมทั้งสองประเทศให้ความห่วงใย เพราะที่ผ่านมาอาจไม่เป็นรูปธรรมเท่าที่ควร ดังนั้นในครั้งนี้จะจัดทำเป็นแผนปฏิบัติการร่วมกัน คือ กินนอนร่วมกัน ลาดตระเวนร่วมกัน จะได้ทำให้สถานที่เกิดความปลอดภัย ทั้งนี้ ที่ประชุมคงมีการพูดคุยเกี่ยวกับพื้นที่ทับซ้อน หรือเหตุการณ์ที่ยังเป็นปัญหาในสังคมอยู่ นอกจากนี้ยังมีการจัดเตรียมแผนช่วยเหลือภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นในสองประเทศ ซึ่งภายหลังการประชุมเสร็จ รมว.กลาโหมทั้งสองประเทศจะร่วมกันแถลงและตอบทุกข้อซักถาม” โฆษกกระทรวงกลาโหม
พ.อ.ธนาธิป กล่าวว่า เนื่องในโอกาสเทศกาลปีใหม่กำลังใกล้มาถึงเพื่อให้กำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนมีขวัญและกำลังใจในการปกป้องอธิปไตยของชาติด้วยความภาคภูมิใจ และรับรู้ว่า ประชาชนมีความห่วงใย รมว.กลาโหมจึงขอให้หน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหม และเหล่าทัพได้ใช้สื่อของกองทัพในการประชาสัมพันธ์ และเชิญชวนให้ประชาชนทั่วไปร่วมส่งบัตรอวยพรเป็นของขวัญปีใหม่เพื่อให้กำลัง ใจแก่กำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ปกป้องอธิปไตยตามพื้นที่ต่างๆ โดยเฉพาะพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และแนวชายแดนไทย-กัมพูชา” โฆษกกระทรวงกลาโหมกล่าว
พ.อ.ธนาธิป กล่าวว่า ทั้งนี้ที่ประชุมไม่ได้มีการพูดถึงการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง ส่วนที่ยังคงประกาศพ.ร.บ.ความมั่นคงอยู่นั้น เพื่อความไม่ประมาทต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น แต่แผนต่างๆที่มีการอนุมัติเรียบร้อยแล้ว คงมีการใช้แผนดังกล่าว เพียงแต่เจ้าหน้าที่จะเตรียมพร้อมอยู่ในสถานที่ตั้งตามปกติ
