ผบ.ทร. ติงเลิกเอ็มโอยู ต้องพิจารณาข้อดี-ข้อเสียให้รอบคอบ เชื่อ 3 กมธ. มืออาชีพพอเห็นแก่ผลประโยชน์ชาติ ย้ำ รบ.ให้นโยบายมาอย่างไรก็พร้อมทำตามเช่นนั้น ยัน สถานการณ์ชายทะเล ไทย-เขมร ยังปกติ ด้าน กห. เตรียมเป็นเจ้าภาพจัดประชุมจีบีซี ไทย-เขมร วันที่ 26-27 พ.ย.นี้ เผย "บิ๊กป้อม" คิดใช้กองทัพเป็นเชื่อมลดความขัดแย้งสองประเทศ
วันนี้ (20 พ.ย.) ที่กองทัพเรือ พล.ร.อ.กำธร พุ่มหิรัญ ผู้บัญชาการทหารเรือ กล่าวถึงสถานการณ์ความขัดแย้งชายแดนไทยกัมพูชา ว่า ในระดับทหารด้วยกันกองทัพเรือที่ดูแลด้านจันทบุรีและตราดยังเรียบร้อยดีและมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ซึ่งเราพูดคุยกันตลอดคิดว่าไม่มีการเพิ่มเติมกำลังทั้งสิ้น ส่วนการดำเนินการลาดตระเวนร่วมกันคงเหมือนเดิมตามปกติ ขอให้สบายใจได้ไม่มีปัญหา ทั้งนี้ การเป็นทหารที่มีคุณภาพไม่ใช่ว่าจำเป็นต้องรบชนะ บางทีการที่ไม่ต้องรบ แต่เราสามารถชนะได้ คือ ชนะใจเขาได้ คิดว่าเป็นวิธีการรบที่ดีที่สุด ขณะนี้กองทัพเรือทางชายทะเลของกัมพูชาไม่มีการเคลื่อนไหวเป็นปกติ
เมื่อถามว่า หากยกเลิกเอ็มโอยูจะส่งผลกระทบต่อกองทัพเรือที่ดูแลตามพื้นที่ทางทะเลหรือไม่ พล.ร.อ.กำธร กล่าวว่า คิดว่าขณะนี้ดูแลในรายละเอียดอยู่ แม้จะผ่านมติ ครม. แล้ว แต่ต้องผ่านรัฐสภาด้วย ทั้งนี้ ต้องช่วยกันคิดว่าผลจะออกมาอย่างไร แต่กองทัพดูแลอยู่มีการลาดตระเวนในพื้นที่ ส่วนพื้นที่ใดที่ยังไม่สำรวจ เราก็ไปดูว่ามีการละเมิดข้อตกลงหรือไม่ ซึ่งกองทัพทำมานานเป็นปกติตลอดไม่เฉพาะฝั่งตะวันออก แต่รวมถึงฝั่งอันดามัน ซึ่งเราพยายามเสริมสร้างความเป็นมิตรกับกองทัพเพื่อนบ้านเสมอ บางประเทศมีการลาดตระเวนร่วมกัน
“คิดว่ากระทรวงการต่างประเทศและผู้เกี่ยวข้องในคณะกรรมาธิการพิจารณาที่มีอยู่ 3 คณะ ซึ่งมีความเป็นมืออาชีพทั้งนั้น เชื่อว่าเขานึกถึงประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก และคิดว่าอะไรเป็นข้อดีข้อเสียของประเทศมากกว่า คิดว่าเขาเป็นมืออาชีพพอสมควร คงไม่ต้องห่วง แต่หากมีนโยบายอย่างไรก็ต้องปฏิบัติตามกรอบนโยบาย” ผบ.ทร. กล่าว
เมื่อถามว่า กัมพูชามีการซ้อมรบทางทะเล พล.ร.อ.กำธร กล่าวว่า ไม่มีการซ้อมรบ ไม่มีอะไร ส่วนการฝึกต้องมีตามปกติที่ต้องฝึกอยู่เสมอ แต่ไม่ได้ซ้อมรบไปคุกคามใครไม่มีทั้งสิ้น
ขณะที่ พ.อ.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า ในวันที่ 26 -27 พฤศจิกายนนี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา (จีบีซี) ที่โรงแรมดุสิตธานี อ.พัทยา จ.ชลบุรี โดยเป็นการประชุมระดับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของไทยและกัมพูชา ซึ่งครั้งนี้ไทยเป็นเจ้าภาพ โดยการประชุมจะมีการหารือถึงสถานการณ์ความมั่นคงตามแนวชายแดน ความร่วมมือทางด้านทหาร ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ระบุว่าในการหารือครั้งนี้จะใช้ความสัมพันธ์ของกองทัพในการลดความตรึงเครียดของทั้งสองประเทศ แม้ว่าระดับรัฐบาลจะมีความขัดแย้ง แต่ระดับกองทัพเรามีการพูดคุยกันตลอด ซึ่งกระทรวงกลาโหมจะใช้กลไกกองทัพเป็นตัวเชื่อมลดความขัดแย้งภายใต้กรอบกลไกของรัฐบาลที่ต้องการเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศให้มีความแน่นแฟ้นและไว้เนื้อเชื่อใจกันมากขึ้น