นายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีเปิดงานโครงการเวทีสิทธิเด็ก ครั้งที่ 20 พร้อมร่วมรับฟังความคิดเห็นจากเยาวชน ระบุ เด็กไทยทุกคนต้องมีโอกาสได้รับการศึกษา เด็กพิการและเด็กด้อยโอกาส จะจัดสรรทุนสนับสนุน และทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษาเพิ่มขึ้น พร้อมซิว! รางวัล ทูตพิทักษ์สิทธิเด็ก สาขานักการเมือง ปี 52
วันนี้ (20 พ.ย.) ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีเปิดงานโครงการเวทีสิทธิเด็ก ครั้งที่ 20 และร่วมรับฟังความคิดเห็นจากเยาวชน เพื่อนำไปกำหนดแนวทางการดำเนินงานทางด้านเด็กให้บรรลุวัตถุประสงค์จุดมุ่งหมาย ตามอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก ซึ่งเป็นพันธกรณีระหว่างประเทศไทยที่เข้าเป็นภาคีตามที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ
ทั้งนี้ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า รัฐบาลจะให้การดูแลเด็กปฐมวัยเป็นพิเศษ เนื่องจากเป็นช่วงที่สำคัญของชีวิต และมีผลต่อการพัฒนาของเด็กไปตลอดชีวิต ด้านการศึกษาจะมีการปรับปรุงการบริหารจัดการการศึกษาตั้งแต่พื้นฐานจนถึงอุดมศึกษา โดยจัดให้เด็กทุกคนมีโอกาสได้รับการศึกษา สำหรับกรณีเด็กพิการและเด็กที่อยู่ในภาวะด้อยโอกาส จะมีการจัดสรรทุนสนับสนุน และทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษาเพิ่มขึ้น ในขณะที่การคุ้มครองเด็กจะต้องคุ้มครองป้องกันให้รอดพ้นจากปัญหาการค้ามนุษย์ การใช้แรงงานเด็ก และการทำร้ายเด็ก
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังได้รับการพิจารณาให้เป็น “ทูตพิทักษ์สิทธิเด็ก สาขานักการเมือง ประจำปี 2552” และเป็นประธานมอบรางวัลทูตพิทักษ์สิทธิเด็กแห่งปี 2552 ซึ่งมีจำนวนทั้งสิ้น 14 ท่าน แยกเป็นสาขานักการเมือง สาขาศาสนา สาขาข้าราชการ สาขาสื่อ สาขาองค์กรพัฒนาเอกชน สาขาประชาสังคม และสาขาภาคธุรกิจ พร้อมมอบพันธสัญญาแก่คณะผู้แทนเด็กและเยาวชน และร่วมกันผลักดันแนวคิดจากเวทีสิทธิเด็กให้บังเกิดผลเป็นรูปธรรมต่อไป
วันนี้ (20 พ.ย.) ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีเปิดงานโครงการเวทีสิทธิเด็ก ครั้งที่ 20 และร่วมรับฟังความคิดเห็นจากเยาวชน เพื่อนำไปกำหนดแนวทางการดำเนินงานทางด้านเด็กให้บรรลุวัตถุประสงค์จุดมุ่งหมาย ตามอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก ซึ่งเป็นพันธกรณีระหว่างประเทศไทยที่เข้าเป็นภาคีตามที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ
ทั้งนี้ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า รัฐบาลจะให้การดูแลเด็กปฐมวัยเป็นพิเศษ เนื่องจากเป็นช่วงที่สำคัญของชีวิต และมีผลต่อการพัฒนาของเด็กไปตลอดชีวิต ด้านการศึกษาจะมีการปรับปรุงการบริหารจัดการการศึกษาตั้งแต่พื้นฐานจนถึงอุดมศึกษา โดยจัดให้เด็กทุกคนมีโอกาสได้รับการศึกษา สำหรับกรณีเด็กพิการและเด็กที่อยู่ในภาวะด้อยโอกาส จะมีการจัดสรรทุนสนับสนุน และทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษาเพิ่มขึ้น ในขณะที่การคุ้มครองเด็กจะต้องคุ้มครองป้องกันให้รอดพ้นจากปัญหาการค้ามนุษย์ การใช้แรงงานเด็ก และการทำร้ายเด็ก
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังได้รับการพิจารณาให้เป็น “ทูตพิทักษ์สิทธิเด็ก สาขานักการเมือง ประจำปี 2552” และเป็นประธานมอบรางวัลทูตพิทักษ์สิทธิเด็กแห่งปี 2552 ซึ่งมีจำนวนทั้งสิ้น 14 ท่าน แยกเป็นสาขานักการเมือง สาขาศาสนา สาขาข้าราชการ สาขาสื่อ สาขาองค์กรพัฒนาเอกชน สาขาประชาสังคม และสาขาภาคธุรกิจ พร้อมมอบพันธสัญญาแก่คณะผู้แทนเด็กและเยาวชน และร่วมกันผลักดันแนวคิดจากเวทีสิทธิเด็กให้บังเกิดผลเป็นรูปธรรมต่อไป