xs
xsm
sm
md
lg

“มาร์ค” สั่ง จนท.เชือดวิทยุชุมนุมเชียงใหม่ ขู่ฆ่าผู้นำ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
“อภิสิทธิ์” ยังไม่เปลี่ยนใจยืนยันเดินทางไปปฏิบัติภารกิจ เตือนสติคนเชียงใหม่เสียโอกาสไปเยอะ เพราะความขัดแย้งทางการเมือง ชี้ยึดวิทยุชุมชนปลุกระดมฆ่าผู้นำผิดกฎหมาย ส่งสัญญาณให้เจ้าหน้าที่จัดการจัดการ เมิน “เสื้อแดง” ระดมชุมนุมนับล้าน ขู่มาแค่สิบล้ำเส้นกฎหมายก็ต้องจัดการ คาดที่ประชุม ครม.อังคารหน้ามีความชัดเจนจะประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงหรือไม่


คลิกที่นี่ เพื่อฟังนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ให้สัมภาษณ์

ฟังชัดๆ “เพชรวรรต + สุรชัย” ปลุกคน 8 จังหวัดฆ่านายกฯ



คลิกที่นี่ เพื่อฟังเสียงวิทยุเสื้อแดงขู่ฆ่า นายก

วันนี้ (20 พ.ย.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกำหนดการเดินทางไปปฏิบัติภารกิจในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งล่าสุดมีการออกมาข่มขู่จะทำร้ายนายกรัฐมนตรีว่า กำหนดการยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ผู้สื่อข่าวถามว่ามั่นใจว่าเจ้าหน้าที่จะสามารถดูแลสถานการณ์ได้ใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่มีหน้าที่ที่จะต้องดูแล ข่าวทำนองนี้ก็มีมาเป็นระยะๆ ครั้งนี้อาจดูเป็นเรื่องเป็นราวมากขึ้นหน่อย แต่เป็นเรื่องที่ทางเจ้าหน้าที่เขาดูแลอยู่ เมื่อถามว่าตอนนี้ถึงขนาดที่ใช้วิทยุชุมชนข่มขู่ว่าจะมีการลอบสังหารผู้นำ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า การใช้วิทยุและถึงขั้นข่มขู่นั้นผิดกฎหมาย ตรงนี้ทางเจ้าหน้าที่คงดำเนินการ

เมื่อถามว่าจะทำอย่าไรเพราะคนที่พูดนั้นมีหมายจับอยู่ดคีหนึ่งแล้ว นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ต้องดำเนินการตามกฎหมาย ใครทำผิดกฎหมายก็ต้องทำและต้องเข้มงวดกวดขันกัน อันนี้ทางเจ้าหน้าที่กำลังดำเนินการอยู่ เมื่อถามว่ากลัวหรือกังวลหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า มันเป็นหน้าที่ เราก็ทำ และเราต้องฟังความเห็นของฝ่ายความมั่นคงหรือฝ่ายรักษาความปลอดภัยเขาด้วย แต่โดยหลักอยากจะไปทำหน้าที่ของเรา

“ข่าวก็มีมันไม่ใช่ครั้งแรก แต่ครั้งนี้ดูจะรุนแรงถึงขั้นที่ว่าไปพูดกันแบบเปิดเผย ซึ่งเจ้าหน้าที่เขากำลังดำเนินการอยู่” นายอภิสิทธิ์กล่าว

เมื่อถามว่ามีกำชับอะไรหรือไม่ เพราะคนที่เคลื่อนไหวก็เป็นกลุ่มคนเดิมๆ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า จริงๆ แล้วพูดตามตรงพื้นที่ตรงนั้นทางเจ้าหน้าที่เขาเข้มแข็งพอสมควร แต่มันก็มีข้อจำกัดบางอย่างด้วยและมีเรื่องของข้อกฎหมายที่ต้องขึ้นอยู่กับหลายองค์กร เขาก็เดินหน้าทำอยู่ เมื่อถามว่า จากการข่มขู่นี้การลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ต้องเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเป็นพิเศษหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า จริงๆ แล้วผู้จัดงานคือภาคเอกชนเขาต้องการที่จะทำให้งานนี้ เป็นงานที่ช่วยระดมให้คนมองเห็นถึงความสำคัญ ที่จะมาช่วยกันทำงาน จะได้เกิดความสมานฉันท์ พูดตามตรงเขาก็บอกว่าเชียงใหม่ เสียโอกาสไปเยอะจากปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง และจริงๆ แล้วรัฐบาลก็ให้การสนับสนุนการพัฒนาทุกพื้นที่ แม้กระทั่งเชียงใหม่ก็มีโครงการต่อเนื่อง เรื่องศูนย์ประชุม เรื่องอะไรต่างๆ ที่เขาต้องที่จะให้ภาครัฐ ภาคเอกชนเข้าไป ตนเข้าใจว่าแม้กระทั่ง ส.ส.ซึ่งเป็นฝ่ายค้าน ก็ถูกดึงเข้ามาให้มาช่วยเป็นที่ปรึกษา ฉะนั้นจะเป็นเรื่องที่น่าเสียดายมากที่เวทีนี้ หากไม่สามารถจัดขึ้นได้ เขาต้องการให้เป็นความเปลี่ยนแปลง ซึ่งตนมั่นใจว่าคนเชียงใหม่ส่วนใหญ่ต้องการที่จะเห็นเกิดขึ้น

เมื่อถามว่า ตอนนี้นายกฯ รู้สึกอยู่ในภาวะที่ไม่ปลอดภัยหรือเปล่า นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ก็เหมือนเดิมเพิ่มเล็กน้อย เมื่อถามว่าคนเสื้อแดงเลื่อนการชุมนุมเร็วขึ้นเป็นวันที่ 28 พ.ย.นี้ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า การที่จะเข้ามากรุงเทพฯและการประกาศหรือพูดถึงการล้อมทำเนียบหรืออะไร ก็กำลังรอให้ฝ่ายความมั่นคงเขาเสนอต่อ ครม.ว่าจะดำเนินการอย่างไร เมื่อถามว่า จากการข่าวที่มาประเมินหรือยังว่า จำเป็นที่จะต้องประกาศใช้พรบ.ความมั่นคงหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ณ เมื่อวานนี้ (19 พ.ย.) ยัง แต่เมื่อวานนี้มีการเคลื่อนไหวหรือมีการพูดคุยของผู้ที่เกี่ยวข้องเยอะ รวมถึงการแถลงข่าวด้วย เข้าใจว่าในวันอังคารที่ 24 พ.ย.นี้คงจะชัดเจน

เมื่อถามว่ายุทธศาสตร์ของคนเสื้อแดงจะกระจายไปหลายพื้นที่การประกาศ พรบ.ความมั่นคง จะควบคุมได้ทุกจุดหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า คงต้องประเมินสถานการณ์ และทำงานทางด้านการข่าวพอสมควร ถึงแนวทางการเคลื่อนไหว แต่ถ้าการเคลื่อนไหวกำลังจะมาทำในสิ่งที่ผิดกฎหมาย เรายอมไม่ได้ หากไปบอกต้องการหรือเจตนาให้เกิดปัญหาความเดือดร้อนหรือความวุ่นวายขึ้นโดยทั่วกัน อันนี้ไม่ใช่การใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ แต่ถ้ามาแล้วใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญก็ไม่มีปัญหาอะไร เราอยากจะให้ทุกอย่างอยู่บนความเรียบร้อย

เมื่อถามว่า เขาบอกจะใช้คนเป็นล้านมากดดันให้นายกฯ ยุบสภาฯ จำนวนคนมีผลหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เรื่องการเคลื่อนไหว เขาจะมาเป็นล้านหรือจะมาสิบคนสิทธิเหมือนกัน คือชุมนุมโดยสงบปราศจากอาวุธ ถ้าสิบคนทำผิดกฎหมายก็ต้องดำเนินการ ล้านคนมาถ้าไม่ทำผิดกฎหมายเลยก็เป็นสิทธิที่จะทำได้ ส่วนการกดดันตอนนี้มีกระบวนการทุกอย่างอยู่ในสภาและเปิดสมัยประชุมมาคราวหน้า เขาจะเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งก็มีกลไกของสภาฯ ที่มีการตรวจสอบอยู่

“ต้องถามว่า เงื่อนไขที่บอกว่าจะให้มากดดันให้ยุบสภาฯ คืออะไร จริงๆ ผมได้เรียนแล้วว่า ถ้าเศรษฐกิจเริ่มดีขึ้น ซึ่งขณะนี้เริ่มดีขึ้นชัดเจน ถ้ามาตกลงกันเรื่องกติกา เดิมก็มาบอกจะแก้รัฐธรรมนูญกัน เมื่อตกลงกันได้ 6 ประเด็น ฝ่ายค้านก็เป็นฝ่ายที่ถอยไปเอง ผมก็บอกว่าหากบ้านเมืองสงบไม่มาเคลื่อนไหวขัดขวางการทำงาน เปิดโอกาสให้คนไปหาเสียงกันได้ ตามปกติก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้การยุบสภา แต่วันนี้คนที่เป็นฝ่ายปิดเงื่อนไขเหล่านี้ทั้งหมดไม่ใช่ฝ่ายรัฐบาล แต่เป็นฝ่ายที่มาเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลเอง ทำให้เกิดความคิดว่าสรุปแล้วความต้องการอันนั้นอยู่บนพื้นฐานอะไร เป็นประโยชน์ของประเทศชาติหรือไม่” นายอภิสิทธิ์กล่าว

เมื่อถามว่า จริงๆ แล้วเหมือนความต้องการเขามากกว่าการยุบสภา อาจต้องการความเปลี่ยนแปลงบางอย่างที่มันใหญ่กว่านั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตรงนี้ที่ตนคิดว่านับวันจะชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ เพราะเป้าหมายมันคือเป้าหมายของบุคคล ของกลุ่ม เป็นผลประโยชน์เฉพาะตรงนั้น ไม่ใช่เรื่องของส่วนรวม เมื่อถามว่าความพยายามที่จะย้อนเวลากลับไปเหมือนเหตุการณ์ก่อน 19 กันยาฯ มีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนยังไม่ทราบว่าที่บอกย้อนกลับไปตรงนั้นเป็นอย่างไร เพราะเหตุการณ์มันจะตัดตอนแค่ 19 กันยาฯ ไม่ได้มันมีเหตุการณ์ก่อน 19 กันยาฯ ซึ่งมีการกระทำความผิดเยอะแยะเช่นเดียวกัน มันเป็นความพยายามที่จะให้เกิดความเข้าใจว่าพอเกิด 19 กันยาฯ คนที่ไม่ได้ทำอะไรผิดก็เลยผิด ซึ่งความจริงมันไม่ใช่ และกระบวนการของปัญหาการแทรกแซงองค์กรต่างๆ ก่อนหน้านั้นปัญหาการกระทำความผิดหลายอย่าง ซึ่งยังตกทอดเป็นปัญหาที่ต้องคลี่คลายต่อไปทุกวันนี้ก็มี ฉะนั้น บางเรื่องตนบอกไปแล้วถ้าไม่ได้รับความเป็นธรรมตรงไหน อยากจะแก้ไขกติกาอย่างไรก็เปิดโอกาสพูดคุยกัน พอได้ข้อยุติร่วมกันก็กลับถอยไปบอกไม่ยอมรับอีก
กำลังโหลดความคิดเห็น