“สุเทพ” แนะ “ทักษิณ” ลาออกจากที่ปรึกษาเขมร ช่วยสัมพันธ์ไทย-กัมพูชาดีขึ้น แต่เชื่อเป็นไปไม่ได้ เพราะลงทุนวางแผนล้มรัฐบาลทั้งใน-นอกประเทศ เย้ย “ตุ๊ดตู่” หลัง “เตียบัญ” ยืนยันไม่ดักฟังโทรศัพท์สถานทูต ซัดกลับบริวารทักษิณคุ้นเคยกับการดักฟังจนเคยชิน เตือนสื่อให้ระวัง พร้อมเข้าใจแม่วิศวกรเข้าพบ ส.ส.เพื่อไทย เพราะสนิทกับ “นช.แม้ว” ต้นเหตุของปัญหามากกว่า
คลิกที่นี่ เพื่อฟังนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ให้สัมภาษณ์
วันนี้ (20 พ.ย.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง ให้สัมภาษณ์กรณีปัญหาสัมพันธ์ไทยกัมพูชาหลัง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคดี ไปเป็นที่ปรึกษาของนายฮุนเซนและรัฐบาลกัมพูชาว่า ปัญหาทั้งหมดเกิดจากแผนของ พ.ต.ท.ทักษิณและบริวาร ถ้าเขาเล็งเห็นหรือสำนึกว่าการที่จะต่อสู้ให้ พ.ต.ท.ทักษิณได้ทรัพย์สินคืนมาโดยไม่ต้องติดคุกแล้วไปสร้างสถานการณ์ในประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อมากดดันรัฐบาลนั้น มันจะเป็นผลเสียทั้งในปัจจุบันและระยะยาว และขณะนี้เลยเถิดไปถึงขนาดเอาชีวิต เอาอิสรภาพของคนไทยมาเป็นเดิมพันอย่างนี้มันโหดร้ายเกินไป และยังเอาธุรกิจการลงทุนของคนไทยที่ไปลงทุนไว้ในประเทศเพื่อนบ้านมาเป็นเครื่องต่อรอง อย่างนี้ก็หนัก
“วิธีแก้ไขที่ง่ายก็คือ คุณทักษิณ ลาออกจากการเป็นที่ปรึกษา และประกาศว่าไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว รัฐบาลกัมพูชาเขาจะได้ตระหนักว่าเมื่อหุ้นส่วนถอนตัว ก็ไม่คุ้มค่าอะไรที่จะมามีปัญหากับประเทศไทย เราก็จะได้มีโอกาสไปฟื้นฟูความสัมพันธ์กัน ผมก็เตรียมพร้อมอยู่แล้วว่ามีช่องทางไหนที่จะพูดจาให้ทางกัมพูชาเขาเข้าใจได้ ลดดีกรีของความรู้สึกที่อึดอัดอยู่ และแก้ไข ค่อยๆ ผ่อนคลายก็จะเรียบร้อย” รองนายกฯ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าหาก พ.ต.ท.ทักษิณ ลาออกปัญหาของ 2 ประเทศจะจบเลยใช่หรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ถ้า พ.ต.ท.ทักษิณ ลาออก หรือกัมพูชาเขาเปลี่ยน (ไม่ใช่ปลดเดี๋ยวจะแรงไป) ไม่ให้เป็นที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจและไม่ให้เดินทางเข้าไปตั้งหลักในกัมพูชาอีก สิ่งที่เคยเป็นปัญหาอยู่ก็จะเบาลง เราก็สามารถที่จะส่งทูตกลับไปประจำที่กัมพูชาได้ และกัมพูชาก็ส่งทูตมาประจำในประเทศไทยได้ การติดต่อทางการทูตกันตามปกติก็จะเริ่มขึ้นอีกครั้งหนึ่ง สถานการณ์ต่างๆ ก็จะดีขึ้นกว่านี้
เมื่อถามว่าเป็นห่วงว่าจะถูกวิจารณ์หรือไม่ว่ารัฐบาลนี้ไม่มีทางแก้ปัญหาแล้วจึงต้องมาขอร้องให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ลาออกจากที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของกัมพูชา นายสุเทพกล่าวว่า “ผมไม่ได้ขอร้อง เพียงแต่ว่าเมื่อสื่อถาม ผมก็คิดว่าวิธีนี้น่าจะเป็นไปได้ง่ายที่สุด เพราะถ้าคุณทักษิณและบริวารเห็นว่าสิ่งที่ทำไปนั้นเกิดความเสียหายต่อประเทศชาติ วิธีนี้ก็น่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด แต่ผมเชื่อว่าเขาไม่ทำหรอก เพราะเขาอุตส่าห์ลงทุน ลงแรง ลงเงิน เตรียมการวางแผนไว้มากมายว่าจะใช้สถานการณ์นี้มาบีบรัฐบาลมาโค่นรัฐบาล ทำประสานกันทั้งในประเทศและนอกประเทศ เพราะฉะนั้นเขาคงไม่ทำหรอก”
เมื่อถามว่าตราบใดที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังเป็นที่ปรึกษาให้กัมพูชาอยู่ จะทำให้การเจรจายากขึ้นหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า ตนคิดว่า พ.ต.ท.ทักษิณ พยายามหาทางที่จะให้มีเหตุผลที่จะเดินทางไปอยู่กัมพูชาเป็นช่วงๆ และหวังที่จะใช้กัมพูชาเป็นฐานที่มั่นในการดำเนินงานทางการเมืองเพราะอยู่ใกล้กว่าที่ดูไบ ลูกสมุนบริวารก็ไปมาหาสู่ได้รวดเร็ว เรื่องการสนับสนุนเงินทองก็ทำได้คล่อง แต่มันเสียหาย เพราะกลายเป็นทำให้ประเทศที่เป็นเพื่อนบ้านและมีความสัมพันธ์กันดีอยู่ต้องพลอยมีปัญหาไปด้วย และกระทบกระเทือนธุรกิจของคนอื่นที่เป็นนักลงทุนเข้าไปลงทุนโดยสุจริต แต่นี่ก็ยุ่งไปหมด
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ พล.อ.เตียบัญ รองนายกและรัฐมนตรีกลาโหมกัมพูชา ออกมาปฏิเสธว่าไม่มีการดักฟังการสนทนาระหว่างนายกษิต ภิรมย์ รมว.การต่างประเทศและเลขาสถานทูตไทยในกัมพูชา นายสุเทพกล่าวว่า ตนเชื่อคำพูดของ พล.อ.เตียบัญ ก็ขอขอบคุณรัฐบาลกัมพูชา ที่ไม่ดักฟังโทรศัพท์ หรือการสื่อสารของเจ้าหน้าที่ไทยของสถานทูตไทย เพราะถ้าทำอย่างนั้น กัมพูชาเองก็จะเสียหาย ทุกประเทศเขาก็จะระแวงกันหมด เป็นการผิดกติกามารยาทในทางการทูตระหว่างประเทศ
“ผมเข้าใจดีว่าพรรคเพื่อไทย เสื้อแดง พวกบริวารคุณทักษิณ เขาคุ้นเคยกับวิธีการดักฟังโทรศัพท์ที่ทำอยู่ในประเทศไทย พวกคุณก็ระวังให้ดีเหอะ ผมโดนประจำ บางทีพูดๆ ไปผมก็ด่าฝากไปบ้างเพราะว่ารำคาญที่ดักฟังโทรศัพท์ผม ดักฟังจนโทรศัพท์ผมพังไปหมดแล้ว คนดีๆ คนอื่น เขาไม่ทำกันหรอก มีแต่พวกนี้ที่ชอบแส่อยากรู้ว่าคนคุยอะไรกัน ทำอะไรกัน” รองนายกฯ กล่าว
เมื่อถามว่าที่พูดมานี้คิดมากเกินไปหรือไม่ เพราะกัมพูชา เขาก็บอกแล้วว่าจะไม่ยอมให้ใครมาใช้ฐานประเทศเขามาดำเนินการทางการเมือง นายสุเทพกล่าวว่า ตอนนี้ที่ทำๆ ก็ชัดเจนอยู่แล้ว ตนก็พูดตามสิ่งที่ได้เห็นและได้ยิน ถ้าตนพูดไม่ดี ประชาชนหรือสื่อมวลชนก็คงโห่ตนแล้ว แต่ตนก็วิเคราะห์ไปตามที่เห็นว่าน่าจะเป็นอย่างนั้น
ผู้สื่อข่าวถามว่ามองอย่างไรที่มารดาของนายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ วิศวกรไทยที่ถูกจับกุมในกัมพูชา เดินทางไปพบ ส.ส.เพื่อไทย แทนที่จะมาพบกับทางฝั่งรัฐบาล นายสุเทพ กล่าวว่า ก็ต้องเห็นใจแม่ที่รักลูก ก็คิดว่าอะไรที่จะสามารถช่วยลูกได้ก็ต้องทำทั้งนั้น และคงเห็นเหมือนที่คนไทยเห็นว่าเรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ แล้ว ส.ส.เพื่อไทยก็ใกล้ชิดสนิทสนมกันดี เพราะฉะนั้นก็อาจจะคล่องกว่าในการที่จะไปหาที่ตัวต้นสายปลายเหตุเลย ซึ่งก็เป็นความพยายามช่วยลูกตัวเอง แต่ก็อยากจะบอกว่าพวกตนก็พยายามหาทางที่จะช่วยเหลือลูกของท่านเหมือนกัน เมื่อถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่แม่นายศิวรักษ์ เห็นว่ารัฐบาลอาจจะยังไม่เต็มที่กับเรื่องนี้ จึงไม่มั่นใจแล้วหันไปขอความช่วยเหลือจากทางพรรคเพื่อไทย รองนายกฯ กล่าวว่า รัฐบาลก็ต้องทำไปตามแนวทางที่พอจะทำได้ ก็ทำอยู่
เมื่อถามว่าขณะนี้ระดับรัฐบาลยังไม่มีการนัดที่จะหารือกันหรือ เพราะจริงๆ แล้วการแก้ปัญหาก็ควรจะมาจากระดับรัฐบาล รองนายกฯ กล่าวว่า ยัง แต่เราก็พยายามบอกเขาไปว่าอะไรเป็นอะไร โดยผ่านทางช่องทางของตนเอง ยืนยันว่ารัฐบาลนี้มีศักยภาพเพียงพอในการแก้ไขปัญหานี้ เพียงแต่ว่าต้องใช้เวลาหน่อย
เมื่อถามถึงวงเสวนาของบรรดาทหารมีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าการเดินนโยบายต่างประเทศของไทยค่อนข้างอ่อน อยากให้รอบคอบ นายสุเทพรับคำพร้อมกับกล่าวว่าจะพยายาม