นักธุรกิจไทยในกัมพูชาย้ำแผนจัดฉากจับกุมวิศวกรไทยยัดข้อหาล้วงความลับ เขียนบทให้ “นช.แม้ว” ยึดกุมพื้นที่สื่อ เรียกคะแนนให้ตัวเองต่อ หลังเดินทางออกจากพนมเปญ แฉผู้บริหาร CATS สนิทแนบแน่น “เตียบัญ” รองนายกฯ กัมพูชา
นายธนกร จิรภาสุขสกุล นักธุรกิจที่ลงทุนในกัมพูชา แสดงความเห็นถึงกรณีเจ้าหน้าที่กัมพูชาจับกุมนายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ วิศวกรบริษัท แคมโบเดีย แอร์ ทราฟฟิก เซอร์วิสเซส จำกัด (CATS) ในข้อหาขโมยความลับตารางบินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคดีจากประเทศไทยระหว่างเดินทางไปรับตำแหน่งที่ปรึกษารัฐบาลกัมพูชาว่า เรื่องนี้มีข้อสงสัยหลายประการ และเชื่อว่าอาจจะเป็นการเล่นละครลวงโลก เพราะสายสัมพันธ์ของผู้บริหาร CATS กับนายเตียบัญ รองนายกรัฐมนตรีกัมพูชานั้นมีความแนบแน่นกันมาก และเชื่อว่านายศิวรักษ์ ไม่มีความจำเป็นต้องไปลักลอบขโมยตารางการบินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่จะเดินทางออกจากกัมพูชา เพราะเป็นที่รับทราบทั่วกันว่า กำหนดการเดินทางไปและกลับเป็นที่รับทราบกันอย่างทั่วถึงในสนามบินพนมเปญ จึงไม่น่าเป็นไปได้ว่าจะมีการลักลอบขโมยตารางการบิน ซึ่งเรื่องดังกล่าวนี้ก็ไม่ใช่เป็นเรื่องที่ร้ายแรงอะไร ดังนั้น การจับกุมนายศิวรักษ์จึงน่าจะมีเบื้องหลังแฝงอยู่ เพราะต้องการใช้นายศิวรักษ์ เป็นแพะเพื่อใช้เป็นทางเชื่อมต่อไปยัง พ.ต.ท.ทักษิณ เพื่อทำให้เป็นบุคคลสำคัญในการช่วยเหลือคนไทยคนหนึ่งให้กลับมาได้รับอิสระ
“นายศิวรักษ์เป็นวิศวกรตัวเล็กเกินไป ไม่ได้มีจุดประสงค์ในการขยายผลอะไรทางการเมือง แต่มีการใช้เป็นแผนในการสร้างเครดิตให้กับคนบางคน ซึ่งความจริงทางสถานพูตไทยสามารถดำเนินการต่อรอง เพื่อขอให้มีการปล่อยตัวได้ เพราะไม่ใช่ดคีร้ายแรงอะไร แต่คิดว่าในที่สุด ก็สามารถปล่อยตัวกลับมาได้แน่นอน”
นายธนกรกล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นคนไทยคนหนึ่งที่เพิ่งได้รับการแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษาาทางเศรษฐกิจของรัฐบาลนายฮุนเซน ซึ่งนายฮุนเซนก็จะต้องปกป้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ทุกวิถีทาง และต้องการให้เครคิตในการเจรจาในครั้งนี้
คิดว่าเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้นมีขบวนการอยู่เบื้องหลัง เพราะต้องการให้เกิดเป็นข่าวใหญ่โตไปทั่วโลก เพราะหากไม่มีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากที่ พ.ต.ท.ทักษิณเดินทางออกจากกัมพูชาแล้ว ข่าวคราวเกี่ยวกับตัวเขาก็จะเงียบไป แต่เมื่อมีการจับกุมวิศวกรและหาทางออกได้โดย พ.ต.ท.ทักษิณ เข้ามาช่วยเคลียร์ปัญหา พ.ต.ท.ทักษิณ ก็จะได้รับการยกย่องจากกลุ่มที่สนับสนุนและผู้ที่ติดตามข่าวสารดังกล่าว