"เมอร์เซเดส" ค่ายรถยักษ์ใหญ่เมืองเบียร์ผละอก "แม็คลาเรน" ทีมชั้นนำของวงการรถสูตรหนึ่ง (F1) เพื่อผนวกกิจการรวมกับ "บรอว์น จีพี" แชมป์โลกประเภทผู้ผลิตทีมล่าสุด เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ดร.ดีเทอร์ เซทส์เช บิ๊กบอส เมอร์เซเดส-เบนซ์ ค่ายรถของเยอรมนี ออกแถลงการณ์ถึงเรื่องที่ว่าบริษัทได้เข้ามาถือหุ้นใหญ่ของ "บรอว์น จีพี" ทีมรถสูตรหนึ่งชั้นนำของโลกแล้ว โดยจะเปลี่ยนชื่อทีมเพื่อลงแข่งขันในฤดูกาลหน้าเป็น "เมอร์เซเดส จีพี" อีกทั้งยังจะให้ รอสส์ บรอว์น ทำหน้าที่นายใหญ่ของทีมต่อไปด้วย
เซทส์เช เผย "นี่ถือเป็นการเปลี่ยนสภาพแวดล้อมของวงการรถสูตรหนึ่งก็ว่าได้ เราจะเผชิญกับการแข่งขันในวงการมอเตอร์สปอร์ตต่อจากนี้ร่วมกับทีมงานซิลเวอร์ แอร์โรว์ส"
นอกจากนี้ เซทส์เช ยังพูดถึงการแยกทางกับ "แม็คลาเรน" ซึ่งจับมือทำงานร่วมกันมาตั้งแต่ปี 1995 ซึ่งเหตุผลส่วนหนึ่งเกิดจากการที่ทีมไปล้วงความลับข้อมูลรถแข่ง "ม้าลำพอง" เฟอร์รารี คู่ปรับสำคัญเมื่อปี 2007 จนโดนสหพันธ์ยานยนต์นานาชาติ (ดับเบิลยูเอ็มเอสซี) สั่งปรับเงินสูงถึง 100 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 3,500 ล้านบาท)
"ความสัมพันธ์กับทีมแม็คลาเรน มีผลกระทบทางด้านจิตใจเกิดขึ้นในช่วงไม่กี่ปีมานี้ แต่ในความเป็นจริงแล้วผู้ถือหุ้นรายอื่นๆ สนใจที่จะสร้างทีมบริษัทวิศวกรรมยานยนต์ขึ้นมาใหม่ รวมถึงรถแข่ง และซูเปอร์รถแข่งขึ้นมา"
ด้าน รอสส์ บรอวน์ เผยบ้างหลังจากที่ทีมเพิ่งซื้อกิจการจาก "ฮอนดา" เมื่อฤดูกาลก่อนมาหมาดๆ "บรอว์น จีพี ทำสิ่งที่เหลือเชื่อตลอด 12 เดือนที่ผ่านมา จาการต่อสู้เพื่ออยู่รอดเราจึงต้องหล่อหลอมความสัมพันธ์กับ เมอร์เซเดส-เบนซ์ เพื่อให้สามารถเป็นแชมป์โลกได้ทั้งประเภทผู้สร้างและนักขับ ตอนนี้เรายังยอมรับการเข้ามาซื้อทีมของอาบาร์ และ เดมเลอร์ เพื่อความอยู่รอดปลอดภัยของเราต่อไปในอนาคตอีกด้วย"
สำหรับ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ถือหุ้นหลักในทีมรถแข่งร่วมกับ อาบาร์ บริษัทนักลงทุนจากอาบู ดาบี รวมถึง ได้ขยับซื้อหุ้นของ เดมเลอร์ จำนวน 9.1 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา และตอนนี้พวกเขาดำเนินการจับมือกันซื้อหุ้น บรอว์น จีพี เป็นจำนวน 75.1 เปอร์เซ็นต์ แต่ไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับตัวเงินออกมาแต่อย่างใด
อย่างไรก็ดี "เมอร์เซเดส จีพี" สุ่มเสี่ยงต่อการเสีย เจนสัน บัตตัน แชมป์โลกประจำปี 2009 เนื่องจากมีรายงานว่ายอดนักขับชาวอังกฤษ เตรียมไปผนึกกำลัง ลูอิส แฮมิลตัน เพื่อนร่วมชาติในการพา "แม็คลาเรน" กลับมาผงาดในวงการ F1 อีกครั้งในฤดูกาลหน้า
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ดร.ดีเทอร์ เซทส์เช บิ๊กบอส เมอร์เซเดส-เบนซ์ ค่ายรถของเยอรมนี ออกแถลงการณ์ถึงเรื่องที่ว่าบริษัทได้เข้ามาถือหุ้นใหญ่ของ "บรอว์น จีพี" ทีมรถสูตรหนึ่งชั้นนำของโลกแล้ว โดยจะเปลี่ยนชื่อทีมเพื่อลงแข่งขันในฤดูกาลหน้าเป็น "เมอร์เซเดส จีพี" อีกทั้งยังจะให้ รอสส์ บรอว์น ทำหน้าที่นายใหญ่ของทีมต่อไปด้วย
เซทส์เช เผย "นี่ถือเป็นการเปลี่ยนสภาพแวดล้อมของวงการรถสูตรหนึ่งก็ว่าได้ เราจะเผชิญกับการแข่งขันในวงการมอเตอร์สปอร์ตต่อจากนี้ร่วมกับทีมงานซิลเวอร์ แอร์โรว์ส"
นอกจากนี้ เซทส์เช ยังพูดถึงการแยกทางกับ "แม็คลาเรน" ซึ่งจับมือทำงานร่วมกันมาตั้งแต่ปี 1995 ซึ่งเหตุผลส่วนหนึ่งเกิดจากการที่ทีมไปล้วงความลับข้อมูลรถแข่ง "ม้าลำพอง" เฟอร์รารี คู่ปรับสำคัญเมื่อปี 2007 จนโดนสหพันธ์ยานยนต์นานาชาติ (ดับเบิลยูเอ็มเอสซี) สั่งปรับเงินสูงถึง 100 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 3,500 ล้านบาท)
"ความสัมพันธ์กับทีมแม็คลาเรน มีผลกระทบทางด้านจิตใจเกิดขึ้นในช่วงไม่กี่ปีมานี้ แต่ในความเป็นจริงแล้วผู้ถือหุ้นรายอื่นๆ สนใจที่จะสร้างทีมบริษัทวิศวกรรมยานยนต์ขึ้นมาใหม่ รวมถึงรถแข่ง และซูเปอร์รถแข่งขึ้นมา"
ด้าน รอสส์ บรอวน์ เผยบ้างหลังจากที่ทีมเพิ่งซื้อกิจการจาก "ฮอนดา" เมื่อฤดูกาลก่อนมาหมาดๆ "บรอว์น จีพี ทำสิ่งที่เหลือเชื่อตลอด 12 เดือนที่ผ่านมา จาการต่อสู้เพื่ออยู่รอดเราจึงต้องหล่อหลอมความสัมพันธ์กับ เมอร์เซเดส-เบนซ์ เพื่อให้สามารถเป็นแชมป์โลกได้ทั้งประเภทผู้สร้างและนักขับ ตอนนี้เรายังยอมรับการเข้ามาซื้อทีมของอาบาร์ และ เดมเลอร์ เพื่อความอยู่รอดปลอดภัยของเราต่อไปในอนาคตอีกด้วย"
สำหรับ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ถือหุ้นหลักในทีมรถแข่งร่วมกับ อาบาร์ บริษัทนักลงทุนจากอาบู ดาบี รวมถึง ได้ขยับซื้อหุ้นของ เดมเลอร์ จำนวน 9.1 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา และตอนนี้พวกเขาดำเนินการจับมือกันซื้อหุ้น บรอว์น จีพี เป็นจำนวน 75.1 เปอร์เซ็นต์ แต่ไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับตัวเงินออกมาแต่อย่างใด
อย่างไรก็ดี "เมอร์เซเดส จีพี" สุ่มเสี่ยงต่อการเสีย เจนสัน บัตตัน แชมป์โลกประจำปี 2009 เนื่องจากมีรายงานว่ายอดนักขับชาวอังกฤษ เตรียมไปผนึกกำลัง ลูอิส แฮมิลตัน เพื่อนร่วมชาติในการพา "แม็คลาเรน" กลับมาผงาดในวงการ F1 อีกครั้งในฤดูกาลหน้า
