xs
xsm
sm
md
lg

“ยะใส”ดักคอเสื้อแดง อาจลักไก่ ยิง M79 ใส่พวกเดียวกัน เพื่อยุให้เกลียด รบ.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“ยะใส” ชม “มาร์ค” เลือก “ธานี” ดูความมั่นคง เชื่อเสื้อแดงชุมนุมรุนแรงกว่าเดิม ชี้อาจยิง M79 ใส่พวกเดียวกัน เพื่อยุให้เกลียด รบ. ระบุไม่คาดหวังกับ ตร. ลากมือยิงป่วนชุมนุมสนามหลวง เหตุที่ทำเนียบฯ สนามบิน ยังเหลว สะกิด “มาร์ค” ถึงขั้นสู้รบแล้ว อย่างมัวกดปุ่มเปิดงาน ดึงมวลชน ด้าน “ผ.ศ.ยุทธพ” ชี้เสื้อแดงเริ่มป่วน รอสถานการณ์สุกงอมพร้อมต่างประเทศ จุดมุ่งหมายเดียวล้ม รบ. เลือกตั้งใหม่ คาดก๊อกสอง “นช.แม้ว” รวมกำลังทหารชิงลงมือช่วงนี้ แนะ รบ. ตัดไฟต้นลม อย่ารอโชคช่วย ก่อนตกหลุมพราง



รายการ “คนในข่าว” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี-ทีวีของประชาชน ช่วงเวลา 20.30-22.00 น. วันที่ 19 พฤศจิกายน 2552 โดยมีนายเติมศักดิ์ จารุปราณ เป็นผู้ดำเนินรายการ ซึ่งได้รับเกียรติจาก ผศ.ยุทธพร อิสรชัย คณะรัฐศาสตร์ สุโขทัยธรรมาธิราช และนายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย มาร่วมวิเคราะห์ ว่า การจับวิศวกรไทย เป็นละครลวงโลกหรือไม่ และท่าทีการเคลื่อนไหวของกลุ่มเสื้อแดง ตลอดจนเหตุการณ์คนร้ายยิงระเบิดเอ็ม 79 ใส่มวลชน ที่ท้องสนามหลวง

ผ.ศ.ยุทธพร กล่าวถึงกรณีที่ทางการกัมพูชาจับ วิศวกรไทย ว่า เป็นไปได้อย่างมาก ที่เหตุการณ์ครั้งนี้ เป็นเพียงการจัดฉาก เพื่อสร้างคะแนนนิยมให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ได้ช่วยเหลือคนไทย เพราะที่ผ่านมาตั้งแต่ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ เดินทางไปต่างประเทศ ตลอดจนการแต่งตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เหตุการณ์มีความสอดคล้องกับภาพลักษณ์ ที่เกิดขึ้นทั้งหมด ส่วนการที่ประชาชนจับได้ไล่ทัน อาจทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องเปลี่ยนหมาก เนื่องจากใกล้เวลาที่ศาลจะพิพากษาคดีในทรัพย์ 7.6 หมื่นล้าน ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะถูกยึดเสียด้วย ครั้งนี้เขาคงไม่ให้รัฐบาลล้มแผนง่ายๆ เพราะจะเห็นได้ว่า ที่ผ่านมาตลอดการเคลื่อนไหวของกลุ่มเสื้อแดง เริ่มอ่อนแรงลง การถ่วงเวลาต่อไปยิ่งไม่เป็นผลดี จึงถึงเวลาที่เรียกได้ว่า สถานการณ์สุกงอมแล้ว ทำให้แกนน้ำเสื้อแดงประกาศจะสู้ตาย ปลายเดือนธันวาคม นี้ สอดรับกันกับเกมการเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ในต่างประเทศ ที่จะไปสุกงอมพร้อมกัน ช่วงปลายปีพอดี

ผ.ศ.ยุทธพร กล่าวว่าท่าทีที่เชื่องช้า ของรัฐบาลไทย เป็นเพราะวัฒนธรรมทางการทำงาน ที่ปลูกฝังต่อกันมา ที่ต้องมีระเบียบ แบบแผน อันเป็นสาเหตุทำให้พรรคประชาธิปัตย์ตอบโต้ล่าช้า ตนคิดว่ารัฐบาลชุดนี้ ใช้สื่ออาจจะมากกว่า ยุคของพ.ต.ท.ทักษิณ เสียอีก แต่ยังใช้สื่อไม่เป็นมัวแต่เน้นในเรื่องรูปแบบ ทำให้เนื้อหาไม่มี และอาจเพรียงพร้ำกับการวางยุทธศาสตร์ ของพ.ต.ท.ทักษิณ หากวู่วามใช้อารมณ์ตอบโต้ ท้ายที่สุดประเด็นจะถูกพลิกตีกลับ มาเข้าตัวรัฐบาล ดังนั้นรัฐบาลต้องสุขุม ละเอียดอ่อน ในการแก้ปัญหาให้มากกว่านี้

ผศ.ยุทธพร กล่าวอีกว่ามีความเป็นไปได้อย่างมาก สำหรับกระบวนการสร้างสถานการณ์รุนแรง หากรัฐบาลไม่ระมัดระวัง อาจตกหลุมพรางได้ ตนเชื่อว่าการเคลื่อนไหวของกลุ่มเสื้อแดงครั้งนี้ ไม่ถึง 1ล้านตามที่เสื้อแดงคุยโว อย่างมากก็เกณฑ์คนมา 1 แสน คน สร้างความวุ่นวาย จนทำให้รัฐบาล ตัดสินใจเอาทหารเข้ามาปราบ ตรงนี้หากรัฐบาล ใช้ควารุนแรง ก็จะเข้าทางของ พ.ต.ท.ทักษิณ นำไปเป็นประเด็นกล่าวโจมตีรัฐบาล พลิกเกม จนกลายเป็นฝ่าย พ.ต.ท.ทักษิณ ได้เปรียบ อย่างไรก็ตาม รัฐประหาร จะเกิดได้หรือไม่ ต้องดูที่สถานการณ์รุนแรง ถ้าสถานการณ์ไม่รุนแรง ก็ไม่มีเงื่อนไขให้กองทัพออกมายึดอำนาจ อีกประเด็นหากพ.ต.ท.ทักษิณ มั่นใจว่า มีกำลังอำนาจทำได้ ก็อาจชิงลงมือในสถานการณ์นี้

“สถานการณ์อย่างนี้ ไม่ใช่ช่วงเวลากดปุ่มล้างหนี้ เพื่อดึงมวลชนเข้ามาเป็นพวก ตอนนี้ต้องให้ยาแรง ตัดไฟแต่ต้นลม รัฐบาลไม่จำต้องรอให้เกิดความชอบธรรมก่อน ค่อยแสดงบทบาท รัฐบาลสามารถทำได้ตลอดเวลา ขึ้นอยู่กับว่าจะกล้าหรือไม่เท่านั้น จะรอโชคช่วยเหมือนช่วงคลิปเสียงปลอม อย่างเดียวไม่ได้ ต้องออกมาแก้สถานการณ์เฉพาะหน้า เวลานี่ต้องรู้แล้ว ว่าจะมีมาตรการอย่างไร ที่จะทำให้เสื้อแดงสลายชุมนุม โดยประชาชนไม่เสียหาย สถานการบ้านเมืองตอนนี้ ประชาชนต้องใช้วิจารณญาณให้มากที่สุด ต่อไปการต่อสู่เชิงข้อมูลข่าวสาร เพื่อดึงมวลชนจะมากขึ้น” ผศ.ยุทธพร กล่าว

นายสุริยะใส กล่าวถึงกรณีที่ ทางการกัมพูชาจับวิศวกรไทย อ้างจารกรรมข้อมูลการบิน เป็นการจับมือกันระหว่าง ฮุนเซน กับพ.ต.ท.ทักษิณ ที่ต้องการทำเกมตามแผน ยุทธศาสตร์ระยะสั้นให้เข้มข้นขึ้น เพราะทาง ฮุนเซน เองก็รู้ดีว่า หากยืดเยื้อต่อไป ย่อมกระทบต่อเศรษฐกิจการค้าแถบชายแดน ที่นับได้ว่า เป็นแหล่งเงินแหล่งทองของรัฐบาลกัมพูชาชุดนี้ และถ้าเล่นเกมต่อไปเรื่อยๆ หากรัฐบาลไทยอดกลั้นไม่อยู่ ตอบโต้ด้วยมาตรการขั้นสูงสุด จะทำให้รัฐบาลของ ฮุนเซน เสียเปรียบ ถูกมองได้ว่านำมาซึ่งความเสียหายทางเศรษฐกิจ และอย่างลืมว่า บทบาทของ นายสม รังษี ขณะนี้เริ่มตีตื่น เข้ามีบทบาทชัดขึ้น

ส่วนสาเหตุที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เลือกใช้แผนนี้ เพราะ เนื่องจากสถานการณ์ขณะนี้ ไม่มีทางเลือกมากนัก หยิบฉวยอะไรได้ก็ทำไว้ก่อน ทำทุกอย่าง ที่เป็นการเพิ่มแรงกดดัน รัฐบาลไทย เพื่อให้สอดคล้องกับการเคลื่อนไหวของ กลุ่มเสื้อแดง เพราะพ.ต.ท.ทักษิณ รู้ดีว่าเรื่องอย่างนี้ยากที่รัฐบาลจะเข้าเจรจา อย่างไรก็ตามแม้การเล่นเกมนี้ จะไม่ได้ตั้งเป้าหวังเรียกคะแนนนิยม แต่คนอย่าง พ.ต.ท.ทักษิณ เล่นได้ทั้งบทเทพและมาร ฉวยโอกาสขอทางการกัมพูชาให้ปล่อยตัว เพราะเป็นที่รู้ดี ว่า ความสัมพันธ์ระหว่างพ.ต.ท.ทักษิณ กับ ฮุนเซน เป็นเรื่องที่เจรจากันง่ายอยู่แล้ว ขณะเดียวกันก็ เย้ยการทำงานของรัฐบาลไทยไปในตัว จนทำให้ แม่ของนักวิศวกร คล้อยตามไปด้วย ถึงกับเอ่ยปาก อยากขอเข้าขอบคุณ พ.ต.ท.ทักษิณ อย่างไรก็ตามตน ไม่อยากพูดว่า การจับวิศวกรไทยเป็นส่วนหนึ่งของเกม แต่เมื่อโยงเหตุกาณ์ในภาพรวม ก็มีสิทธิที่จะตั้งขอสงสัยเช่นนั้นได้ ทั้งนี้จะเป็นตามที่วิเคราะห์หรือไม่ ต้องรอดูว่าหลังจากปล่อยตัวนักวิศวกร แล้ว เขาจะออกมาชี้แจงอย่างไรต่อสังคม

นายสุริยะใส กล่าวว่ารู้สึกเฉยๆ ไม่เคยคาดหวัง กับการทำหน้าที่ของตำรวจ ในการตามจับกุมคนร้าย หลังใช้ ปืนเอ็ม79 ยิง ป่วนการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่สนามหลวง จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย ดูได้จาก ที่ผ่านมาครั้งพันธมิตรฯ ชุมนุมที่ ดอนเมือง ทำเนียบฯ ก็ถูกกระทำแบบเดียวกันนี้ แต่ขณะนี้ยังจับใครไม่ได้ จะว่าไปก็รู้สึกหดหู่กับ รัฐชุดนี้อยู่เหมือนกัน ประมาทในการวางแผนป้องกัน ปล่อยให้เกิดเหตุการณ์อย่างนี้ขึ้น ก็ไม่ต่างจากยุคของ พ.ต.ท.ทักษิณ ทั้งที่พึงคาดคิดได้ว่าสถานการณ์ที่ไม่ปกติเช่นนี้ โอกาสเกิดเหตุรุนแรง มีความเป็นไปได้สูง และการกระทำครั้งนี้ ถือเป็นการตบหน้าฝ่ายความมั่นคงอีกรอบ หลังมีกระแสข่าวบอกว่า คนร้ายตั้งปืนเอ็ม 79 แถวคลองหลอด ซึ่งใกล้กับกระทรวงกลาโหม

“การข่าวของรัฐบาลช่วงนี้ เฉื่อยกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา มาตรการรักษาความปลอดภัยสอบตก แต้มที่เก็บมาช่วงตอบโต้ ฮุนเซน หายหมด อย่างไรก็ตามบนความโชคร้าย ถือเป็นความโชคดีอยู่เหมือนกัน จุดที่ระเบิดลงนั้น แต่เดิมเจ้าหน้าที่ล้อมรั้วไว้ เพื่อทำเป็นจุดจอดรถสุขาเคลื่อนที่ของ กทม. แต่เผอิญว่า รถติดทำให้มาจอดบริเวณดังกล่าวไม่ได้ ทั้งนี้หากรถสุขา สามารถไปจอดในบริเวณนั้นได้ ถ้ามีประชาชนต่อแถวรอเข้าห้องน้ำอยู่ จะเกิดอะไรขึ้น” นายสุริยะใส กล่าว

นายสุริยะใส กล่าวต่อว่า ศึกครั้งนี้ถือว่าหนักมาก สำหรับรัฐบาล แต่น่าเสียดายที่รัฐบาล มัวแต่ไปกดปุ่มล้างหนี้นอกระบบขณะที่กลุ่มเสื้อแดงไม่ได้สนใจว่าประเทศจะอยู่อย่างไร เดินหน้าป่วนเพื่อพ.ต.ท.ทักษิณ อย่างเดียว ดังนั้นในสถานการณ์อย่างนี้ ไม่ได้วัดกันที่มีนโยบายที่ดี ไม่ได้เป็นการชิงมวลชนพลังเงียบ แต่มันถึงขั้นฟาดฟันกันแล้ว เวลานี้มีกำลังเท่าไรก็ใช้เท่านั้น จะแพ้หรือชนะเป็นอีกเรื่องหนึ่ง อย่าไปคิดสร้างโฟกัสสื่อ มันไม่มีความหมายแล้ว กว่าประชาชนจะเข้าใจต้องใช้เวลานาน ไมทันการ เพราะกลุ่มเสื้อแดงเร่งเผด็จศึก ภายในเดือนสองเดือนนี้แล้ว

นายสุริยะใส กล่าวถึงเตรียททหารรุ่น 10 ที่เข้าไปอยู่ในพรรคเพื่อไทย ว่า ปกติคนเหล่านี้เข้าไป ก็ไม่ได้สร้างศักยภาพทางการเมือง แต่เป็นการประกาศ โดยนัยว่าเขาเตรียมรบ ที่น่ากังวล คือ การเข้าไปของคนกลุ่มนี้ชุดหลังอีก 40-50 คน เนื่องจากคนเหล่านี้อาจมีพิษสงอยู่บ้าง เป็นตำรวจชั้นผู้ใหญ่เป็นธรรมดาย่อมมีลูกน้องอยู่บ้าง ที่สำคัญในขณะนี้ บ้านเมืองของไทย กลไกตำรวจสำคัญกว่าทหาร เนื่องจากตำรวจมีอำนาจทำได้ทุกอย่าง ขณะที่ทหารยังถูกจำกัดในอำนาจอยู่ และตำรวจรู้พื้นที่เป็นอย่างดีหากเกิดการปะทะขึ้น ดังนั้นการตั้ง พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ เป็นรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง เป็นการตั้งที่ถูกต้อง ถูกที่ และถูกเวลา แต่ต้องดูอีกว่า อำนาจท่านมีแค่ไหน

นายสุริยะใส กล่าวต่อว่ากลุ่มเสื้อแดงและพ.ต.ท.ทักษิณ พยายามดึงเรื่องให้นำไปสู่การเลือกตั้ง ตามที่เคยอ้างอยู่บ่อยๆ “การเลือกตั้ง เป็นกระบวนการที่เป็นประชาธิปไตย” ถือเป็นจุดขายที่เรียกความฮึกเหิม ให้กับแนวร่วมได้เป็นอย่างดี และเขามั่นใจว่า หากมีการเลือกตั้งจริงโอกาสที่พรรคเพื่อไทย จะได้เป็นรัฐบาลค่อนข้างสูง แม้ขณะนี้พรรคประชาธิปัตย์ จะเป็นรัฐบาล แต่อย่าลืมว่าพรรคที่มีเสียงข้างมาก ยังเป็นพรรคเพื่อไทย อยู่ การที่กลุ่มเสื้อแดง พยายามเดินเกมให้มีการล้มรัฐบาล จนนำไปสูการเลือกตั้งใหม่ ล้มล้างความผิดให้ พ.ต.ท.ทักษิณ และพรรคพวก ตนไม่รู้ว่าเขาคิดได้อย่างไร เพราะเรื่องมันไม่จบแน่ พันธมิตรฯคงไม่ยอม ด้านผศ.ยุทธพรกล่าวเสริมว่า หากเลือกตั้งใหม่เรื่องก็ไม่จบ ถ้ากระบวนการทางการเมืองของไทย ยังมีการซื้อเสียงอยู่ ย่อมหนีไม่พ้น นักการเมืองแบบเดิมๆ และเป็นที่แน่นอนว่า จะทำให้เกิดการออกมาเรียกร้องต่อต้านอีก

นายสุริยะใส กล่าวว่านายกฯ ตัดสินใจถูกที่เลือก พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ มาดูงานด้านความมั่นคง เพราะปฎิบัติการภาคสนาม ของตำรวจจะรู้พื้นที่เป็นอย่างดี กลุ่มคนเสื้อแดงประกาศชุมนุมตั้งแต่วันที่ 28พ.ย. ตนมองยุทธศาสตร์การเคลื่อนไหว ว่าเขาจะแบ่งการเคลื่อนออกเป็นสองสเต็ป จังหวะแรกคือ การต่อรอง เช่น กำหนดการยุบสภา เครียร์คดีความของพ.ต.ท.ทักษิณ ทังหมด จากนั้นวันที่ 4-5 ธ.ค. จะพักยก แล้วสร้างภาพจัดงานอย่างยิ่งใหญ่ หลังจากนั้นจะนัดรวมตัว รบแตกหัก อย่างไรก็ตาม จากที่ตนติดตามการเคลื่อนไหวของกลุ่มเสื้อแดงช่วงนี้ เป็นการทุ่มทุนสร้าง ดูจากเวทีหลายเวทีที่เขาจัด กับแกนนำประกาศ ถ้าครั้งนี้ไม่ชนะจะวางมือ ดังนั้น เป็นไปได้ว่าครั้งนี้คนจะมากกว่าเดิม และรุนแรงกว่าเดิม ทหารที่เข้าไปอยู่ในพรรคเพื่อไทย อาจมีศักยภาพพอ ที่จะสรรหาอาวุธมาได้ ทั้งนี้ที่ตนสังหรณ์ใจมาก็คือ อาวุธเอ็ม 79 ซึ่งมักจะถูกนำมาใช้ในช่วงที่พันธมิตรชุมนุม แต่คราวที่กลุ่มเสื้อแดงชุมนุม กลับไม่มี ตรงนี้อาจเป็นไปได้ว่า การเคลื่อนไหวครั้งนี้ จะมีการสร้างสถานการณ์ เอาเอ็ม 79 ยิ่งเข้าไปในกลุ่มเสื้อแดง เพื่อยุยงให้เกลียดรัฐบาล จนนำไปสู่การบุกยึดทำเนียบฯ
กำลังโหลดความคิดเห็น