“วิชา” ปลงอันดับคอร์รัปชันโลก ไทยแย่ลง เชื่อผลพวงพิษการเมือง

ป.ป.ช.ไม่แปลใจการจัดอันดับคอร์รัปชันโลกไทยแย่ลง อยู่ในลำดับที่ 84 จาก 180 ประเทศ ชี้เป็นผลมาจากพิษการเมืองไทย ทำให้ต่างชาติขาดความศรัทธา เตรียมปรับแผนปราบโกงกู้ภาพลักษณ์คืน โดยลงพื้นที่ปูพรมเกาะติดปัญหาทุจริตท้องถิ่น ยอมรับคดีเขากระโดงไม่คืบ คาดชี้มูลปีหน้า จี้การรถไฟฯ ชี้จุดรุกที่สาธารณะ แย้มไต๋บริษัท “ปู่ชัย” อาจเจอหางเลข

วันนี้ (18 พ.ย.) นายวิชา มหาคุณ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรมการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้สัมภาษณ์กรณีองค์กรเพื่อความโปร่งใสในประเทศไทยเปิดเผยการจัดอันดับดัชนีวัดภาพลักษณ์คอร์รัปชันประจำปี 2552 โดยไทยได้คะแนน 3.4 คะแนน อยู่ในลำดับที่ 84 จาก 180 ประเทศว่า ไม่ใช่เรื่องตกใจอะไร เพราะคาดไว้อยู่แล้ว ซึ่ง ป.ป.ช.ได้พยายามแก้ปัญหาอย่างมากแล้ว แต่จะพึ่ง ป.ป.ช.อย่างเดียวคงไม่ได้ ต้องขึ้นอยู่กับรัฐบาลด้วย เพราะความเชื่อถือจากต่างประเทศขึ้นอยู่กับรัฐบาลเป็นหลัก อย่างไรก็ตาม ป.ป.ช.คงต้องปรับยุทธศาสตร์การป้องกันและปราบปรามการทุจริตเพิ่มเติม เพื่อให้ประเทศไทยมีความน่าเชื่อถือในสายตาต่างประเทศให้ได้ ส่วนตัวเห็นว่าสาเหตุที่ประเทศไทยมีคะแนนทุจริตคอร์รัปชันแย่ลงกว่าเดิม มาจากปัญหาสถานการณ์การเมืองภายในประเทศที่ยังไม่นิ่ง ชาวต่างชาติจึงไม่กล้ามาลงทุน ทำให้ความเชื่อถือ ความศรัทธาต่างๆ อาจยังไม่เข้าที่

ดังนั้น ป.ป.ช.จึงต้องทำงานหนักขึ้น และร่วมมือกับฝ่ายต่างๆ มากขึ้น ทั้งนี้ตั้งแต่เดือนธ.ค.เป็นต้นไป ป.ป.ช.จะเริ่มลุยปูพรมไปไต่สวนการทุจริตในท้องถิ่นและให้ความรู้เรื่องการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินฯ มากขึ้น เริ่มจาก จ.นครราชสีมา ตลอดจนจะส่งทีมเคลื่อนที่ไปตามกระทรวง ทบวง กรมต่างๆ เพื่อให้ความรู้ สร้างเครือข่ายและหาแนวร่วมป้องกันการทุจริต เชื่อว่ามาตรการที่ออกมาน่าจะมีส่วนช่วยลดปัญหาการทุจริตลงได้

นายวิชายังกล่าวถึงความคืบหน้าการไต่สวนกรณีการทุจริตบุกรุกที่ดินเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ว่า ได้เรียกพยานมาไต่สวนตลอดเวลา ที่ผ่านมาก็เรียกตัวแทนสหภาพแรงงาน ร.ฟ.ท.ไปแล้ว พร้อมกับส่งผู้เชี่ยวชาญด้านดาวเทียมลงพื้นที่ แต่ยังต้องรอให้ฝ่าย ร.ฟ.ท.ชี้จุดพื้นที่ของ ร.ฟ.ท.ตามที่กำหนดในพระราชกฤษฎีกาให้แน่นอนว่า อยู่บริเวณจุดใด จากนั้นจึงใช้ดาวเทียมตรวจสอบว่ามีการรุกล้ำพื้นที่สาธารณะจริงหรือไม่ คาดว่าอย่างน้อยคงใช้เวลาถึงปีหน้าในการชี้มูลความผิด ผู้สื่อข่าวถามว่า คดีนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับนายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภาหรือไม่ นายวิชาตอบว่า ยังไม่ทราบว่านายชัยเกี่ยวข้องหรือไม่ เพียงแต่พื้นที่ดังกล่าวเป็นของบริษัทนายนายชัย ซึ่งต้องรอความชัดเจนให้ ร.ฟ.ท.ในฐานะผู้เสียหายมายืนยันแนวพื้นที่ของตัวเองก่อน