กมธ.สภาฯ เรียก “พัลลภ” แจงปูดพยานกลับลำจ้างพรรคเล็กยุบ ทรท.

กมธ.ยุติธรรมสภาฯ เตรียมเรียก “พัลลภ” เข้าชี้แจง เหตุนำพยานคดีจ้างพรรคเล็กกลับลำซัดทอด “เลขาธิการพรรค ปชป.” จัดฉากจ้างยุบพรรค ทรท. ด้าน ส.ส.ปชป.ถามกลับ ออกมาแฉต้องการอะไร ย้ำไม่ใช่สนามรบ ต้องสร้างความสมานฉันท์

วันนี้ (18 พ.ย.) ที่รัฐสภา ทีมโฆษกคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร นำโดยนายฐนโรจน์ โรจนกุลเสฏฐ์ ส.ส.ชลบุรี นายโกวิทย์ ธารณา ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ และนายไพโรจน์ อิสระเสรีพงษ์ ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย ได้ร่วมกันแถลงข่าว โดยนายไพโรจน์กล่าวว่า คณะกรรมาธิการฯ จะเชิญ พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี สมาชิกพรรคเพื่อไทย นายสุขสันต์ ชัยเทศ อดีตผู้อำนวยการพรรคพัฒนาชาติไทย และนายชวการ โตสวัสดิ์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคพัฒนาชาติไทย ที่เป็นพยานในคดียุบพรรคไทยรักไทย พร้อมด้วย นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มาชี้แจงประเด็นที่มีการซัดทอดว่านายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ได้ว่าจ้างด้วยเงินคนละ 15 ล้านบาท ให้กล่าวหา พล.อ.ธรรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา รองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย และพรรคไทยรักไทยสมัยนั้น ว่าจ้างส่งคนลงสมัครรับเลือกตั้ง จนเป็นเหตุให้ตุลาการรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยสั่งยุบพรรคไทยรักไทย ในวันพุธที่ 25 พ.ย. เวลา 09.30 น. ณ ห้องกรรมาธิการ พร้อมให้สื่อมวลชนเข้าร่วมรับฟังด้วย

ด้านนายฐนโรจน์ กล่าวว่าเรื่องดังกล่าวเป็นการสร้างความเสียหายทั้งสองฝ่าย คือ สมาชิกบ้านเลขที่ 111 และพรรคประชาธิปัตย์ ดังนั้นจึงต้องนำกรณีดังกล่าวมาตรวจสอบหาข้อเท็จจริง ว่ามีความประสงค์อะไรหรือไม่ ที่เปิดประเด็นนี้ขึ้นมา อีกทั้งยังเพื่อป้องกันบางฝ่ายนำมาโจมตีทางการเมือง เชื่อว่านายสุเทพ คงไม่มีพฤติกรรมอย่างที่ถูกพาดพิงกล่าวอ้าง แต่ทั้งนี้พร้อมจะเชิญนายสุเทพ มาสอบถามเรื่องดังกล่าวด้วย แม้จะมีตำแหน่งเป็นเลขาธิการพรรคของตนก็ตาม

ขณะที่นายโกวิทย์กล่าวว่า ประเด็นข้อกล่าวหานี้เป็นเรื่องร้ายแรง ที่ผู้พูดจะกล่าวเพียงลอยๆไม่ได้ เพราะมีผลกระทบต่อทุกฝ่าย และเป็นประเด็นทางการเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อพรรคประชาธิปัตย์ แม้โดยส่วนตัวจะเชื่อว่าประเด็นดังกล่าวไม่ใช่เรื่องจริง แต่ก็ต้องให้ความเป็นธรรม และต้องทำให้เกิดความจริงว่าฝ่ายใดเป็นคนผิด ทั้งยังเป็นการแสดงความจริงใจด้วย อย่างไรก็ตามอยากถามไปยังพล.อ.พัลลภว่า เรื่องที่เปิดเผยออกมานั้นต้องการอะไร หรือต้องการสร้างความแตกแยกให้กับชาติบ้านเมือง และอยากย้ำว่านี่ไม่ใช่สนามรบ เพราะนี่คือประเทศที่เป็นประชาธิปไตย ควรจะหันมาสร้างความสมานฉันท์ภายในประเทศ ดีกว่าสร้างความแตกแยก