ปธ.สภาที่ปรึกษา ปชป.อ้างหลักสากล กำชับ “เขมร” ต้องดูแลวิศวกรไทยให้ดี เพราะเป็นแค่ผู้ถูกกล่าวหา ยันไม่ใช่นักโทษ เตือนรัฐบาลอย่าตอบโต้ด้วยอารมณ์ ตอกกลับ “แม้ว” การเจรจาเป็นเรื่องระหว่างรัฐบาลไทย-เขมร ไม่ใช่เรื่องญาติพี่น้อง ฉีกหน้าไม่รับเงื่อนไขให้รัฐบาลร้องขอ ถึงจะพร้อมจะเป็นตัวกลางเจรจาให้
วันนี้ (17 พ.ย.) นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ทางรัฐบาลกัมพูชาจับตัว นายศิวรักษ์ ชุติพงษ์ พนักงานบริษัท กัมพูชาแอร์ ทราฟฟิก เซอร์วิส หรือ แคทส์ (CATS) บริษัทในเครือบริษัทสามารถเทลคอมกักขังในกัมพูชา ว่า ส่วนตัวเข้าใจว่ารัฐบาลพยายามที่จะประสานอยู่ โดยติดต่อที่จะดูแลแต่โดยทั่วไปอารยประเทศที่ปฏิบัติต่อผู้ที่ถูกจับหรือถูกควบคุมตัว จะได้รับการปฏิบัติอย่างดีจากรัฐบาลที่กล่าวหา เพราะเขาเป็นผู้ที่ถูกกล่าวหาเท่านั้น ยังไม่ใช่จำเลย หรือนักโทษ แต่เท่าที่ฟังข่าว ทราบว่า วิศวกรคนดังกล่าวได้มีการโทรศัพท์มาบอกคุณแม่ของเขาว่า สบายดี ไม่ต้องเป็นห่วง ตนทราบก็โล่งใจ อย่างไรก็ตาม ความสัมพันธ์ระหว่างไทย-กัมพูชา ยังมีอยู่จึงเป็นเรื่องที่รัฐบาลไทยและคนไทยต้องช่วยเป็นกำลังใจให้คนที่ถูกจับกุมอยู่ ซึ่งตนคิดว่าเป็นแค่ข้อกล่าวหาเท่านั้น ความจริงจะเป็นอย่างไรคงจะพิสูจน์ได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการมองว่า รัฐบาลน่าจะดำเนินการทางการทูตที่รุนแรงกว่านี้ นายชวน กล่าวว่า อย่าไปทำอะไรด้วยอารมณ์ ต้องใช้เหตุผล ยึดความถูกต้องเพราะเราทำอะไร พูดอะไรไปเวลานี้ จะผูกมัดวันข้างหน้าถ้าพูดในสิ่งที่ไม่จริง หรือพูดในสิ่งที่ขัดต่อหลักที่พึงปฏิบัติในระหว่างประเทศ เราอย่าไปทำอะไรแล้วเพื่อความสะใจ แต่เราต้องไปทำเพื่อความชอบธรรมถูกต้อง ตามหลักมาตราฐานที่อารยะประเทศพึงปฏิบัติ ไม่ว่าจะเบาหรือหนักก็ตาม ต้องอยู่ในกรอบที่ทำได้
ส่วนกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เสนอเป็นตัวกลางเพื่อประสานกับทางการกัมพูชา แต่มีเงื่อนไขว่ารัฐบาลไทยต้องร้องขอมานั้น นายชวน กล่าวว่า รัฐบาลมีหน้าที่ติดต่อกับรัฐบาลกัมพูชา เพราะคนของเราถูกควบคุมตัวโดยเจ้าหน้าที่ของกัมพูชา ดังนั้นคนที่รัฐบาลไทยจะต้องติดต่อโดยตรงคือ ทางการกัมพูชา ส่วนคนนอกจะช่วยพูดอะไรก็เป็นญาติพี่น้องกัน เป็นพรรคพวกกันก็เป็นเรื่องของเขา ซึ่งเรื่องนี้ปกติ ไม่ใช่เรื่องของญาติพี่น้อง แต่เป็นเรื่องของความถูกต้อง ถ้าเขาไม่ได้ทำความผิดก็ไม่มีสิทธิที่จะไปจับ แต่ถ้าเป็นความผิดก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ถ้าสมมติว่า บ้านเราไปจับคนทำผิดแล้วเขาเอาญาติมาอ้าง ก็เป็นเรื่องที่ยาก ดังนั้นจึงต้องยึดความถูกต้องชอบธรรมเป็นหลัก ตนเชื่อว่าคนไทยคงไม่ไปทำอะไรจึงดีแล้วที่รัฐบาล ที่รัฐบาลพยายามประสานติดต่อเพื่อดูแลเขาอย่างน้อย เบื้องต้นในเรื่องของสิทธิการเข้าไปเยี่ยมและติดต่อทนายความเพื่อดูแล เป็นสิ่งที่รัฐบาลกัมพูชาควรจะอนุญาตให้ทำได้ตามหลักสากล