ว่าที่โฆษก ก.ม.ม.ชี้ รบ.ต้องหนักแน่ ไม่ตกเป็นเหยื่อยั่วยุผู้นำเขมร แนะต้องรุกกลับแจงประชาคมโลก-ปชช.ให้เข้าใจข้อมูลข่าวสาร ขณะเดียวกัน ต้องเร่งจับตัว “นช.ทักษิณ” มาดำเนินคดี พร้อมทำนาย รบ.ไม่ยาวอาจยุบสภาหนีจลาจลเสื้อแดงต้นปีหน้า ประณาม ส.ส.พท.โดดประชุมสภา ไล่ให้ลาออก หากไม่พร้อมทำหน้าที่ ขณะที่ “สุริยะใส” ขำข่าว “บิ๊กจิ๋ว” ขึ้นเวที พธม.ปัดไม่เป็นความจริง หยันหากจริง “จิ๋ว” คงต้องขอ พท.ก่อน แต่เชื่อไม่กล้ามาแน่
วันนี้ (15 พ.ย.) นายสำราญ รอดเพชร ว่าที่โฆษกพรรคการเมืองใหม่ กล่าวถึงความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา ว่า พรรคสนับสนุนรัฐบาลต่อการดำเนินการทุกด้านในช่วงที่ผ่านมา แต่ดูเหมือนสถานการณ์ขณะนี้ จะยิ่งรุนแรงขึ้นตามลำดับ พรรคจึงขอเสนอให้รัฐบาลหนักแน่นต่อไป โดยต้องไม่ตกเป็นเหยื่อยั่วยุของผู้นำกัมพูชา และรัฐบาลต้องไม่ตั้งรับเพียงอย่างเดียว แต่ต้องนำเสนอข้อมูลข่าวสารต่อประชาคมโลกและคนไทย โดยเฉพาะประชาชนระดับรากหญ้า ขณะเดียวกัน รัฐบาลต้องมีศักยภาพ และแสดงภาวะผู้นำในการสร้างความเป็นเอกภาพแห่งชาติให้ประจักษ์ชัด
นายสำราญ กล่าวต่อไปว่า มีแนวโน้มสูงที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะใช้กัมพูชาเป็นฐานที่มั่นในการปฏิบัติการทางอำนาจกดดันรัฐบาลไทย ดังนั้น รัฐบาลต้องชัดเจนในการนำ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาลงโทษให้ได้ เพราะถึงอย่างไร พ.ต.ท.ทักษิณ จะไม่เลิกปฏิบัติการป่วนประเทศไทย รัฐบาลจึงต้องยกระดับความร่วมมือกับสาธารณรัฐสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ในการนำตัว พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาดำเนินคดี
ว่าที่โฆษกพรรคการเมืองใหม่ ยังได้ประเมินสถานการณ์การเมือง ว่า ในช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม เป็นช่วงเดือนมหามงคล และใกล้เทศกาลปีใหม่ คาดว่า กองทัพคนเสื้อแดง หรือแนวรบของระบอบทักษิณ จะยังไม่สามารถรุกฆาตใดๆ ได้ โดยคงต้องรอสถานการณ์จนถึงหลังปีใหม่ ในช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2553 จึงจะเป็นช่วงเวลาชี้ขาดสถานการณ์จริง โดยมีความเป็นไปได้สูงที่รัฐบาลอาจยุบสภา หนีการจลาจลนองเลือดรอบสอง แม้รัฐบาลจะไม่ต้องการยุบสภาก็ตาม
อย่างไรก็ตาม ยังมีความพยายามจากบางฝ่าย โดยเฉพาะ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทย ที่เสนอแนวคิดรัฐบาลแห่งชาติ โดยยอมให้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป แต่เชื่อว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่ยอมรับแนวคิดนี้ แต่หากสถานการณ์คับขันจริงๆ อาจมีความเปลี่ยนแปลงได้ จึงขอให้ทุกฝ่ายจับตามองต่อไป
นอกจากนี้ นายสำราญ กล่าวอีกว่า พรรคขอประณาม ส.ส.พรรคเพื่อไทย กว่า 50 คน ที่ไม่ยอมเข้าประชุมร่วมรัฐสภา เนื่องจากเดินทางไปประเทศกัมพูชา ส่งผลให้การประชุมรัฐสภาเกิดความวุ่นวาย และมีเหตุสภาล่ม ในวันที่ 13 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา พรรคจึงขอประณาม ส.ส.ที่ขาดความรับผิดชอบ เห็นแก่การเมือง และผลประโยชน์ส่วนตัวมากกว่าประโยชน์ของส่วนรวม จึงขอเสนอว่า หากไม่พร้อมหรือไม่อยากทำหน้าที่ ส.ส.ควรลาออก หรือเสนอให้พรรคมีมติให้ออกจากความเป็น ส.ส.ยกพรรค ทั้งนี้ เผื่อนายกรัฐมนตรีจะยุบสภาตามที่พรรคเพื่อไทยต้องการ ดีกว่าการเล่นเกมการเมืองในสภาด้วยรูปแบบต่างๆ ที่ทำให้ภาพของระบบรัฐสภาเสื่อมทรามลงไปโดยใช่เหตุ
ด้าน นายสุริยะใส กตะศิลา ว่าที่เลขาธิการพรรคการเมืองใหม่ ในฐานะผู้ประสานงานเครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี สมาชิกพรรคเพื่อไทย เปิดเผยผ่านสถานีวิทยุวานนี้ ว่า พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย จะมาร่วมปราศรัยบนเวทีของพันธมิตรฯ ที่บริเวณท้องสนามหลวงในวันนี้ ว่า ไม่เป็นความจริง ซึ่งอาจเป็นข้อมูลที่มีความคลาดเคลื่อน พร้อมทั้งเชื่อว่า พล.อ.ชวลิต ไม่กล้าที่จะเดินทางมาขึ้นเวที เนื่องจากพรรคเพื่อไทยต่อต้านการชุมนุมของพันธมิตรฯ ในวันนี้ ซึ่งหากเป็นจริง พล.อ.ชวลิต คงต้องขออนุญาตพรรคเพื่อไทยเสียก่อน
นอกจากนี้ นายสุริยะใส กล่าวเพิ่มเติมว่า งานรวมพลังแผ่นดินปกป้องเกียรติภูมิของชาติ ที่ท้องสนามหลวง จะเริ่มขึ้นในเวลา 16.00 น.ไปจนถึงเวลา 23.00 น.โดยยืนยันว่าจะไม่มีการเคลื่อนย้ายการชุมนุมไปที่ลานพระบรมรูปทรงม้าอย่างแน่นอน
ว่าที่เลขาธิการพรรคการเมืองใหม่ กล่าวด้วยว่า พรรคการเมืองใหม่ได้ประสานกับแนวร่วมทั้งภาคเอกชนและองค์กรต่างๆ เพื่อจัดตั้งองค์กรถาวรโดยรณรงค์ประชาสัมพันธ์ข้อมูล ข้อเท็จจริงต่างๆ ของปัญหาไทย-กัมพูชา เพื่อความชัดเจนและจะมีการหารือกันอีกครั้ง หลังจากการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยในวันนี้