xs
xsm
sm
md
lg

ปชป.มึนรบ.แห่งชาติจิ๋วžเชื่อเกิดยากขัดหลักปชต.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายชินวรณ์ บุญเกียรติ ประธานคณะกรรมการประสานงาน (วิป) พรรคร่วมรัฐบาล ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ สมาชิกพรรคเพื่อไทยเสนอตั้งรัฐบาลแห่งชาติหยุดความขัดแย้งในประเทศว่า พล.อ.ชวลิตจะต้องเสนอวิธีการว่าจะทำอย่างไรให้ถูกต้อง เพราะโดยหลักการแล้วการมีรัฐบาลแห่งชาตินั้นขัดกับหลักการประชาธิปไตย เนื่องจากไม่มีฝ่ายค้านตรวจสอบ แต่ไม่ว่าจะมีข้อเสนอแนะอย่างไร หากนำไปสู่ความสมานฉันท์ ก็ต้องเปิดใจกว้างรับฟัง อย่างไรก็ตามส่วนตัวเชื่อว่า ช่องทางที่คณะกรรมการสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปการเมืองและการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่ให้แก้ไขรัฐธรรมนูญใน 6 ประเด็น โดยมีการยกร่างและทำประชามติก่อนเสนอ เข้าสภา น่าจะเป็นช่องทางสมานฉันท์ที่เป็นไปได้ที่สุด เพราะจะนำไปสู่กระบวนการเลือกตั้งที่เป็นสันติวิธี
ท่านพูดเรื่องนี้หลายครั้งแล้ว โดยหลักการเราไม่เห็นด้วยที่จะมีรัฐบาลแห่งชาติ เพราะขัดกับหลักการประชาธิปไตย เพราะไม่มีฝ่ายตรวจสอบรัฐบาล และกระบวนการโดยกฎหมายรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ไม่สามารถดำเนินการได้ แต่วันนี้สิ่งที่พล.อ.ชวลิตเสนอเข้ามายังไม่มีความชัดเจน ผมไม่อยากใช้คำว่าท่านพูดยังไม่เข้าใจ แต่ทุกข้อเสนอเราก็ควรรับฟังเพื่อให้คลี่คลายไปได้และเกิดความสมานฉันท์
ประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่าขณะนี้แม้จะเหลือวิป 2 ฝ่าย คือวิปรัฐบาล และวิปวุฒิ ก็ยังเดินหน้ากระบวนการยกร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ 6 ประเด็น ตามข้อเสนอ ของคณะกรรมการสมานฉันท์ฯ โดยในวันที่ 12 พ.ย.นี้ได้นัดหมายที่จะพิจารณาร่วมกันถึงร่างที่ฝ่ายกฎหมายของสภาผู้แทนราษฎรดำเนินการมา ซึ่งจะเชิญวิปฝ่ายค้านร่วมรัฐบาลด้วย และยังหวังว่าจะร่วม เพราะเคยเป็นมติร่วมกันของวิป 3 ฝ่าย และที่สำคัญเป็นข้อเสนอของวิปฝ่ายค้านเองว่าเราควรร่วมกันแก้ไขรัฐธรรมนูญดีกว่า ให้กลุ่มสีเขียวหรือกลุ่มอื่นมาแก้ไขรัฐธรรมนูญ
อย่างไรก็ตามหากไม่มาร่วมในขั้นตอนนี้ ก็ยังมีเวลา เพราะมีขั้นตอนการทำประชามติ ที่ต้องใช้เวลาประมาณ 90-120วันก่อนจะแสวงหาความร่วมมือในการลงชื่อ เสนอญัตติ ทั้งนี้เห็นว่าในฐานะที่เป็นนักการเมืองควรต้องมีความรับผิดชอบต่อประชาชน และรัฐสภา เพราะหากต่างฝ่ายต่างตั้งมวลชนมากดดัน ก็จะไม่สามารถ หาทางออกที่ดีได้ ดังนั้นหากประชามติออกมาอย่างไร ก็น่าจะร่วมมือเพื่อให้เป็นไปตามความเห็นของประชาชน
ประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า ตนอยากให้รัฐบาลให้ความสนใจต่อการเคลื่อนไหว ของฝ่ายพ.ต.ท.ทักษิณ จะได้เห็นชัดเจนว่าเหมือนเป็นกระบวนการที่ตั้งใจรักษาผลประโยชน์ของพ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ว่าจะเป็นข้อเสนอของพล.อ.ชวลิต คนเสื้อแดงที่ตั้งโรงเรียนคนเสื้อแดง ตลอดถึงการเคลื่อนไหวนอกประเทศเพื่อลดความน่าเชื่อของรัฐบาลก็ดี ในส่วนนี้รัฐบาลต้องทำความเข้าใจให้เห็นชัดเจนว่ารัฐบาลมาโดยความ ชอบธรรมของกฎหมายรัฐธรรมนูญ และในขณะนี้มีการขับเคลื่อนที่ต้องการจะให้การ เปลี่ยนแปลงเป็นไปตามกระบวนการของระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ เป็นประมุข ส่วนกระบวนการอื่นนั้นรัฐบาลต้องตั้งหลักและติดตามความเคลื่อนไหว ให้ชัดเจนมากขึ้น
ส่วนกรณีที่คนเสื้อแดงประกาศจะล้มรัฐบาลให้ได้ภายในเดือนพฤศจิกายนนั้น นายชินวรณ์ กล่าวว่า ตนอยากให้ทุกฝ่ายที่เป็นพรรคการเมือง ซึ่งวันนี้เสื้อเหลืองคือ พรรคการเมืองใหม่ เสื้อแดงคือพรรคเพื่อไทย ได้มาเคลื่อนไหวโดยระบบรัฐสภา เพราะถ้าใช้มวลชนกดดัน ท้ายสุดจะนำไปสู่ความขัดแย้งรุนแรงมากขึ้น ดังนั้นหาก คนเสื้อแดงยังแสดงจุดยืนเดิม ตนคิดว่าพรรคเพื่อไทยก็ควรทบทวน การแสดงความ เป็นพรรคการเมืองที่ต้องรับผิดชอบในกลไกระบบรัฐสภาให้เดินหน้าได้ ส่วนเป้าหมาย ที่จะล้มรัฐบาลให้ได้ภายในเดือนพ.ย. ก็เป็นเรื่องไม่น่าแปลกใจ เพราะกลุ่มนี้ประกาศมาตลอดว่าจะไม่ให้รัฐบาลสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้
ผู้สื่อข่าวถามว่ารัฐบาลจะล้มตามที่แกนนำเสื้อแดงประกาศหรือไม่ นายชินวรณ์ กล่าวว่า ตนเพิ่งคุยกับชาวบ้านว่าแม้จะมีปัญหาอุปสรรคไปขนาดนี้ แต่เชื่อว่ารัฐบาลยังเดินหน้าไปได้ แต่รัฐบาลต้องทำความเข้าใจกับประชาชนควบคู่กันไป และขณะเดียวกันรัฐบาลต้องแก้ปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจและปัญหาประชาชนให้เกิดผลงานอย่างจริงจังด้วย เพื่อจะได้เป็นที่ยอมรับจากประชาชน
ส่วนที่มีปัญหาเรื่องการทุจริตในโครงการชุมชนพอเพียงนั้น เห็นว่ารัฐบาล พยายามแก้ปัญหาทุกด้านอยู่แล้ว เรื่องการทุจริตที่เกิดขึ้นยังไม่มีผลชัดเจนว่า ฝ่ายการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้องและอยู่ระหว่างที่รัฐบาลตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบ เพื่อความโปร่งใส แต่การที่ฝ่ายค้านหยิบยกสิ่งเหล่านี้มาเป็นประเด็นเคลื่อนไหว ก็เป็นเรื่องที่รัฐบาลจะต้องทำความเข้าใจกับประชาชน
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าเมื่อพรรคเพื่อไทย ไม่ร่วมแก้ไขรัฐธรรมนูญจนทำให้กระบวนการล่าช้าออกไปอีกก็ไม่เป็นไร เมื่อถามว่า จริงๆ แล้วในใจ ก็ไม่ค่อยอยากแก้รัฐธรรมนูญอยู่แล้วใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คือพูดอย่างนี้ ถ้าเราเอาความต้องการของตัวเอง ทุกคนนะก็ต้องเลิกพูดเรื่องสมานฉันท์ ถ้าอยากจะสมานฉันท์นั่นหมายความว่าทุกคนต้องพร้อมถอยบ้าง ตนถอยแต่ไม่ให้เสียหลักการ ถอยบนเงื่อนไขว่าจะทำตามที่ประชาชนตัดสิน ก็คือประชามติ
นาย ประสิทธิ์ โพธสุธน ส.ว.สุพรรณบุรี กล่าวถึงความคืบหน้าในการยื่นญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า กำลังพูดคุยกับเพื่อนสมาชิกกันอยู่โดยในเบื้องต้นคิดว่าจะเสนอไปคู่ขนานกับทางรัฐบาล โดยประเด็นก็ยังเป็นไปตามติของคณะกรรมการสมานฉันท์ฯ ทั้ง 6 ประเด็นเพราะเป็นเรื่องที่ได้คิดตกผลึกกันแล้ว ดังนั้นการยกร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญก็น่าจะใกล้เคียงกัน แต่ที่เป็นห่วงดูแล้วรัฐบาลน่าจะดึงเรื่องออกไปไกล เพราะคงจะยื่นไม่ทันสมัยประชุมสภานี้ อย่างไรก็ตามเราคงต้องรอดดูความเคลื่อนไหวของรัฐบาลก่อนว่าจะมีความจริงใจแค่ไหน
เท่าที่ดูท่าทีของรัฐบาลก็น่าพอใจระดับหนึ่ง ดูมีความจริงจังมากขึ้น เพราะกลายเป็นมติพรรคว่าจะแก้ไขจากเดิมที่ไม่มีความชัดเจน สำหรับการทำประชามติเพียง 6-7 ประเด็นนั้นผมไม่เห็นด้วย มันเล็กน้อย ไม่คุ้ม ไหนจะถามประชามติก็ถามไปเลยสัก 20-30 ประเด็นไปเลยโดยใส่ประเด็นที่เป็นปัญหา ซึ่งคิดว่าทุกคนก็เห็นแล้วว่า มีประแด็นใดบ้างที่เป็นปัญหา หากประชาชนเห็นด้วยให้แก้ไขจะได้แก้ไปทีเดียว อย่ากลัวว่าจะถูกกล่าวหาว่านักการเมืองทำเพื่อตัวแอง เพราะหากเราไม่ทำก็ไม่ได้เริ่มต้น และถ้าประชาชนไม่เห็นด้วยกจบ
ผู้สื่อข่าวถามว่าพรรคเพื่อไทยถอนตัวจากการแก้ไขรัฐมนตรี โดยจะผลักดันรัฐธรรมนูญปี 2540 มาใช้ นายประสิทธิ์ กล่าวว่า การยกมาทั้งฉบับเลยคงไม่ได้ แต่หากนำมาเปรียบเทียบกับร่างรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันแล้วคิดว่าประเด็นใดในฉบับไหนดีกว่าก็ให้หยิบยกกลับมาก็เห็นด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น