รองนายกฯ จากพรรค ชทพ.หวั่นสถานการณ์ไทย-เขมรรุนแรงแรงถึงขั้นปิดสถานทูต ยันรัฐบาลไปควบคุมสถานการณ์เขมรไม่ได้ กวักมือเรียก “บิ๊กจิ๋ว” กลับบ้านไปพักผ่อนได้แล้ว เตือนในฐานะพี่น้องเดี๋ยวไร้คนนับถือ ตัดหางแนวคิดทางการเมืองใช้ไม่ได้
วันนี้ (13 พ.ย.) พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงสถานการณ์ระหว่างไทย-กัมพูชาว่า เชื่อว่าปัญหาระหว่างประเทศคงจะหนักขึ้นกว่านี้ แม้ว่ารัฐบาลจะคุมสถานการณ์ของเราอยู่ แต่คงไปคุมฝ่ายกัมพูชาไม่ได้ ซึ่งต่อไปทางกัมพูชาชนอาจจะมีการประกาศปิดสถานทูตไทยภายในประเทศกัมพูชาก็ได้ โดยตนเพียงคาดเดาเท่านั้น เพราะเห็นว่ามีการขับเลขานุการเอกกลับประเทศแล้ว ดังนั้น ต้องติดตามสถานการณ์ต่อไป เมื่อถามย้ำว่าสถานการณ์หนักถึงขั้นนั้นเลยหรือ พล.ต.สนั่น กล่าวว่า เขาไม่พอใจอะไรเราก็ไม่รู้ มีแต่เราที่ควรไม่พอใจเขา
ผู้สื่อข่าวถามว่า อยากฝากอะไรถึง พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทยหรือไม่ ที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่ในประเทศกัมพูชาก่อนหน้านี้ และกำลังจะเดินทางไปประเทศอื่นๆ ต่อ พล.ต.สนั่น กล่าวว่า ทุกคนต้องตั้งสติ เพราะเป็นคนไทย เรื่องระหว่างประเทศเราควรคิดว่าอยู่ฝ่ายไหน คิดว่าคนเป็นทหารได้เคยปฏิญาณตนไว้ต่อเบื้องพระพักตร์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และธงไชยเฉลิมพล ก็ต้องคิดให้ดีว่าการทำอะไร จะกระเทือนถึงประเทศชาติหรือไม่ ไปกัมพูชาแล้วมีประโยชน์หรือไม่
“ผมคิดว่าท่านควรหยุดได้แล้ว การเคลื่อนไหวแบบนี้ไม่เป็นประโยชน์ต่อประเทศ ท่านทำอะไรไม่ถูก ขอให้หยุดเคลื่อนไหวทางการเมือง แล้วกลับมาบ้านได้แล้ว อยู่บ้านอย่างเดิม ออกจากประธานพรรคเพื่อไทย ไม่เช่นนั้นจะยิ่งเสียชื่อเดี๋ยวจะไม่มีคนนับถือ สำหรับผมนั้นเป็นพี่น้องกันได้ แต่ความคิดทางการเมืองผมไม่นับถือ เพราะถือว่าใช้ไม่ได้” พล.ต.สนั่น กล่าว
