นายกฯ ไม่สน “นช.ทักษิณ” สมคบ “ฮุนเซน” สร้างความวุ่นวายยั่วยุไทย ปัดปลุกกระแสคลั่งชาติ ชี้เป็นความรู้สึกของ ปชช.ที่เกิดขึ้นจากผลการกระทำของ “นช.ทักษิณ” เอง เชื่อความขัดแย้งไม่ถึงขั้นปิดสถานทูต ชี้มาตรการของไทยการตอบโต้เขมรเหมาะสมแล้ว พร้อมย้ำไม่หลงกลเดิมตามเกมเขมรถอนทหารออกจากพระวิหาร
วันนี้ (13 พ.ย.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังหารือกับนายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ 45 นาที ที่รัฐสภาว่า มาตรการตอบโต้ของไทยที่ชะลอให้ความเหลือโครงการต่างๆ ต่อกัมพูชาถือว่าเหมาะสมแล้ว พร้อมเห็นว่าการขับนายคำรบ ปาลวัฒน์วิไชย เลขานุการเอกประจำสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ ออกนอกประเทศไทยใน 48 ชั่วโมง ถือเป็นการยั่วยุ ดังนั้นต้องระมัดระวัง เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นเกิดจากความร่วมมือของสมเด็จฯ ฮุนเซน และ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในการสร้างความวุ่นวายให้แก่ทางการไทย
อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีเชื่อว่าความขัดแย้งของทั้ง 2 ประเทศ ยังไม่ถึงขั้นต้องปิดสถานทูต และเห็นว่าการตอบโต้ไม่ควรเดินตามเกมของกัมพูชา เรื่องดังกล่าวจะไม่ทำให้รัฐบาลเสียสมาธิในการบริหารประเทศ และรัฐบาลไม่เคยปลุกปั่นกระแสคลั่งชาติต่อประชาชน แต่ความรู้สึกของประชาชนที่เกิดขึ้นเป็นผลจากการกระทำของ พ.ต.ท.ทักษิณเอง
อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีปฏิเสธตอบคำถามกรณีที่กัมพูชาเรียกร้องให้ปลดนายกษิต ภิรมย์ ออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เพราะเป็นตัวปัญหา
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงกรณีที่กัมพูชาถอนกำลังทหารออกจากบริเวณปราสาทพระวิหารว่า เป็นไปตามแนวทางที่กัมพูชาวางไว้ ซึ่งเป็นแผนที่ไทยจะไม่เดินตาม เนื่องจากคาดว่าจะมีการอ้างต่อมรกดโลกว่าไม่มีปัญหาในบริเวณดังกล่าว และขณะนี้ยังไม่มีปัญหาการค้าตามแนวชายแดน และหลังจากให้สัมภาษณ์แล้ว นายกรัฐมนตรีได้เดินทางกลับไปที่บ้านพัก เพื่อเตรียมตัวไปร่วมประชุมเอเปกที่ประเทศสิงคโปร์