“สดศรี” แจงเหตุยืดเวลาชี้ชะตา ปชป.รับเงินบริจาค 285 ล้านบาท วอน “ประชัย” ให้ปากคำเงินบริจาค ระบุ จำเป็นต้องเห็นคล้อย แม้เป็นความเห็นอนุกรรมการ เพราะ กกต.ชุดใหญ่อาจถูกฟ้อง
วันนี้ (11 พ.ย.) ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นางสดศรี สัตยธรรม กกต.กล่าวถึงกรณีที่ กกต.มีมติให้ขยายเวลาการไต่สวนอีก 30 วัน ในสำนวนเงิน 285 ล้านบาท ว่า ที่ประชุม กกต.ได้มีมติเห็นพ้องต้องกันว่า ยังไม่ควรลงมติ เพราะยังขาด นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ผู้บริหารบริษัท ทีพีไอโพลีน จำกัด (มหาชน) พยานปากสำคัญและเอกสารจากตลาดหลักทรัพย์ที่อิงกับบริษัท ทีพีไอฯ ตนได้ติงอนุกรรมการไปแล้วที่ไปสอบสวนมายังไม่เพียงพอ อีกทั้ง นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ยื่นร้องคัดค้านว่า ไม่อยากให้ตัดนายประชัยออกไป เพราะอนุกรรมการยังสอบไม่สิ้นกระแสความ เพราะขาดนายประชัยที่ยังไม่ชี้แจงมา ในเมื่ออนุกรรมการเสนอความเห็นขึ้นมาโดยตัดนายประชัยออกไป เรื่องนี้จึงเป็นเพียงแค่ความเห็นของอนุกรรมการ แต่คนที่รับผิดชอบจะเป็นกกต.หากถูกฟ้องซึ่งอนุกรรมการไม่ถูกฟ้อง ดังนั้นความรับผิดชอบจึงอยู่ที่ กกต.
นางสดศรี กล่าวว่า เรื่องนี้ยังมีประเด็นสำคัญหลายเรื่องที่อนุกรรมการยังไม่ได้สอบไปถึง เพราะยังขาดเอกสารจากตลาดหลักทรัพย์ ว่า มีการแสดงบัญชีงบดุลรายรับและรายจ่ายของบริษัท ทีพีไอฯ ในปี 2548 ว่า จ่ายเป็นค่าโฆษณาหรือไม่ ซึ่ง กกต.ยังไม่มีหลักฐานตรงนี้ อีกทั้งการชี้แจงของนายประชัยผ่านทนายความรับมอบอำนาจ ก็ยืนยันเพียงแค่ว่าไม่ได้ให้เงินแก่พรรคประชาธิปัตย์เท่านั้น รวมทั้งอนุกรรมการได้ส่งหนังสือให้นายประชัยชี้แจงในประเด็นที่ต้องการ แต่นายประชัยก็ไม่ตอบ จึงหวังว่า นายประชัย จะมาให้ถ้อยคำกับ กกต.ด้วยตัวเอง และตอบคำถามในประเด็นที่ กกต.ต้องการ