“เทพไท” เย้ยพระยาละวอก ปั่นหัวเขมรเกลียดคนไทย

โฆษกมาร์คอัด “แม้ว” ขี้ขลาด กล้าทำแต่ไม่กล้ารับหมิ่นในหลวง หลบหลังทหารทั้งกองทัพเหยียบแผ่นดินเขมร โชว์ภาพพระยาละแวกจับมือพระยาละวอก ปั่นหัวเขมรเกลียดคนไทย เย้ย “จิ๋ว” แยกน้ำมูก-เต้าส่วนให้ออกก่อนคิดกลับมาเป็นนายกฯ อีกรอบ



วันนี้ (10 พ.ย.) นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวกรณีที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปฏิเสธการให้สัมภาษณ์จาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์ ในเว็บไซต์ไทมส์ ออนไลน์ว่า ถือเป็นเรื่องปกติที่เมื่อถูกจับได้ไล่ทันก็ต้องออกมาปฏิเสธ เพราะถ้าเป็นลูกผู้ชายจริงกล้าทำก็ต้องกล้ารับ ไม่ใช่ดูกระแสสังคม เมื่อถูกวิจารณ์ก็ตีกรรเชียงหนี ส่วนการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ออกจดหมายเปิดผนึก 4 ประเด็น พบว่ามีการบิดเบือนไม่ตรงข้อเท็จจริง โดยใส่ร้ายรัฐบาล คือ 1.ที่กล่าวว่าตัวเองได้รับเชิญจากหลายประเทศทั่วโลกให้เป็นที่ปรึกษา ขอถามว่ามีประเทศใดบ้าง ที่จะให้ความสำคัญเท่ากับสมเด็จฯ ฮุนเซน ที่มีผลประโยชน์ร่วมกัน คงจะมีแต่ประเทศที่ไม่ได้อยู่ในสารระบบบัญชีรายชื่อแผนที่โลก ถ้าเป็นจริงให้เดินทางไปประเทศใหญ่ๆ ที่มีการปกครองตามระบอบประชาธิปไตย ล้วนแล้วแต่ปฏิเสธการให้วีซ่ากับ พ.ต.ท.ทักษิณ กันหมดแล้ว

นายเทพไทกล่าวว่า 2.ที่ระบุว่ารัฐบาลสร้างเรื่องเกินจริงเพื่อปลุกกระแสชาตินิยม ตนขอชี้แจงว่า กรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ไปรับตำแหน่งที่ปรึกษาของกัมพูชา ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นผู้ทรยศต่อชาติและสำทับกับพฤติกรรมพูดจาบจ้วงสถาบันกษัตริย์ ล้วนเป็นเครื่องยืนยันถึงพฤติกรรมพ.ต.ท.ทักษิณ รัฐบาลไม่จำเป็นต้องปลุกกระแสใดๆ เพราะสิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณ กระทำ คนไทยที่มีจิตสำนึก และวุฒิภาวะเพียงพอที่จะใช้วิจารณญาณตัดสินเองได้ว่าการกระทำของ พ.ต.ท.ทักษิณทั้ง 2 เรื่องรักชาติหรือไม่ 3.ที่กล่าวหารัฐบาลชุดนี้ว่ามีพฤติกรรมจุดไม้ขีดไฟเผาป่าและเสียหายลุกลาม ขอเรียนว่ารัฐบาลใช้ทุกวิถีทางที่จะรักษาความสัมพันธ์ของกัมพูชาให้อยู่ในระดับที่ดี ที่ดำเนินการในเวลานี้เป็นเพียงมาตรการทางการทูตเท่านั้น ความสัมพันธ์ในส่วนของประชาชนทั้ง 2 ประเทศยังเป็นปกติทุกประการไม่มีการบิดเบือน ฉะนั้น ความเสียหายใดๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตจะไม่เกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดนี้ แต่จะเป็นพฤติกรรมของพ.ต.ท.ทักษิณ ที่จะขยายให้ความแตกแยกลุกลามไป เช่นวันนี้ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้เดินทางเข้ากัมพูชาแล้ว

นายเทพไทกล่าวต่อว่า 4.กรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ตั้งคำถามว่ารัฐบาลยังมีปัญหาไม่มากพอกับการตามล่าตัวเอง ตนคิดว่าวันนี้รัฐบาลยอมรับว่ามีปัญหาภายในประเทศค่อนข้างมาก แต่ พ.ต.ท.ทักษิณ ต่างหากที่เป็นผู้ชักนำปัญหานอกประเทศเข้มาสู่ภายในประเทศไทย ดังนั้น ท่านจึงต้องตระหนักว่าตัวเองเป็นต้นตอของปัญหาของประเทศไทยจริงๆ เพราะปัญหาทั้งหมดมาจากท่านทั้งสิ้น

“การเดินทางไปกัมพูชาของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชัดเจนแล้ว่า มีพฤติกรรมขี้ขาดตาขาวตามที่คนวิจารณ์ว่าแม้จะยังรักเงิน 7.6 หมื่นล้านบาท แต่ว่ารักชีวิตมากกว่า เพราะก้าวแรกที่เหยียบสนามบินกัมพูชา สมเด็จฯ ฮุนเซนต้องใช้กองกำลังอารักขาเป็นกองทัพเพราะเกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัย ซึ่งฝ่ายข่าวของไทยได้รับรายงานว่าหลังจากที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ถึงกัมพูชามีการปล่อยข่าวในกัมพูชา 2 เรื่อง คือ 1.การปลุกระดมคนกัมพชาให้เกลียดชังคนไทย โดยปล่อยข่าวเรื่องการปิดพรมแดน และย้ำว่ารัฐบาลไทยจะบอยคอตรัฐบาลกัมพูชา 2.มีการปล่อยข่าวว่าสมเด็จฯ ฮุนเซน จะแต่งตั้งหรือปูนยศศักดิ์ให้ พ.ต.ท.ทักษิณ หากได้รับตำแหน่งสำคัญในประเทศกัมพูชาจริง ก็ต้องตัดยศพันตำรวจโทออก ให้เป็นนายทักษิณ ชินวัตร ที่ปรึกษาส่วนตัวของสมเด็จฯ ฮุนเซน ซึ่งต่อไปจะมีผู้นำของ 2 ชาติ คือ พระยาละแวกจากกัมพูชา และพระยาละวอกจากประเทศไทย”

นายเทพไทกล่าวว่า ขอเรียกร้องบรรดานายทหารที่ตบเท้าเข้าสังกัดพรรคเพื่อไทย ซึ่งเคยถือน้ำพิพัฒน์สัตยา และถวายสัตย์ปฏิญาณต่อเบื้องพระพักตร์ และธงชัยเฉลิมพล ซึ่งต่างออกมาการันตีพฤติกรรมความจงรักภักดีของ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่วันนี้ภาพได้ปรากฏชัดเจนแล้วว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จาบจ้วงสถาบันเบื้องสูงแล้วนายทหารเหล่านี้จะยังยืนเคียงข้าง พ.ต.ท.ทักษิณ อีกหรือ วันนี้สังคมไทยจึงตั้งคำถามว่าพวกท่านจะเลือกสถาบันพระมหากษัตรย์หรือเลือกความจงรักภักดีในตัว พ.ต.ท.ทักษิณ จึงขอกระตุ้นจิตสำนึกของนายทหารเหล่านี้ ว่าถ้ายังคิดว่าตัวเองเป็นนายทหารของชาติแม้ว่าจะเกษียณอายุไปแล้วก็ตาม อยากให้แสดงความจงรักภักดี การแสดงความจงรักภักดีให้กับคนเพียงคนเดียว แต่คนคนนั้นมีพฤติกรรมจาวจ้วงอยู่เป็นอาจินก็ไม่สามารถลบล้างตรงนี้ได้

ส่วนกรณีที่ นปช.ออกมาใส่ร้ายรัฐบาลโดยพูดถึงรัฐบาลที่ใช้ยุทธศาสตร์กิน 3 ต่อ เพื่อทำลาย พ.ต.ท.ทักษิณ และพรรคเพื่อไทย และกลุ่มคนเสื้อแดง ตนคิดว่าเป็นความเข้าใจผิดของกลุ่มคนเสื้อแดง ซึ่งยุทธศาสตร์กิน 3 ต่อเป็นของกลุ่มเสื้อแดง คือ 1.กินเงินของ พ.ต.ท.ทักษิณ 2.ไถเงินจาก ส.ส. ซึ่งก็มี ส.ส.ออกมาโวยวายว่ากลุ่มคนเสื้อแดงจัดกิจกรรมและไถเงิน ส.ส. 3.หากินกับม็อบด้วยการผลิตวัสดุ อุปกรณ์ และก็ขายกันไม่ว่าจะเป็นตีนตบ หัวใจตบ รวมไปถึงการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าของบริษัทหนึ่งที่เป็นสปอนเซอร์รายใหญ่ที่ผลิตออกมาเป็นสีแดง ถือเป็นการหากินอย่างเป็นล่ำเป็นสันในม็อบสื้อแดง

นายเทพไทกล่าวถึงการเดินทางไปจ.นครพนมของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทย และประกาศว่าถ้าภาคอีสานได้ ส.ส.129 เสียง จะกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง เป็นเรื่องที่ไม่คาดคิดว่า พล.อ.ชวลิต จะกล้าประกาศ เพราะวันก่อนบอกว่าไม่หวังตำแหน่ง ต้องการจะมาช่วยเท่านั้น

“ก่อนที่จะประกาศตัวเป็นนายกฯ ผมอยากให้ท่านชวลิตแยกแยะระหว่างน้ำมูกกับเต้าส่วนให้ได้เสียก่อน เพราะเวลาเป็นหวัดน้ำมูกไหลเข้าปากยังแยกไม่ออกเลยว่าเป็นน้ำมูกหรือเต้าส่วน ”

ส่วนกรณีที่ พล.อ.ชวลิต บอกว่าที่มาช่วยพรรคเพื่อไทยและกลุ่มแดง เพราะมีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ อยากถามว่าพฤติกรรมของคนเสื้อแดง และพ.ต.ท.ทักษิณ มีความจงรักภักดีต่อราชวงศ์จริงหรือไม่ และที่บอกว่าจะแก้ไขปัญหาความขัดแย้งของคนในชาติที่แตกเป็นสีแดง สีเหลือง ถามว่าวันนี้ พล.อ.วลิต ทำอะไรที่จะสร้างความสมานฉันท์ระหว่างสองสีบ้าง นอกจากจะสร้างความแตกแยกให้มากยิ่งขึ้น และบอกว่าจะแก้ไขปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ วันนี้ข้อเสนอการตั้งนครปัตตานีก็เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ และสร้างความขัดแย้งให้กับคนในพื้นที่ และสังคมไทย

นอกจากนี้ บอกว่าจะแก้ความขัดแย้งระหว่างประเทศ ปรากฎการณ์ของ พล.อ.ชวลิตที่เดินทางไปพบสมเด็จฯ ฮุนเซน ก็ยังเห็นอยู่ว่าความแตกแยกของไทยกับต่างประเทศเกิดขึ้น จากต้นเหตุของ พล.อ.ชวลิต ส่วนที่บอกว่าจะแก้ไขปัญหาความยากจนอยากถามว่าลืมหรือยังกับคำสัญญากับคนอีสานที่บอกว่าถ้าแก้ความยากจนให้คนอีสานไม่ได้จะไปกระโดดแม่น้ำโขงตาย วันนี้ยังกล้าไปที่แม่น้ำโขงหรือเปล่า ดังนั้น สิ่งที่ พล.อ.ชวลิต พูดกับคนอีสานอยากถามกลับว่าเป็นจริงตามที่พูดหรือไม่