“จตุพร” ยังไม่สำเหนียก ท้า “มาร์ค” ยุบสภาพิสูจน์คะแนนนิยมสูงถึง 70% คลั่งสั่งสอบผลโพลบิดเบือน มั่วข้อมูลอ้างคนในรัฐบาล 2 คนจับมือไทมส์ออนไลน์ทำร้าย “พ่อแม้ว” จี้ “สุรเกียรติ์” แจงกรณีทำเอ็มโอยูกับกัมพูชา ตะแบงโต้ ปชป.ต้นตอทำไทยเสียดินแดน
วันนี้ (10 พ.ย.) ที่รัฐสภา นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย และแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ กล่าวถึงแนวทางของรัฐบาลที่ใช้สื่อทำลาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีว่า ขณะนี้รัฐบาลใช้วิธีเดียวกับ คมช.ที่เคยใช้งบประชาชนทำลาย พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร จ้างนายเชียรช่วง กัลยาณมิตร ทำงบประชาสัมพันธ์ โดยเป็นเอกสารลับทำลายความน่าเชื่อถือของ พ.ต.ท.ทักษิณ ส่วนกรณีที่สมเด็จฯ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นที่ปรึกษานั้น เป็นผลพวงมาจากกรณีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี และนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย ประกาศชัดตั้งแต่แรกว่าเป็นเรื่องของแต่ละประเทศ แต่ก็มาปรับทัพใช้วิธีเดินเกมใช้วิธีปลุกลัทธิชาตินิยมคลั่งชาติ รวมทั้งมีการใช้ผลเอแบคโพลล์แสดงถึงความนิยมของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมตรีที่มีถึง 3 เท่า ซึ่งล้วนเป็นเท็จทั้งสิ้น ขอเรียกร้องให้ผู้บริหารเอแบคโพลสอบสวนนายนพดล กรรณิการ์ ผอ.สำนักเอแบคโพลล์ รวมทั้งแจกแจงข้อมูลดิบว่ามีความเป็นมาอย่างไรด้วย เพราะเชื่อว่าเป็นผลโพลที่จ้องทำลาย พ.ต.ท.ทักษิณ และหากผลโพลมีคะแนนนิยมถึง 70 เปอร์เซ็นต์ ก็ขอท้านายอภิสิทธิ์ว่าทำไมไม่ยุบสภาแล้วเลือกตั้งใหม่ ที่ไม่ยุบสภาเป็นเพราะรู้ว่าเป็นโพลหลอกใช่หรือไม่
นายจตุพรยังกล่าวถึงกรณีที่ไทมส์ออนไลน์เสนอข่าว พ.ต.ท.ทักษิณ จาบจ้วงสถาบันด้วยว่า กรณีนี้ถือเป็นการลงข่าวที่บิดเบือน เพราะตนทราบข้อมูลว่ามีการดำเนินการจากคน 2 คน โดยคนแรกเป็นสามี ส.ส.พรรครัฐบาล ที่เป็นประธานบอร์ดรัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่ง และอีกคนคือโทรโข่งรัฐบาลที่เดินทางไปวางแผนถึงนิวยอร์ก กับสื่อมวลชนที่สัมภาษณ์คนนั้นก่อนที่จะมีการสัมภาษณ์ดังกล่าว ขอเรียกร้องให้นิตยสารไทม์ที่อ้างว่าเป็นนิตยสารระดับโลกให้สอบสวนสื่อมวชนที่สัมภาษณ์ พ.ต.ท.ทักษิณด้วย ที่จงใจบิดเบือน และสอดรับกับกรณีของกัมพูชา ที่มีการเซทอัพ จัดฉาก รวมทั้งนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ที่รับลูกเรื่องนี้ทันที ยืนยันว่าพ.ต.ท.ทักษิณโดนใช้เป็นเหยื่อเพื่อกลบเกลื่อนความล้มเหลวของการทำงานของรัฐบาล
นายจตุพรกล่าวอีกว่า ขอท้ารัฐบาลนายอภิสิทธิ์ให้ยกเลิกเอ็มโอยูที่ทำกับกัมพูชาสมัยที่นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย เป็น รมว.ต่างประเทศ วันนี้นายสุรเกียรติ์มุดหัวอยู่ที่ไหน ถ้าหากไม่อยากถูกมองว่าเป็นคนขายชาติก็ขอให้นายสุรเกียรติ์ออกมาชี้แจงว่า พื้นที่ทับซ้อนจากการทำเอ็มโอยูนั้นประเทศชาติเสียประโยชน์อย่างไร ส่วนกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ระบุว่าพ.ต.ท.ทักษิณได้รับผลประโยชน์จากพื้นที่ทับซ้อนนั้น ก็ขอให้แสดงออกมา เพราะการพูดเช่นนี้เป็นการทำลาย พ.ต.ท.ทักษิณในระยะสั้นเท่านั้น มีอะไรก็ให้แสดงออกมา ยืนยันว่า พ.ต.ท.ทักษิณไม่มีสักสตางค์แดงเดียวที่ลงทุนในกัมพูชา ตรงกันข้ามกับพรรคประชาธิปัตย์ที่ขายชาติ เสียดินแดน เพราะดูได้จากบันทึกความเข้าใจที่ทำกับกัมพูชาโดยมี ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร เป็น รมว.ต่างประเทศ ในสมัยรัฐบาลนายชวน หลีกภัย เมื่อปี 2543 ที่ไปยึดแผนที่ฝรั่งเศสที่เป็นเจ้าอาณานิคมของกัมพูชา ทำให้ประเทศไทยเสียดินแดน เรื่องนี้ไปถามทหารจะรู้เรื่องดี
“บรรพบุรุษของพรรคประชาธิปัตย์เสียดินแดนมาตั้งแต่ต้น แต่วันนี้มาปลุกกระแสคลั่งชาติ เริ่มตั้งแต่นายควง อภัยวงศ์ ที่ก่อตั้งพรรค ซึ่งเกิดที่พระตะบอง แล้วอพยพมาอยู่ที่ปราจีนบุรี ขณะที่ ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช ก็เป็นทนายว่าความจนประเทศไทยเสียปราสาทเขาพระวิหาร จนมารัฐบาลนายชวนก็ทำบันทึกความเข้าใจจนเสียค่า โง่และเสียดินแดน ล่าสุดมาถึงนายอภิสิทธิ์ที่แม้จะเกิดและเรียนที่อังกฤษแต่บรรพบุรุษเป็นคนเวียดนาม การที่มาปลุกกระแสคลั่งชาติและร้องเพลงหนักแผ่นดินนั้น ใครกันแน่ที่จะเป็นคนหนักแผ่นดิน หากปลุกกระแสคลั่งชาติผมก็จะปลุกบ้าง ตาต่อตา ฟันต่อฟัน” นายจตุพรกล่าว