ประชุมผู้นำลุ่มน้ำโขง ญี่ปุ่นให้คำมั่นร่วมมือพัฒนาต่อไป ชมประเทศลุ่มน้ำโขง มีความพยายามจะช่วยเหลือซึ่งกันและกัน พร้อมขอไทยดูแลนักลงทุนญี่ปุ่นที่ขาดการเข้าถึงแหล่งทุนของ SME ด้านไทยยืนยันสนับสนุนให้การประชุมโคเปนเฮเกนประสบความสำเร็จ พร้อมให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ และต้องการที่จะพัฒนาอุตสาหกรรมในสาขาที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
วันนี้ (7 พ.ย.) เมื่อเวลา 16.25 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี หารือทวิภาคีกับนาย Yukio Hatoyama นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ณ สำนักนายกรัฐมนตรี กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น สรุปสาระสำคัญ ดังนี้เริ่มต้นด้วยนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น กล่าวแสดงความยินดีที่ทราบว่า พระอาการประชวรของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ดีขึ้นตามลำดับ สำหรับการประชุมผู้นำลุ่มน้ำโขงกับญี่ปุ่นครั้งนี้ ญี่ปุ่นและไทยยืนยันที่จะร่วมมือกันเพื่อพัฒนาภูมิภาคนี้ต่อไป
นายกรัฐมนตรีแสดงความยินดีที่การจัดประชุมผู้นำลุ่มน้ำโขงกับญี่ปุ่นในช่วง 2 วันนี้ประสบความสำเร็จ แม้ว่าเป็นช่วงระยะเวลาสั้นๆ แต่ในการประชุมได้มีการหารือ ที่ครอบคลุมในทุกประเด็น พร้อมแสดงความขอบคุณนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นที่ได้ลงนามถวายพระพรแก่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และนายกรัฐมนตรีได้แสดงความยินดีในโอกาสที่สมเด็จพระจักรพรรดิแห่งญี่ปุ่น ครองราชย์ครบ 20 ปีด้วย ทั้งนี้ ในโอกาสการเข้าเฝ้าฯ มกุฎราชกุมาร Naruhito ได้กราบทูลเชิญเสด็จประเทศไทยอย่างเป็นทางการ โดยทราบว่าทรงสนใจด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำ
ทั้งสองฝ่ายได้หารือกันในประเด็นที่ต่อเนื่องจากการหารือทวิภาคีครั้งก่อน โดยนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นต้องการให้มีความร่วมมือกันของสมาคมมิตรภาพสมาชิกรัฐสภาไทย-ญี่ปุ่น ซึ่งนายกรัฐมนตรีจะมอบหมายให้มีการประสานงานในเรื่องนี้ต่อไป สำหรับในประเด็นด้านเศรษฐกิจไทยให้ความสำคัญในการใช้ประโยชน์จากข้อตกลง JTEPA เพื่อก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นได้ฝากให้ไทยช่วยดูแลนักลงทุนญี่ปุ่นในประเทศไทยที่ยังมีข้อติดขัดต่างๆ และการเข้าถึงแหล่งทุนของ SME ญี่ปุ่นในไทยด้วย อย่างไรก็ตามนายกรัฐมนตรีได้แสดงความขอบคุณ ภาคธุรกิจของญี่ปุ่นที่ยังสนใจลงทุนในประเทศไทยมาโดยตลอด แม้ในภาวะวิกฤตเศรษฐกิจ
ในโอกาสนี้นายกรัฐมนตรีแสดงความชื่นชมนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ที่ได้แสดงวิสัยทัศน์ในการร่วมกันรักษาสิ่งแวดล้อม ณ การประชุมสมัชชาสหประชาชาติเมื่อครั้งที่ผ่านมา ทั้งนี้ ไทยยืนยันที่จะสนับสนุนให้การประชุมโคเปนเฮเกนประสบความสำเร็จ ซึ่งไทยพร้อมให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ และต้องการที่จะพัฒนาอุตสาหกรรมในสาขาที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อันจะนำไปสู่การขยายการค้าและการลงทุนในสาขาใหม่ๆ
นอกจากนี้ ในประเด็นด้านภูมิภาค นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นได้แสดงความคาดหวังว่าพม่าจะจัดการเลือกตั้ง และมีการพัฒนากระบวนการประชาธิปไตยได้สำเร็จ ซึ่งจะเอื้อประโยชน์ต่อการขยายความร่วมมือในด้านอื่นๆ ระหว่างกันต่อไป