xs
xsm
sm
md
lg

“เพื่อแม้ว” ป่วนสภาหวิดล่ม วอล์กเอาต์ ไม่ยอมขานคะแนน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พ.อ. อภิวันท์ วิริยะชัย
“เพื่อแม้ว” ป่วนสภา จนเกือบหวิดล่ม พาลอ้างมีเล่นตุกติกเสียงไม่ครบองค์ แต่ไม่ยอมขานคะแนน พากันวอล์กเอาต์ กดดัน แต่ไร้ผลสุดท้ายยอมกลับเข้าร่วมประชุมต่อ





วันนี้ (4 พ.ย.) ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มี นายสามารถ แก้วมีชัย รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคน ทำหน้าที่ประธาน ซึ่งได้พิจารณาร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการปฏิบัติต่ออากาศยานที่กระทำผิดกฎหมาย พ.ศ.ซึ่งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว เป็นการพิจารณาต่อจากการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันพุธที่ 28 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งกฎหมายดังกล่าวมีทั้งหมด 32 มาตรา โดยมีหลักการและสาระสำคัญ คือ เนื่องจากปัจจุบันการใช้อากาศยานกระทำผิดกฎหมายในลักษณะ ที่เป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศ หรือเป็นภัยต่อสาธารณะ มีความหลากหลายมากขึ้น จำเป็นต้องใช้เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารที่มีความเชี่ยวชาญ และให้มีการประสานกันมาขึ้นในการปฏิบัติต่ออากาศยานนั้น แต่ด้วย พ.ร.บ.ว่าด้วยการปฏิบัติต่ออากาศยานที่กระทำผิดกฎหมาย พ.ศ.2519 ยังมีบทบัญญัติที่ไม่ชัดเจนเดียวกับอำนาจหน้าที่ฝ่ายทหารในการตรวจและพิสูจน์ฝ่ายการกัดและยึดอากาศยานและการจับ ควบคุม และการสืบสวนสอบสวนเบื้องต้นผู้ควบคุมอากาศยานและบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะลงมติเห็นชอบร่างในวาระที่ 3 ประธานได้ตรวจสอบองค์ประชุมก่อนที่จะมีการลงมตินั้น นายสุนัย จุลพงศธร ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ได้ขอให้ประธานในที่ประชุมตรวจสอบองค์ประชุมอีกครั้ง เพราะเกรงว่าจะไม่ครบองค์ประชุม แต่ นายสุวโรช พะลัง ส.ส.สัดส่วนพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ในการลงมติในมาตรา 32 ที่ประชุมได้ลงมติเห็นด้วยตามที่คณะกรรมาธิการเสียงข้างมาก แก้ไขด้วยคะแนนที่เกินกึ่งหนึ่ง ดังนั้น แสดงว่า องค์ประชุมครบแล้ว และให้ดำเนินการลงมติไปเลย แต่ประธานได้สั่งพักการประชุม 10 นาที

เมื่อเริ่มประชุมอีกครั้ง พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่สอง ขึ้นทำหน้าที่ประธาน พร้อมทั้งได้เปิดโอกาสให้ ส.ส.ซักถาม โดย นายสุนัย กล่าวว่า เมื่อสักครู่ตนเป็นผู้หนึ่งที่ให้นับองค์ประชุมใหม่ด้วยความสุภาพที่สุด เพราะองค์ประชุมสภาแห่งนี้เกิดการคลาดเคลื่อนหลายครั้งแล้ว ซึ่งกติกาใหม่ได้ให้ความสำคัญกับองค์ประชุม แต่ตนสังเกตหลายครั้ง ว่า ตอนที่ประธานลงไปตรวจสอบองค์ประชุมไม่บอกเลยว่าครบหรือไม่ครบ เชื่อว่า มีการตกลงกันหน้าบัลลังก์ประธาน ในที่ประชุมกับคนที่ตรวจสอบองค์ประชุม โดยเฉพาะในช่วงที่นายชัย ชิดชอบ ประธานสภา เป็นประธานในที่ประชุม เมื่อไม่ครบก็รีบรวบรัดตัดตอน ปิดการประชุม เรื่องนี้ไม่ใช่ฝ่ายค้านเป็นพวกหูหนวกตาบอด และที่ตนพูดก็เพื่อให้ทุกฝ่ายตาสว่างสักที

ภายหลังจากที่มีการถกเถียงกันเรื่ององค์ประชุมเกือบหนึ่งชั่วโมง ก่อนลงมติได้มีเช็กองค์ประชุม พบว่า มีเสียงองค์ประชุม 238 คน ถือว่าเสียงเกินกึ่งหนึ่งพอดี ทำให้ นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญากุล ส.ส.แพร่ พรรคเพื่อไทย ได้ประท้วงว่า เชื่อว่า มีการกดบัตรแทนกัน ทำให้ พ.อ.อภิวันท์ ตัดบทว่า จะเสนอให้ประธานสภาตั้งคณะกรรมการสอบการกดบัตรแทน แต่ ส.ส.ฝ่ายค้าน ไม่พอใจ พากันลุกขึ้นทยอยเดินออกจากห้องประชุม เหลือเฉพาะ ส.ส.ซักรัฐบาลเท่านั้น แต่ พ.อ.อภิวันท์ ได้ให้ที่ประชุมลงมติร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวจนจบกระบวนการ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากฝ่ายค้านได้เดินออกจากห้องประชุมนั้น ก็มีบางส่วนไปหลบอยู่ด้านหลังห้องประชุม เพื่อสังเกตการณ์ประมาณ 5 นาที ส.ส.ฝ่ายค้านบางส่วนได้เดินเข้ามาในห้องประชุมต่อ

หลังการลงมติเสร็จสิ้น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า ในสภาชุดปัจจุบัน ยังไม่มีการวินิจฉัยจากศาลรัฐธรรมนูญในเรื่ององค์ประชุมแต่อย่างใด แต่ พ.อ.อภิวันท์ ยืนยันว่าสมัย สนช.มีแน่ และแม้ไม่มีคำวินิจฉัยจากศาลรัฐธรรมนูญ ตนก็วินิจฉัยตามข้อเท็จจริง เมื่อฝ่ายค้านเขาแสดงเจตจำนง ว่า ไม่อยากร่วมประชุม ก็ไม่ถือว่าเป็นองค์ประชุม และเพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย ก็ให้มีการแก้ไขข้อบังคับการประชุมให้นับองค์ประชุมตามข้อเท็จจริง ซึ่งขอให้ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาลและประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้านหารือกันเพื่อแก้ไขปัญหา ไม่เช่นนั้นการประชุม ก็ไม่สามารถเดินต่อไปได้

จากนั้นการประชุมยังไม่สามารถดำเนินต่อไปได้ เพราะ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ได้ขอให้ พ.อ.อภิวันท์ ถอนคำวินิจฉัยเรื่ององค์ประชุม แต่ในซีกฝ่ายค้าน ส.ส.จากพรรคเพื่อไทย ต่างลุกขึ้นประท้วงจนวุ่นวายเรื่องการกดบัตรแทนกัน ทำให้ พ.อ.อภิวันท์ ตัดบทให้ประธานวิปฝ่ายค้าน และประธานวิปรัฐบาลไปหารือกันในเรื่องนี้

ขณะที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทย เสนอให้ปิดประชุมอ้างว่า เมื่อมีปัญหา ก็ไม่ควรที่จะถกเถียงกันต่อไป และสนับสนุนให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเรื่องการนับองค์ประชุม แต่ฝ่ายพรรคประชาธิปัตย์ ไม่เห็นด้วย อ้างว่า ไม่มีประเด็นอะไรที่ต้องตรวจสอบ ในที่สุด พ.อ.อภิวันท์ ได้สรุป กมธ.กิจการสภาพิจารณาเรื่องนี้ ในที่สุดบรรยากาศก็สงบลงได้ หลังจาก ส.ส.ถกเถียงกันนานกว่า 2 ชั่วโมง












กำลังโหลดความคิดเห็น