“จิ๋ว” ยังแถได้ ทำตัวเป็นเฒ่าตาใส เถียงตั้ง “นครรัฐปัตตานี” ต้องอยู่ภายใต้กรอบกฎหมาย เย้ย “เทพไท” เป็นพญา แต่ทำไมมาว่าเป็นกบฏ เมิน หลายคนเชิญลงพื้นที่ไม่เอาด้วย บอกไม่สนใจ อย่างไรจะเดินหน้าต่อ อ้างลงพื้นที่เพื่อไปรับฟังเสียง ปชช. หลังถูกทอดทิ้งให้แก้ปัญหาลำพัง สอนเชิง “รบ.-กองทัพ” อย่ามัวซึม ให้เร่งตื่นตัว
วันนี้ (3 พ.ย.) ที่ท่าอากาศยานดอนเมือง พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงแนวความคิดการจัดตั้งนครรัฐปัตตานีว่า ไม่เห็นว่าไม่ชัดเจนตรงไหน นครปัตตานี คือ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในรูปแบบหนึ่ง ซึ่งต้องกำหนดขึ้นมาโดยพระราชบัญญัติที่จะเขียนหรือมีรายละเอียดอย่างไรต้องคุยกันก่อน ไม่ใช่อยู่ดีจะมาพูดเรื่อยเปื่อย ต้องถามเขาด้วยว่าอยากได้อย่างไร แต่เขาได้บอกเราด้วยหลักการใหญ่ชัดเจนว่าจะอย่างไรแล้วแต่ ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายไทย และรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักร แค่นี้ก็พอแล้ว
เมื่อถามว่า พรรคประชาธิปัตย์ออกมาโจมตีแนวคิดจัดตั้งนครรัฐปัตตานีเป็นกบฏ พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า กบฏอย่างไร แต่หากเป็นกบฏก็แย่ เมื่อถามว่าแนวคิดดังกล่าวจะไม่แยกเป็นรัฐปัตตานีอย่างที่หลายฝ่ายกลัวหรือไม่ พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กฎหมายไทย รัฐธรรมนูญไทยจะไปเป็นกบฏได้อย่างไร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ชวลิต ได้ย้อนถามสื่อมวลชนว่า ใครเป็นคนพูดว่าแนวคิดจัตตั้งนครรัฐปัตตานีว่าเป็นกบฏ ผู้สื่อข่าวจึงบอกว่านาย เทพไท เสนพงษ์ โฆษกประจำตัวนายกรัฐมนตรี พล.อ.ชวลิต กล่าวทันทีว่า “คุณเทพไทมีชื่อว่าพญา แต่ถ้าสื่อมวลชนอยากรู้ต่อจะเล่าให้ฟัง แต่อย่าเพิ่งเล่า แต่คนนี้เป็นคนน่ารัก แต่แกเป็นพญาจริงๆ”
เมื่อถามว่า แนวคิดเป็นกบฎแรงไปหรือไม่ พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ไม่ อย่าไปคิดเช่นนั้น แต่อาจจะเป็นความปรารถนาของนายเทพไท ก็เหมือนนักการเมืองคนอื่นๆ เป็นเรื่องธรรมดาฝ่ายตรงข้ามพูดแบบนี้ก็ต้องพูดแบบนี้ เมื่อถามว่า นายกรัฐมนตรีเรียกหน่วยงานด้านความมั่นคงเพื่อประเมินสถานการณ์การเคลื่อนไหวเพื่อรับมือ พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า รับมือ พล.อ.ชวลิต อย่ามารับเลย รับไม่ไหวหรอก เมื่อถามว่า พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตประธาน คมช.ไม่ได้เดินทางลงพื้นที่ภาคใต้ด้วยหรือ พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ไม่ทราบ แต่ตนได้เชิญหลายคน
พล.อ.ชวลิต กล่าวถึงการก่อนลงพื้นที่ จ.ปัตตานีว่า การลงพื้นที่วันนี้เป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะทุกครั้งที่ติดตามการทำงานในจังหวัดชายแดนภาคใต้ส่วนใหญ่จะติดตามการทำงานของข้าราชการทั้งพลเรือน ตำรวจ และทหาร แต่ไม่ค่อยได้ฟังเสียงประชาชนที่แท้จริง ซึ่งเสียงจากประชาชนก็ฟังอยู่ แต่ที่พูดถึงคือองค์กรต่างๆ ที่รวบรวมภาคประชาชนทุกสายงานเข้าไปอยู่ด้วยกัน และทำงานมา 3-4 ปี เขามีความชัดเจนหลายเรื่อง ประเด็นปัญหา ในการแก้ไขทั้งประเด็นพูดจากับใคร การแต่งตั้งสายงาน องค์กร เครือข่ายการทำงาน ประเด็นเหล่านี้ไม่มีใครตอบได้ดีเท่ากับประชาชน วันนี้จะได้คำตอบและวิธีการแก้ไขที่สมบูรณ์ เลิกเสียเวลาสัมมนาหาข้อมูล เพราะทุกอย่างจะรวมศูนย์อยู่ที่ประชาชนทั้งจังหวัดที่จะบอกเราวันนี้ นั่นคือ สาระสำคัญที่แท้จริง
เมื่อถามว่า แสดงว่าการทำงานของรัฐบาลยังไม่ตรงกับความต้องการของประชาชนในพื้นที่ใช่หรือไม่ พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ไม่ใช่ว่าไม่ดี รัฐบาลทำถือเป็นสิ่งที่ดี แต่สิ่งที่ตนติงหมายความว่าเรื่องหลักที่จะต้องทำควบคู่ หรืออาจจะต้องทำก่อน เพราะการปฏิบัติด้านความมั่นคง การพัฒนา หรือพูดง่ายว่าการทหารกับการพัฒนาต้องทำควบคู่กันไป พูดกันมา 6 ปี เป็นการพูดซ้ำซาก และการได้ยินคำพูดที่ซ้ำซากว่าการเมืองนำการทหาร สถานการณ์เบาบางลงแล้ว ใกล้จะประสบผลสำเร็จ นี่เป็นการพูดในลักษณะซ้ำซาก เราไม่อยากเสียเวลากับเรื่องพวกนี้ เพราะความทุกข์ของประชาชนมันรอไม่ได้แล้วมันจะต้องรีบแก้ไขให้เขา
เมื่อถามว่า ที่ผ่านมามีความพยายามของฝ่ายแกนนำพูดคุยกับรัฐบาลการลงพื้นที่จะลงไปพูดคุยหรือไม่ พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ใช่ ตรงนี้เป็นคำตอบหนึ่ง ส่วนใหญ่แล้วคนจะถามว่าจะไปพูดกับใคร ไม่รู้จะไปหาแกนนำได้ที่ไหน วันนี้จะมีคำตอบเรื่องนี้ เมื่อการพูดจาเกิดขึ้นแล้ว บางคนเรียกว่ากระบวนการสันติภาพก็จะเกิดขึ้น
เมื่อถามว่าจะเป็นการยกระดับให้กับแกนนำหรือไม่ พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า จะไปยกระดับอย่างไร การแก้ปัญหาความขัดแย้งจำเป็นต้องรู้ จำเป็นต้องพูดคุย ไม่มีการแก้ปัญหาความขัดแย้ง แล้วไม่รู้ฝ่ายตรงข้ามคิดอย่างไร ก็แก้ไม่ได้ เมื่อถามว่า รัฐบาลและกองทัพเป็นห่วงการลงพื้นที่ภาคใต้ พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า เขาตื่นตัวดี เราอยากให้เขาตื่นตัวจะตาย
