สร.รฟท.ตบเท้าพบ “มาร์ค” ที่ตึกไทยคู่ฟ้า “สาวิทย์” ชี้ ยังไม่มั่นใจข้อเสนอที่ยื่นคณะกรรมการเพื่อปรับปรุงพัฒนาการรถไฟฯ และปลดผู้ว่าการ ร.ฟ.ท.นายกฯ ได้เพียงแค่รับปากว่าจะไปปรึกษากับฝ่ายบริหารก่อน แต่ยืนยันไม่มีนโยบายแปรรูป จี้ นายกฯ กล้าหาญกับ “ซาเล้ง” แฉ 6 พนักงานโดนไล่ออกถูกจำกัดพื้นที่ยื่นอุทธรณ์
วันนี้ (3 พ.ย.) นายสาวิทย์ แก้วหวาน ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสากิจรถไฟแห่งประเทศไทย (สร.รฟท.) เข้าพบ นายอภิสิทธิ์ เวชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล โดยมีพนักงานรถไฟ อ.หาดใหญ่ ที่ถูกไล่ออก 6 คน และ นายศิริชัย ไม้งาม ที่ปรึกษาสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) เข้าพบด้วย
นายสาวิทย์ กล่าวว่า ได้เสนอนายกฯให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการเพื่อปรับปรุงพัฒนาการรถไฟฯ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยกับผู้โดยสาร โดยนายกฯรับจะนำไปหารือกับฝ่ายบริหาร ร.ฟ.ท.อีกครั้ง ขณะที่ข้อเสนอให้ปลด นายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการ ร.ฟ.ท.นั้น นายกฯยังไม่รับปาก ซื่ง สร.รฟท.ก็ต้องรอการตัดสินใจของนายกฯอีกครั้ง
ทั้งนี้ นายกฯยังย้ำว่า ไม่มีนโยบายที่จะแปรรูปรัฐวิสาหกิจ ร.ฟ.ท.ดังนั้น แผนที่จะมีนำเสนอเข้ามาใน ครม.ในสัปดาห์หน้านั้น นายกฯรับปากว่าจะเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วน โดยเฉพาะ สร.รฟท.เข้ามาร่วมดูก่อนที่จะนำเข้า ครม.ส่วนปัญหาความไม่เป็นธรรมต่างๆ เช่น โทษไล่ออกของพนักงาน 6 คน นายกฯก็จะนำไปดูด้วยตัวเองในข้อกฎหมาย
“การถูกไล่ออกทาง สร.รฟท.ยังยืนยันว่า พนักงานไม่ได้รับความเป็นธรรม เราเสนอนายกฯ ว่าน่าจะมีการหยิบยกมาหารืออีกครั้ง โดยเฉพาะการออกคำสั่งจำกัดพื้นที่ไม่ให้ 6 พนักงานเข้าไปในพื้นที่ ร.ฟ.ท.ซึ่งถือว่าเป็นการกำจัดสิทธิ คนถูกไล่ออกก็ไม่มีที่จะเข้าไปยื่นอุทธรณ์ในกรอบการขออุทธรณ์ 15 วัน นายกฯรับปากว่า จะนำไปคุยกับฝ่ายบริหาร ซึ่งเราก็เสนอให้มีการสอบสวน และให้เกิดความจริงทั้ง 2 ฝ่าย แต่นายกฯก็ยังไม่รับปาก”
นายสาวิทย์ กล่าวว่า สำหรับปัญหาที่เขต อ.ละแม จ.ชุมพร นั้น ทาง สร.รฟท.ได้สอบถามนายกฯว่าจะดำเนินการอย่างไร ก็ได้คำตอบว่า จะต้องไปดูข้อมูลรอบด้านก่อน ดังนั้น การที่นายกฯ รับปากว่า จะไปดำเนินการ เช่น การตรวจพื้นที่หรือการสอบข้อเท็จจริง รวมทั้งการให้สร.รฟท.มีส่วนร่วมเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม แต่เราก็เห็นว่า นายกฯอาจจะยังไม่มีความมั่นใจเท่าไร
นอกจากนี้ สร.รฟท.ได้เสนอกรอบเวลาแล้ว ซึ่งนายกฯ เห็นว่า ควรจะดูทั้งระบบก่อน อย่างไรก็ตาม หากไม่ได้รับการตอบสนองข้อเรียกร้องก็จะไม่มีการเคลื่อนไหวอะไรอีก เพราะ สร.รฟท.พยายามบอกถึงการดำเนินการเพื่อให้เกิดความปลอดภัยเพียงอย่างเดียว แต่ที่ผ่านมาผู้บริหารไม่พยายามที่จะปฏิบัติตามกฎระบียบข้อบังคับทำให้มีปัญหาตามมา
แต่เมื่อนายกฯลงมาดูปัญหา เราก็จะต้องดูว่าจะแก้ปัญหาได้เร็วเพียงไร เพราะที่ผ่านมาเราก็ไม่มีเจตนาที่หยุดเดินรถตามที่ปรากฏเป็นข่าว ได้บอกนายกฯไปว่า การหยุดเดินรถที่ผ่านมา หากมีกระบวนการหรือบรรยากาศในการพูดคุยกัน และมีความจริงใจในการแก้ปัญหาก็จะไม่เกิดปัญหาขึ้น อย่างไรก็ตาม หากไม่มีการตอบสนอง เราก็คงจะต้องต่อสู้ตามกระบวนการ เพราะหากไม่มีการดำเนินการกับฝ่ายบริหารที่ประพฤติมิชอบ นายกฯก็ต้องแก้ไขปัญหานี้ด้วยไม่ใช่ไล่ออกเพียงพนักงาน โดยเฉพาะความกล้าหาญที่จะใช้กฎเหล็ก 9 ข้อ ที่ประกาศไว้กับข้าราชการและนักการเมือง
ส่วนกรณีที่ฝ่ายบริหารเป็นกลุ่มก้อนที่มาจากพรรคภูมิใจไทย ซึ่งเป็นพรรคร่วมรัฐบาลที่อาจจะกดดันนายกฯนั้น นายสาวิทย์ เห็นว่า นายกรัฐมนตรีจะต้องแสดงความกล้าหาญ เพราะเรื่องนี้เป็นผลประโยชน์ของบ้านเมืองและประชาชน ดังนั้น ความปลอดภัยเป็นเรื่องที่จะนำไปต่อรองไม่ได้ ดังเช่น ที่ นายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม พูดว่าไม่รับรู้การเจรจาก็ถือเป็นการไม่เคารพนายกฯ
ด้าน นายศิริชัย ไม้งาม ที่ปรึกษาสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี รับปากว่า วาระ ครม.ในเรื่องการปฏิรูป ร.ฟ.ท.ที่ นายโสภณ จะนำเข้าสู่คณะรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้านั้น จะให้ สร.รฟท.เข้ามามีส่วนร่วมในการดูด้วย เมื่อนายกฯได้รับวาระนี้แล้ว เพื่อดำเนินการร่วมกัน
นายวิรุฬ สะแกคุ้ม ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย อ.หาดใหญ่ หนึ่งในผู้ถูกไล่ออก กล่าวว่า รู้สึกว่าพอใจในส่วนหนึ่ง แต่เมื่อนายกรัฐมนตรีรับปากแล้ว ทั้งในเรื่องของการอุทธรณ์คำสั่งการรถไฟฯ ที่ห้าม 6 พนักงานที่ถูกไล่ออกเข้าพื้นที่ เราก็ไม่รู้ว่าจะเข้าไปยื่นอุทธรณ์กับใครได้ ถ้ายังมีคำสั่งนี้อยู่ก็เหมือนกับว่า เป็นการกีดกันไม่ให้อุทธรณ์และเป็นคำสั่งที่ไม่เป็นธรรม
