“โฆษกมาร์ค” เย้ยเพื่อไทยชูนโยบายไทยร้อนรุ่ม ชักศึกเข้าบ้าน อัด “จิ๋ว” ฝันดับไฟใต้ไร้น้ำยา ปัดข่าวรัฐบาลจัดระเบียบ ตร.เตรียมรับมือเลือกตั้ง ยัน รรท.ผบ.ตร.มีอำนาจเท่าตัวจริง การันตีรัฐบาล “มาร์ค” ไม่เอาเยี่ยงรัฐบาลโจร
วันนี้ (2 พ.ย.) นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่พรรคภูมิใจไทย ออกมาระบุว่านโยบายด้านความมั่นคง และนโยบายต่างประเทศมีความล้มเหลว โดยเฉพาะสถานการณ์ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ยังมีเหตุรุนแรงอยู่ว่า เป็นข้อกล่าวหาของพรรคเพื่อไทยที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง เพราะนโยบายด้านความมั่นคงของรัฐบาลชุดนี้เป็นที่ยอมรับของนานาชาติ โดยเฉพาะตัวรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ที่มีประสบการณ์ มีความรู้ความสามารถก็เคยเป็นอดีตปลัดกระทรวงและอดีตเอกอัคราชฑูตในหลายประเทศ สามารถทำงานได้เลย โดยไม่ต้องเรียนรู้งาน เช่นกรณีที่มีการจัดการประชุมอาเซียนซัมมิทที่ผ่านมาถึง 2 ครั้ง แม้จะถูกคนเสื้อแดงป่วนหรือพยายามขัดขวาง แต่รัฐบาลก็สามารถฟันฝ่าอุปสรรคผ่านไปได้
นายเทพไทกล่าวว่า การที่พรรคเพื่อไทยออกนโยบายไทยร่มเย็น เพื่อออกมาแข่งขันกับรัฐบาลก็ถือว่าเป็นเรื่องที่สามารถทำได้ เพราะประชาชนจะได้มีข้อเปรียบเทียบกัน แต่ไม่ใช่การใช้วิธีการดิสเครดิตประเทศชาติ ที่ทำให้ประเทศชาติเสียหาย อย่างเช่นที่ไปเยือนประเทศกัมพูชาที่ผ่านมา รวมถึงการจะไปเยือนมาเลเซียและประเทศพม่าในเร็วๆ นี้ด้วย แต่แปลกใจว่า ทำไมไม่มีชื่อประเทศลาวอยู่ในแผนด้วย หรือว่ายุทธการสู้รบกับทหารลาวที่บ้านร่มเกล้ายังคงตามหลอกหลอนในใจตลอดเวลา
นายเทพไทกล่าวว่า การที่ พล.อ.ชวลิต จะลงพื้นที่ชายแดนภาคใต้เพื่อแก้ปัญหา เป็นเรื่องเพ้อฝันเป็นไปไม่ได้ ซึ่งดูได้จากการให้สัมภาษณ์ของกลุ่มวาดะห์ ที่เป็นลูกน้องเก่าของ พล.อ.ชวลติ ที่ระบุว่าการเยือนมาเลเซียของ พล.อ.ชวลิต ก็ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ใด และไม่มีน้ำยาเพียงพอที่จะแก้ไขปัญหา 3 จังหวัดภาคใต้ได้ เพราะเหตุการณ์ความไม่สงบของชายแดนภาคใต้ไม่เกี่ยวข้องกับต่างประเทศ เพราะเป็นเรื่องภายใน และเกิดขึ้นในยุคของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่เป็นคนที่ออกมาระบุว่าเป็นเพียงกลุ่มโจรกระจอก จะแก้ปัญหาให้เสร็จภายใน 3 เดือนจากนั้น ก็เกิดเหตุการณ์ปล้นปืนในค่ายทหาร ที่ไม่เคยเกิดขึ้นในไทยมาก่อน และตามมาด้วยการอุ้มฆ่า รวมถึงเหตุการณ์ที่มัสยิดกรือเซะ และที่ สภ.ตากใบ ล้วน มีต้นเหตุมาจากรัฐบาลสมัย พ.ต.ท.ทักษิณ ทั้งสิ้น
“การที่พรรคเพื่อไทยประกาศนโยบาย “ไทยร่มเย็น เป็นมิตรกับเพื่อนบ้าน” เป็นเพียงแค่การสร้างภาพทางการเมือง เพื่อมารองรับบทบาทของ พล.อ.ชวลิต มากกว่าในทางปฏิบัติ หากดูพฤติกรรมของ พล.อ.ชวลิต ก็น่าจะเปลี่ยนนโยบายนี้เป็น “ไทยร้อนรุ่ม ชักศึกเข้าบ้าน” ซึ่งตรงกับแนวทางการดำเนินนโยบายด้านต่างประเทศของ พล.อ.ชวลิต มากกว่า”
นายเทพไทกล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยออกมาวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจว่า มีการเล่นพรรคเล่นพวกนั้น ขอยืนยันว่ารัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ จะไม่ปล่อยให้มีการเล่นพรรคเล่นพวกและซื้อขายตำแหน่งอย่างแน่นอน เพราะแนวทางของพรรครังเกียจวิธีการแบบนี้ เพราะการซื้อขายตำแหน่งเป็นการลงทุน และจะถอนทุนคืนจะทำให้ประชาชนเดือดร้อน จากการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจได้
ส่วนข้อกล่าวหาเรื่องการโยกย้ายเพื่อเตรียมการเลือกตั้งนั้น นายเทพไทกล่าวว่า รัฐบาลจะไม่ใช้ตำรวจเป็นเครื่องมือทางการเมือง และจะไม่มีการใช้อำนาจนอกระบบเข้ามายุ่งเกี่ยวกับการเลือกตั้ง เหมือนตอนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นหัวหน้ารัฐบาล และเชื่อว่าการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นก็ยังอีกยาวไกล ซึ่งดูจากผลโพลชี้ชัดว่าประชาชนส่วนใหญ่ยังให้ความมั่นใจกับรัฐบาลชุดนี้ โดยเห็นว่ารัฐบาลจะมีอายุเกิน 6 เดือน สูงถึงร้อยละ 54.3 และในส่วนของพรรคร่วมรัฐบาลยังคงมีความเป็นปึกแผ่น ที่จะร่วมมือกันเป็นรัฐบาลเพื่อนำประเทศชาติพ้นวิกฤติไปให้ได้ จนอายุรัฐบาลชุดนี้ครบวาระ
ส่วนเรื่องข้อกล่าวหาเรื่องรักษาการ ผบ.ตร.ที่ไม่สามารถแต่งตั้งข้าราชการตำรวจได้นั้น ตนคิดว่าเป็นเรื่องการไม่เข้าใจในระเบียบตาม พ.ร.บ.สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าผู้รักษาการ ผบ.ตร.มีอำนาจหน้าที่เหมือนกับ ผบ.ตร.ตัวจริงทุกประการ อำนาจใดที่เป็นหน้าที่ของ ผบ.ตร. รักษาการ ผบ.ตร.ก็สามารถทำได้ และมีผลตามกฎมหาย เพราฉะนั้น การเป้นรักษาการ ผบ.ตร. จะไม่เป็นอุปสรรคต่อการโยกย้ายข้าราชการตำรวจ ในครั้งนี้อย่างแน่นอน จึงไม่อยากให้พรรคเพื่อไทยกล่าวหาใส่ร้ายเลื่อนลอย รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์โดยปราศจากข้อมูลและข้อเท็จจริง โดยสร้างจิตนาการและเข้าใจว่าสิงที่ตัวเองเคยทำในอดีตแล้ว รัฐบาลชุดนี้จะทำเหมือนตนเองด้วย ขอยืนยันว่ารัฐบาลชุดนี้จะไม่เอาเยี่ยงอย่างรัฐบาลโจรอย่างแน่นอน