ASTVผู้จัดการ - “กอร์ปศักดิ์” เขียนคอลัมน์เผย ปี 2538 เคยไปพบ “ราเกซ” ที่แวนคูเวอร์ แคนาดาจริง แถมได้ข้อมูลมาอภิปรายไม่ไว้วางใจเพียบ พร้อมเจ้าตัวลงลายมือยืนยัน แต่ปัดไม่ถึงขั้นเป็นหลักฐานเอาผิดใครตามกฎหมาย
คลิกที่นี่ เพื่อชมวิดีโอคลิปทั้งหมด
จากกรณีที่เมื่อวันศุกร์ (30 ต.ค.) ที่ผ่านมา มีการนำตัวนายราเกซ สักเสนา อดีตผู้บริหารธนาคารกรุงเทพพาณิชย์การ (บีบีซี) และผู้ต้องหาคดียักยอกทรัพย์บีบีซี เป็นผู้ร้ายข้ามแดนกลับมาจากประเทศแคนาดา โดยในการนำตัวนายราเกซกลับมาดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรมครั้งนี้ ได้มีสื่อมวลชนหลายแขนงออกมาชี้ว่า นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรีและเลขาธิการนายกรัฐมนตรี น่าจะเป็นผู้หนึ่งที่มีข้อมูลเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวมากที่สุด เนื่องจากเป็นผู้ที่เคยเดินทางไปสัมภาษณ์นายราเกซถึงประเทศแคนาดาและมีการค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวเป็นจำนวนมากเพื่อใช้ในการอภิปรายในรัฐสภา โดยข้อมูลดังกล่าวอาจเชื่อมโยงไปถึงนักการเมือง “กลุ่ม 16” ซึ่งปัจจุบันกระจายตัวไปสังกัดอยู่กับทั้งพรรคภูมิใจไทยและพรรคเพื่อไทยได้
วานนี้ (1 พ.ย.) นายกอร์ปศักดิ์ ได้เขียนบทความเปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวในเว็บไซต์ส่วนตัว www.korbsak.com โดยระบุว่า ในปี 2538 ตนเองได้เดินทางไปพบนายราเกซจริง ณ คฤหาสน์หรูริมทะเลสาบ ณ เมืองแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา พร้อมกับนายพินิจ จารุสมบัติ และ นายจุติ ไกรฤกษ์ โดยบทความดังกล่าวของนายกอร์ปศักดิ์ มีรายละเอียดดังนี้
“ผมได้พบนายราเกซ สักเสนา ครั้งแรกที่สนามกอล์ฟนวธานี ช่วงนั้นผมเป็นส.ส.สมัยแรก ปี 2529 สังกัดพรรคชาติไทย ท่านชาติชายหัวหน้าพรรคเป็นรองนายกฯ ก๊วนกอล์ฟในวันนั้นมีกันกว่า 30 คน ผมจำ นายราเกซได้แม่นก็เพราะนายราเกซจะใช้โทรศัพท์มือถือในระหว่างการเล่นกอล์ฟจนน่ารำคาญโทรศัพท์มือถือสมัยนั้นเป็นระบบอนาล๊อก ใหญ่เทอะทะทีเดียว
ถามพรรคพวกว่าคนๆ นี้มีอาชีพอะไร ได้รับคำตอบว่าเป็นพ่อมดการเงิน และเข้าใจว่าใช้โทรศัพท์ซื้อขายหุ้นในระหว่างเล่นกอล์ฟ หลังจากนั้นก็เจอกันอีกครั้งหรือสองครั้ง ที่สนามกอล์ฟนวธานีเช่นเคย จนกระทั่งผมต้องใช้เวลาออกบ้านนอกหาเสียงมากขึ้น ทำให้ต้องห่างสนามกอล์ฟ ไม่ได้พบกับนายราเกซอีกเลย
มาได้ยินชื่อนายราเกซอีกครั้งจากปากของ คุณตั้ว (เกริกเกียรติ ชาลีจันทร์) พบคุณตั้วบนเครื่องการบินไทยขากลับจากฮ่องกง คุณตั้วบ่นว่าต้องรีบกลับกรุงเทพฯ ไปหย่าศึกระหว่างสองที่ปรึกษาใหญ่ของธนาคารบีบีซี นายราเกซ และ ดร.โกร่ง สองคนนี้กำลังทะเลาะกันอย่างแรง เท็จจริงอย่างไรไม่ทราบ ไม่ได้สอบถามเพิ่ม รู้ว่าถามเขาก็คงไม่มีคำตอบ
สุดท้ายได้พบกับนายราเกซ ช่วงปี 2538 ทีมของพวกเราไปหานายราเกซถึงคฤหาสน์หรู ริมทะเลสาบ แวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา ต้องผ่านด่านรักษาความปลอดภัย เป็นทหารรับจ้างคอหนังชาวอังกฤษที่นายราเกซจ้างไว้ เห็นตัวเป็นๆ ในวันนั้นกว่า 6 คน ที่ไม่เห็นคงมีอีกจำนวนหนึ่ง ทราบต่อมาจากปากนายราเกซว่ากลัวนักการเมืองไทยส่งคนมาตามล่า
ทีมที่ได้พบนายราเกซมีอยู่ 3 คนจาก3 พรรคการเมืองฝ่ายค้านในขณะนั้น ปชป. ส่งคุณจุติ ไกรฤกษ์ คุณพินิจ จารุสมบัติ จากพรรคเสรีธรรม และผมจากพรรคชาติพัฒนา ผมเดินทางไปสหรัฐฯก่อน หาโอกาสไปเยี่ยมลูกชายที่เรียนอยู่ที่ซานฟรานฯ คุณจุติ และคุณพินิจตามมาสมทบ เราทั้งสามบินตรงจากซานฟรานซิสโกไปแวนคูเวอร์ แคนาดา เพื่อพบกับนายราเกซ สักเสนา
ใช้เวลาเพียงครึ่งวัน ได้สัมภาษณ์และมีการอัดเทปไว้ด้วย ถ้าเป็นสมัยนี้น่าจะได้ถ่ายรูปขึ้นทวิตเตอร์ให้ได้ดูกันทั่วหน้า ข้อมูลที่เปิดเผยจากปากของนายราเกซมีมากเหมือนกัน แต่ไม่มีที่เป็นหลักฐานชัดๆ เพราะนายราเกซอ้างว่าเก็บไว้ที่กรุงเทพฯ ต่อมาเมื่อเดินทางกลับเมืองไทย ได้มีการประสานงานต่ออย่างต่อเนื่องและนายราเกซได้ส่งข้อมูลเพิ่มเติมมาให้ ทีมงานได้ใช้ข้อมูลบางส่วนในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลของท่านนายกฯ บรรหารในขณะนั้น
นำมาเล่าให้ฟังเพราะสองสามวันนี้มีข่าวลงในหน้าหนังสือพิมพ์ จึงอยากที่จะนำสิ่งที่ได้เกิดขึ้นจริงมาเล่าให้ฟัง มีการพูดกันว่าผมมีข้อมูลที่สำคัญอยู่ในมือ ตอบได้ว่ามี แต่ไม่ใช่หลักฐานที่สามารถจะนำไปกล่าวโทษใครได้ เป็นเพียงคำบอกเล่าที่นายราเกซได้ลงนามกำกับว่าพูดจริง แต่พิสูจน์ไม่ได้ ผมจึงไม่ได้นำมาเปิดเผย ยกเว้นส่วนที่ใช้ในการอภิปรายในสภา ที่มีหลักฐานประกอบข้อกล่าวหาครบ ใครที่สนใจน่าจะค้นหาได้ไม่ยากนักที่ห้องสมุดรัฐสภา
นายราเกซได้ฉายานามว่าเป็นพ่อมด ต้องไม่ธรรมดา เชื่อได้ว่าสิ่งที่เขาได้ดำเนินการไป ไม่ว่าจะเกี่ยวข้องกับใคร แบบไหน อย่างไร เขาน่าจะมีหลักฐานเก็บไว้มากพอสมควร น่าจับตามองข้อต่อสู้คดีของนายราเกซ ว่าจะมีเนื้อหาทำให้ใครนั่งไม่ติดบ้าง
สำคัญที่สุดสำหรับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในขณะนี้คือ อย่าให้มีอันตรายใดๆ เกิดขึ้นกับ นายราเกซ สักเสนา เป็นอันขาดเพราะจะทำให้บรรดาผู้ที่หลบหนีคดีอยู่ในต่างประเทศทั้งหลาย ใช้เป็นข้ออ้างในการขอลี้ภัยทางการเมืองได้ เรียกว่าเข้าทางฉันกันเลยทีเดียว”