ศาล รธน.รับเรื่อง “เกียรติกร”ไว้พิจารณาแล้ว พร้อมเปิดเจ้าตัวชี้แจง

ปธ.สภาฯ ส่งเรื่อง “เกียรติกร” ถึงมือศาลรัฐธรรมนูญ ระบุให้โอกาสเจ้าตัวชี้แจง พูดจริงหรือพูดเล่น แต่หากโต้แย้งเรื่องข้อกฎหมาย เตรียมปรับเข้ากลับหลักกฎหมายรัฐธรรมนูญ ฟันธงให้ออก-ไม่ออกได้เลย

วันนี้(31 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ได้ส่งความเห็นชอบ ต่อนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร กรณีที่ กกต.มีความเห็นว่า นายเกียรติกร พากเพียรศิลป์ ส.ส.ปราจีนบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ได้สิ้นสุดความเป็นสมาชิกภาพลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 106 (3) เนื่องจากนายเกียรติกร ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนที่รัฐสภา โดยประกาศเจตนารมณ์ ว่า ขอลาออกจากการเป็น ส.ส. ดังนั้น กกต.จึงร้องขอให้ประธานสภาฯดำเนินการตามมาตรา 91 วรรคท้ายที่กำหนดว่า กรณีที่ กกต.เห็นว่าสมาชิกภาพของส.ส. หรือ ส.ว.คนใดคนหนึ่งมีเหตุสิ้นสุดลงตามมาตรา 106 ( 3) ให้ส่งเรื่องนั้นไปยังประธานแห่งสภาที่ผู้นั้นเป็นสมาชิก แล้วให้ประธานสภา ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัย

ทั้งนี้รายงานข่าวจากศาลรัฐธรรมนูญ แจ้งว่า คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ได้พิจารณารับคำร้องของนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาคุณสมบัติการสิ้นสภาพ ส.ส.ของนายเกียรติกร พากเพียรศิลป์ ส.ส.ปราจีนบุรี พรรคประชาธิปัตย์ เนื่องจากนายเกียรติกร เคยแถลงข่าวต่อสาธารณะขอลาออกจาก ส.ส. โดยขณะนี้อยู่ในขั้นตอนแจ้งให้ นายเกียรติกร เข้าชี้แจงหรือทำหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริง มายังสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ

รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับแนวทางการพิจารณาจะต้องรอดูคำชี้แจงของนายเกียรติกร ว่าโต้แย้งในประเด็นข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมาย หากโต้แย้งในเรื่องข้อเท็จจริง อาทิ ไม่ได้แถลงอย่างที่เป็นข่าวหรือการแถลงในลักษณะพูดเล่น จำเป็นต้องสอบพยานแวดล้อมว่านายเกียติกร พูดเช่นนั้นจริงหรือไม่ พูดด้วยความจริงจังหรือไม่ อย่างไรก็ตาม จะต้องพิจารณาว่าตำแหน่งส.ส.เป็นตำแหน่งที่มีแบบฟอร์มลาออกหรือไม่และต้องให้ใครอนุมัติหรือไม่ เพราะบางตำแหน่ง แค่แสดงเจตนาว่าจะไม่ปฏิบัติหน้าที่ ก็เท่ากับลาออกจากตำแหน่งนั้นแล้วและมีผลสมบูรณ์ แต่หากโต้แย้งเรื่องข้อกฎหมายจะต้องนำรัฐธรรมนูญมาพิจารณาเป็นหลัก และคงจะตัดสินใจได้เลยเนื่องจากเป็นเรื่องของกฎหมาย