“เทพไท” แนะ “แม้ว” ดู “รักเกียรติ” เป็นตัวอย่าง ทำผิดยอมติดคุกเพื่อให้มีแผ่นดินอยู่

“โฆษกส่วนตัวมาร์ค” ย้อน “ไข่แม้ว” ไปศึกษาประวัติศาสตร์ก่อนกล่าวหา “ชวน” คืนยศให้ “จอมพลถนอม” พร้อมเย้ย “นช.แม้ว” ให้ดู “รักเกียรติ” เป็นตัวอย่างนักโทษที่ดี ทำผิดยอมติกคุกจนทำความดีได้รับการละเว้นโทษเพื่อให้มีแผ่นดินอยู่ ไม่ต้องหนีหัวซุกหัวซุน ด่าลิ่วล้อแม้วอย่าตีเกราะเคาะกะลาสร้างราคาให้นายใหญ่ จี้หาสปิริตรองประธานสภาทำหน้าที่เอนเอียง

วันนี้ (30 ต.ค.) นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่มีการถอดยศของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า เรื่องนี้มีขั้นตอนและกระบวนการที่ดำเนินการมานานแล้ว รัฐบาลไม่ได้เร่งรัดตามที่ถูกฝ่ายค้านยกประเด็นนี้ขึ้นมากล่าวหาแต่อย่างใด และไม่ทราบว่าเรื่องนี้จะบังเกิดผลในการปฏิบัติเมื่อใด เพราะต้องเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย แต่ก็ยังมีแกนนำ นปช.และคนในพรรคเพื่อไทย ออกมาแก้เกี้ยวโดยมีความพยายามกล่าวหาและพาดพิงถึงพรรคประชาธิปัตย์ในยุคของ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ช่วงที่เป็นนายกฯ ว่า มีการคืนยศทหารให้จอมพลถนอม กิตติขจร ซึ่งกรณีนี้ขอยืนยันว่า จอมพลถนอม ไม่ได้ถูกถอดยศใดๆ และพรรคประชาธิปัตย์ โดยรัฐบาลของนายชวน เองก็ไม่ได้มีการคืนยศใดๆ ให้ตามที่ถูกกล่าวหา จึงขอเรียกร้องให้แกนนำคนเสื้อแดงกลับไปศึกษาประวัติศาสตร์ว่า ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร และไม่อยากให้ตีสำนวนข้างๆ คูๆ ว่า พ.ต.ท.ทักษิณถูกปลดแต่คืนยศให้ทรราช ซึ่งเป็นการใช้สำนวนโวหารที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง ตามที่แกนนำนปช.กล่าวอ้างกันอยู่ในช่วงนี้

นายเทพไท กล่าวต่อว่า ส่วนความเคลื่อนไหวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ยังดิ้นรนต่อสู้กับกระบวนการยุติธรรมตลอดเวลาที่ผ่านมา แต่ก็มีปรากฏการณ์ทางการเมือง คือ กรณีของ นายราเกซ สักเสนา อดีตที่ปรึกษากรรมการผู้จัดการธนาคารกรุงเทพฯพาณิชย์การ จำกัด (มหาชน) ที่ถูกศาลฎีกาของประเทศแคนาดา วินิจฉัยชี้ขาดให้ส่งตัวกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย หลังพยายามต่อสู้มากว่า 10 ปี จึงขอให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เห็นว่า กฎหมายไทยและสนธิสัญญาการส่งผู้ร้ายข้ามแดนของไทย และประเทศคู่สัญญายังสามารถบังคับใช้ได้ และ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็หนีไม่พ้นหากไปพำนักอยู่ในประเทศคู่สัญญากับไทย

โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อว่า อยากให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ดูกรณีของนายรักเกียรติ สุขธนะ อดีต รมว.สาธารณสุข ที่ต้องโทษจากคดีการทุจริตเรื่องซื้อยาและเวชภัณฑ์ ที่ได้รับการพักโทษจากเรือนจำเพราะเป็นผู้ต้องขังชั้นดีเยี่ยม จึงอยากให้ลิ่วล้อของพ.ต.ท.ทักษิณ ช่วยตัดคำให้สัมภาษณ์ของนายรักเกียรติ ที่ระบุไว้ว่า “โชคดีที่ถูกจับติดคุก ถ้าวันนั้นยังหนีไปก็อาจลำบาก หรืออาจไม่มีแผ่นดินอยู่” ซึ่งอาจจะเหมือนกับ พ.ต.ท.ทักษิณ วันนี้ที่กลับมาสู้คดีกับกระบวนการยุติธรรม ก็ไม่ต้องคอยหลบหนี หรือเคลื่อนไหวให้เกิดความแตกแยกซ้ำเติมทุกข์ของคนในชาติอย่างที่เป็นอยู่

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะมาลอยกระทงที่ประเทศกัมพูชา นายเทพไท กล่าวว่า คนเหล่านี้พยายามสร้างข่าวตลอดเวลา ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่ที่ต่างๆ ตั้งแต่เรื่องสมเด็จฯ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา จะสร้างบ้านให้อยู่ ต่อมามีข่าวคนพรรคเพื่อไทยเตรียมจัดทัวร์ไปเยี่ยม พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวเป็นการตีเกราะเคาะกะลา ซึ่งการสร้างข่าวของพรรคเพื่อไทย ไม่มีข้อเท็จจริง จึงอยากให้มีการกลั่นกรองก่อนให้ข่าวไม่ใช่ต้องการเพื่อมาชิงพื้นที่สื่อ โดยเฉพาะ นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย ที่มักออกมาให้ข่าวที่ไม่จริงตลอด แต่สุดท้ายก็ไม่มีอะไร เหมือนกรณีที่ระบุว่าจะมีบิ๊กเซอร์ไพรส์ในวันเกิดของ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่สุดท้ายก็ไม่มี

ส่วนกรณีที่กล่าวหาว่ารัฐบาลหยิบเรื่องการถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ เพื่อกลบข่าวต่างๆ นั้น นายเทพไท กล่าวว่า ยืนยันว่า รัฐบาลไม่รู้ล่วงหน้า ว่า มีการถอดยศ เพราะเป็นไปตามขั้นตอนตามกฎหมายที่กองคดีของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เป็นผู้ยื่น ดังนั้น จึงไม่เป็นความจริง เพราะรัฐบาลพยายามหลีกเลี่ยงข่าวไม่ว่าจะเป็นบวกหรือลบต่อฝ่ายใดก็ตาม เนื่องจากไม่เป็นผลดีต่อการสร้างความสมานฉันท์ในบ้านเมือง

เมื่อถามว่า นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ระบุว่า การถอดยศพ.ต.ท.ทักษิณ จะทำให้บ้านเมืองลุกเป็นไฟ นายเทพไท กล่าวว่า เป็นการพูดข่มขู่สังคม และปลุกระดมคนเสื้อแดง ที่ต้องการหาเหตุผลในการเคลื่อนไหว เพราะตอนนี้ไม่มีใครอยากให้การเมืองวุ่นวาย คนเสื้อแดงจึงไม่มีเหตุในการเคลื่อนไหวอีก

ส่วนกรณีการตั้งกระทู้ถามสดของ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ที่ระบุว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ในการนำข้าราชการทหารและตำรวจระดับชั้นนายพลเข้าเฝ้าฯ นายเทพไท กล่าวว่า นายอภิสิทธิ์ ได้ชี้แจงกรณีดังกล่าวหลายครั้ง แต่ นายจตุพร ก็ยังนำเรื่องนี้มาพูด เพื่อโยงมาเรื่องความจงรักภักดีที่สังคมยังคลางแคลงใจในตัวพ.ต.ท.ทักษิณ จึงยกกรณีของนายอภิสิทธิ์มากล่าวอ้าง ซึ่งหน้าที่การนำเข้าเฝ้านั้น รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง ก็สามารถทำได้ตามสายงาน และตามประเพณีปฏิบัติถือว่าทำได้ ดังนั้น การพูดเรื่องนี้อีกครั้งจึงเป็นการใส่ร้ายนายอภิสิทธิ์ในเรื่องความจงรักภักดี เหมือนกรณีที่นายอภิสิทธิ์เข้าเฝ้า เพื่อรับฟังพระบรมราโชวาท ซึ่งมีการโจมตีว่าไม่บังควร โดยนายอภิสิทธิ์ได้ฟ้องดำเนินคดีผู้กล่าวหาแล้ว

“เรื่องนี้หาก นายจตุพร อยากพูด ก็ขอให้มาพูดนอกสภาฯ เพราะจะได้ไม่มีเอกสิทธิ์ส.ส.คุ้มครอง และนายกฯอภิสิทธิ์สามารถฟ้องร้องได้ รวมถึงกรณีที่กล่าวหาว่านายอภิสิทธิ์ยื่นหลักฐานเท็จเรื่องการเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ต่อ กกต.ภายหลังการเป็นส.ส.นั้น เรื่องนี้ได้มีการชี้แจงไปหลายครั้ง ซึ่งคนเหล่านี้พยายามหาเรื่องเล็กๆ น้อยๆ มาโจมตี นายอภิสิทธิ์ ต่อไปคงมีการนำสูติบัตรมาโจมตีว่าแจ้งเกิดไม่ตรงกับเวลาจริง” นายเทพไท กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีการทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมของรองประธานสภา ทั้ง 2 คน ว่า มีการเอนเอียงหรือไม่ นายเทพไท กล่าวว่า ที่ผ่านมา มีการพูดและวิจารณ์เรื่องดังกล่าวหลายครั้ง ซึ่งเราไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะเป็นเรื่องของสปิริต นอกจากนี้ ที่ผ่านมา ประมุขฝ่ายนิติบัญญัติเป็นคนของรัฐบาล แต่เมื่อการเมืองเปลี่ยนขั้วทำให้คนเหล่านี้ยังอยู่ จึงทำให้เกิดความแคลงใจว่ามีความลำเอียงหรือไม่ จึงมีการเรียกร้องให้ทบทวนบทบาทและพิจารณาตัวเองว่าทำหน้าที่ได้หรือไม่ ซึ่งทุกฝ่ายต้องช่วยกันจับตาการทำหน้าที่คนเหล่านี้ต่อไป

เมื่อถามว่า นายชัย ชิดชอบ ประธานสภา รู้เห็นเรื่องนี้ด้วยหรือไม่ เพราะที่ผ่านมา นายชัย ก็ให้คนเหล่านี้ปฏิบัติหน้าที่แทนตลอด นายเทพไท กล่าวว่า นายชัย เองก็ไม่ทราบสาเหตุเรื่องดังกล่าว แต่นายชัยควรฟังเสียงรอบข้าง และหารือรองประธานสภาทั้ง 2 คน เพื่อให้การทำหน้าที่ต่อไปราบรื่น