“นพเหล่” ขู่! ถอดยศ “แม้ว” เพิ่มชนวนรุนแรง จี้ รบ.รับผิดชอบ

“นพดล” ขึงขัง “นายใหญ่” ถูกถอดยศ โวยการเมืองบีบกฤษฎีกาเสนอความเห็น แถได้อีกบอกคดีที่ดินรัชดาฯ ไม่มีการทุจริตแต่ถูกกลั่นแกล้งหลังรัฐประหาร ขู่กลายเป็นชนวนเพิ่มรุนแรง ขณะที่ “เด็จพี่” จวกอย่าไล่ให้จนตรอก อ้างสมานฉันท์ไม่เกิด จี้ระงับ-ทบทวนโครงการเช่ารถเมล์เอ็นจีวี 4 พันคัน

คลิกที่นี่ เพื่อชมวิดีโอคลิปทั้งหมด

วันนี้ (28 ต.ค.) นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่คณะกรรมการกฤษฎีกาทำความเห็นถึงสำนักเลขาธิการ ครม. เสนอให้ถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ พร้อมกับริบเครื่องราชฯ คืนว่า เบื้องต้นได้คุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณบ้างแล้ว คิดว่ารัฐบาลพยายามสร้างความชอบธรรมในการดำเนินการเรื่องนี้โดยใช้คณะกรรมการกฤษฎีกามาอ้างอิงข้อกฎหมาย เชื่อว่าคณะกรรมการกฤษฎีกาก็ถูกบีบจากฝ่ายการเมืองจึงเสนอความเห็นออกมา สำหรับยศของ พ.ต.ท.ทักษิณนั้นได้รับพระราชทานจากการทำงานเป็นข้าพระบาท ทำด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ การที่รัฐบาลนำเอาคดีที่ดินรัชดาภิเษกมาริบเครื่องราชฯ และถอดยศนั้น อย่าลืมว่าคดีนี้เป็นคดีการเมืองที่ไม่มีการทุจริตคอร์รัปชัน และเกิดภายหลังการยึดอำนาจ โดยผู้ตัดสิน คือ คตส.ซึ่งทราบกันดีว่าเป็นปฏิปักษ์กับ พ.ต.ท.ทักษิณ รัฐบาลชุดนี้ดิสเครดิตและจ้องทำร้าย พ.ต.ท.ทักษิณทุกวิถีทาง กระทำการ 2 มาตรฐาน เนื่องจากหลายคดีที่นายตำรวจ ทหาร มีความผิดร้ายแรงกว่า พ.ต.ท.ทักษิณ แต่ไม่มีการดำเนินการถอดยศ จึงเกรงว่าการกระทำของรัฐบาลอาจเป็นการสร้างความร้าวฉาน ความแตกแยกให้สังคมมากขึ้นไปอีก หากเกิดความไม่ปรองดองหรือเกิดความวุ่นวาย เกิดความรุนแรงขึ้น รัฐบาลต้องรับผิดชอบ 9 เดือนที่ผ่านมารัฐบาลประสบความล้มเหลวในการสร้างความสมานฉันท์ ดังนั้นจึงอยากเรียกร้องให้รัฐบาลนำเวลาไปทำเรื่องนี้รวมทั้งไปแก้ไขปัญหาความทุกข์ยากของประชาชน อย่ามัวแต่หมกมุ่น หวาดกลัว อดีตนายกรัฐมนตรีจนไม่เป็นอันทำอะไรที่เป้นประโยชน์ต่อบ้านเมือง

ด้าน นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าวว่า การเสนอความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกานั้นรัฐบาลน่าจะอยู่เบื้องหลัง หากรัฐบาลดำเนินการถอดยศและริบเครื่องราชฯ ของ พ.ต.ท.ทักษิณจริงก็จะเป็นการเติมเชื้อไฟให้คนออกมาชุมนุมกับกลุ่มคนเสื้อแดงเพิ่มมากขึ้น คิดว่ารัฐบาลกำลังใช้มุกเก่าเล่นเกมการข่าวเพื่อกลบข่าวความล้มเหลวต่างๆ ของรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นกรณีรถไฟที่หยุดเดิน สภาพเศรษฐกิจ ความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน รวมทั้งกลบเกลื่อนผลโพลสำรวจคะแนนนิยมที่พบว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี มีคะแนนต่ำกว่า พ.ต.ท.ทักษิณ อยากขอร้องให้รัฐบาลคิดเรื่องนี้ให้รอบคอบก่อนที่จะทำอะไรลงไป เพราะการทำลายล้างกันให้จนตรอกนั้นจะสมานฉันท์ได้อย่างไร

นายพร้อมพงศ์ยังกล่าวถึงกรณีที่ ป.ป.ช.ตั้งคณะทำงานขึ้นมาพิจารณาศึกษาถึงผลดีผลเสียโครงการเช่ารถเมล์เอ็นจีวี 4,000 คันของ ขสมก.โดยมีนายต่อตระกูล ยมนาค เป็นประธาน และล่าสุดได้ประเมินออกมาว่าโครงการดังกล่าวมีพิรุธ ส่อขาดทุนแน่นอน ซึ่งจะนำข้อมูลเสนอนายกรัฐมนตรีภายใน 1-2 วัน พร้อมกับระบุว่า หากเกิดผลเสียในภายหลังนายกรัฐมนตรีอาจเข้าข่ายผิดกฎหมายตามมาตรา 157 ด้วยว่า โครงการดังกล่าวน่าจะมีการล็อคสเปคเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทเอกชนบางบริษัท ฝ่ายค้านก็ได้ท้วงติงมาตลอด อีกทั้งวันนี้ก็มีผลการศึกษาของหน่วยงาน ป.ป.ช.ออกมาในทิศทางเดียวกัน ดังนั้น จึงอยากให้นายอภิสิทธิ์ระงับหรือทบทวนโครงการเช่ารถเมล์เอ็นจีวี 4,000 คันโดยเร็ว เนื่องจากเป็นโครงการที่มีงบประมาณสูง จะเป็นภาระต่อภาษีอากรของประชาชนในอนาคต การดำเนินการต่างๆ จะไม่คุ้มทุน ถ้ารัฐบาลยังปล่อยให้โครงการนี้ดำเนินต่อไปก็อาจจะเข้าใจได้ว่าทำการเอื้อประโยชน์ให้กับพรรคร่วมรัฐบาลที่ดูแลโครงการนี้