xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กจิ๋ว” ทำมึน บอกคนด่าขายชาติแค่ติติง เนียนน้อมรับคำวิจารณ์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ
“แท็กซี่หางแดง” รุดให้กำลังใจ “บิ๊กจิ๋ว” ถึงพรรค เจ้าตัวลั่นพร้อมต่อสู้ต่อไม่ไปไหน ลั่นเป็นภารกิจสุดท้าย เผย 3 พ.ย.ลงพื้นที่ 5 จว.ใต้ พร้อมแวะทักทาย “นาจิบ ราซัค” ที่มาเลเซียอ้างไปทำงานให้ กมธ.กิจการชายแดน สภาฯ พร้อมบอกไม่สนคนข่าวด่าขายชาติ ยังด้านน้อมรับฟัง ก่อนหยอดมุกฝืดทำนักข่าวมึนตึ้บ

วันนี้ (27 ต.ค.) ที่พรรคเพื่อไทย เมื่อเวลา 13.45 น. กลุ่มแท็กซี่สุวรรณภูมิประมาณ 5-6 คนเดินทางมามอบดอกไม้ให้กำลังใจ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ แกนนำพรรคเพื่อไทย เพื่อให้ต่อสู้ อย่าหวั่นไหวต่อการสร้างกระแสรักชาติเพียงคนเดียว ซึ่ง พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ขอรับรองจะไม่ไปไหน เพราะเป็นภารกิจอันสุดท้ายที่ต้องทำให้ได้ 71 ปีแล้วยังทำไม่สำเร็จ แต่จะต้องทำให้ได้

จากนั้น พล.อ.ชวลิต กล่าวถึงกรณีที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นคนชักศึกเข้าบ้าน หลังจากเดินทางไปพบสมเด็จฯ ฮุนเซนว่า บ้านไหน อย่าไปต่อว่า เพราะทุกคนห่วงใยบ้านเมือง แต่ในรายละเอียดอาจจะเข้าใจผิดกันได้ แต่ก็ไม่เป็นไร พี่น้องกันทั้งนั้น แต่เมื่อท่านพูดมาเราก็ต้องพึงระวังในการทำงานให้บ้านเมือง ซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ยิ่งเป็นเรื่องใหญ่ก็จะยิ่งมีปัญหา แต่ก็เข้าใจว่าที่ท่านพูดนั้นเป็นความหวังดี

ผู้สื่อข่าวถามถึงบทบาทที่จะเดินทางไปเยือนประเทศพม่าและมาเลเซียจะเป็นอย่างไร พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ปกติแล้วจะต้องลงไปที่ 5 จังหวัดภาคใต้ในวันที่ 28 ต.ค. แต่ต้องชี้แจงกับพรรคเพื่อไทยในวันที่ 29 ต.ค. ดังนั้นจึงต้องเลื่อนไปเป็นวันที่ 3 พ.ย. เพื่อไปดูว่าจะจัดการอย่างไรกับปัญหาใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ สื่อมวลชนคนไหนอยากไปก็ไปด้วยได้ นี่ก็เป็นการทำงานให้บ้านเมืองเหมือนกัน ส่วนที่จะเดินทางไปพม่านั้นไปเพื่อพบใคร พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ก่อนเดินทางไปพม่าต้องไปมาเลเซียก่อน ซึ่งเขาจะมีจดหมายเชิญมา อาจจะเป็นปลายอาทิตย์นี้หรือต้นอาทิตย์หน้า ซึ่งนายนาจิบ ราซัค นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เคยเป็น รมว.กลาโหมเหมือนกับตนในช่วงเวลานั้น ซึ่งคงจะมีโอกาสได้เจอ และพูดคุยแลกเปลี่ยนกันตามประสาเพื่อนบ้าน

พล.อ.ชวลิต กล่าวอีกว่า สำหรับเรื่องของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีนั้น บังเอิญอยู่ในความสนใจของพี่น้อง จึงกินพื้นที่ข่าวที่เราจะต้องการให้เกิดขึ้นเพื่อประโยชน์ของแผ่นดิน เช่น การลดการเผชิญหน้า พื้นที่ติดต่อค้าขายซึ่งกันและกัน รวมถึงข้อขัดแย้งที่มีมานาน และอยากให้องค์กรที่จัดตั้งขึ้นร่วมกันมาทำงานต่อไป ตรงนี้ตนไปทำงานให้กับกรรมาธิการกิจการชายแดน สภาผู้แทนราษฎร แต่ไม่ได้บอกให้ใครรู้ ที่ถามว่าคิดอย่างไรกับการที่มีคนมาบอกว่าขายชาตินั้น เราเคารพการวิพากษ์วิจารณ์ เพราะเขาก็หวังดีกันทั้งนั้น ส่วนผู้นำพม่ามีความสนิทสนมกับ พ.ต.ท.ทักษิณและประเทศก็ไม่เป็นประชาธิปไตยนั้น พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า 20 กว่าปีที่รู้จักกัน ตนเป็นคนแรกที่เดินทางไป เพราะในขณะนั้นไม่มีใครอยากจะไป ดังนั้นจึงมีความเป็นมิตรผูกพันกันมา และเราก็ไม่ได้ไปยุ่งกิจการภายในของเขา ส่วนจะเดินทางไปพบนางอองซานซูจี ด้วยหรือไม่นั้น พล.อ.ชวลิตกล่าวว่า แค่นี้ก็ยุ่งพอแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในตอนท้ายของการให้สัมภาษณ์นั้น พล.อ.ชวลิต บอกว่าจะเล่าอะไรเรื่องหนึ่งให้ฟังเอาไหม เมื่อผู้สื่อข่าวคะยั้นคะยอให้เล่า พล.อ.ชวลิต กลับบ่ายเบี่ยง พร้อมหยอกว่า เล่าแล้วเดี๋ยวเอาไปเขียน แต่ในท้ายที่สุดก็ยอมเล่าว่า “ผมรู้จักกับหัวหน้าคนแรกของ SPDC (สภาสันติภาพและการพัฒนาแห่งรัฐของพม่า) ซึ่งท่านตาน ฉ่วย ไม่ใช่หัวหน้าคนแรก แต่คือท่านซอ หม่อง เมื่อมาเที่ยวเมืองไทยและเราก็อยากเซอร์ไพรส์ให้ท่าน ก็เลยต่อสายให้ ซึ่งปลายสายเป็นเมีย เมื่อท่านซอ หม่อง พูดสาย ก็บอกว่า ที่นี่มีแต่ผู้ชายทั้งนั้นเลย เหมือนกับประเทศไทย” เมื่อเล่าจบก็หัวเราะและเดินไปทันทีท่ามกลางความงุนงงของผู้สื่อข่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น