“อภิสิทธิ์” หารือ “ยูกิโอะ” นายกฯ ญี่ปุ่น หารือไม่เป็นทางการ ยันร่วมมือหลายด้านทั้งเจเทปป้า-ระบบสำรองข้าว พร้อมแจงแนวทางแก้มาบตาพุด นายกฯญี่ปุ่นยินดีในหลวงหายประชวร เสนอตัวจัดให้พรรคประชาธิปัตย์สองชาติหารือร่วมกัน
วันนี้(24 ต.ค.) ที่โรงแรมดุสิตธานี หิวหิน อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี เมื่อเวลา 09.30 น. นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการหารืออย่างไม่เป็นทางการระหว่างนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ฐานะประธานอาเซียน กับนายยูกิโอะ ฮาโตยามา นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นว่า ทั้งสองผู้นำใช้เวลาในการหารือกัน 30 นาที โดยสาระทั่วไปนายอภิสิทธิ์ได้รับทราบถึงความยืนดีที่นายกฯญี่ปุ่นแสดงต่อพระอาการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ได้ออกจากห้องที่ประทับลงมาเยี่ยมเยียนราษฎร ซึ่งนายกฯญี่ปุ่นได้เน้นให้เห็นถึงความสัมพันธ์ใกล้ชิดของราชวงศ์ของไทยและญี่ปุ่นด้วย
นายปณิธาน กล่าวอีกว่า นายกฯญี่ปุ่นได้สนับสนุนและมีความยินดีต่อการเป็นประธานจัดการประชุมอาเซียนครั้งนี้ที่จัดอย่างเรียบร้อย และยังมีการพูดถึงความร่วมมือของไทย-ญี่ปุ่นทั้งเรื่องการเมือง เศรษฐกิจ วัฒนธรรม โดยการหารือยังพูดถึงความร่วมมือทั้งสองฝ่าย ทั้งประเด็นเกี่ยวกับการประชุมกลุ่มประเทศแถบลุ่มแม่น้ำโขงซึ่งนายอภิสิทธิ์ยืนยันที่จะเดินทางไปร่วมประชุมทในวันที่ 3-4 พ.ย. และนอกจากนั้นยังพูดคุยถึงการขยายการค้าหรือเจเทปป้าและความพร้อมของญี่ปุ่นกับส่งเสริมประเด็นแลกเปลี่ยนการแก้ไขปัญหาเรื่องความเปลี่ยนแปลงของสภาพกาอากศ
โฆษกรัฐบาล กล่าวอีกว่า นายกฯญี่ปุ่นยังได้เสนอแนวทางสร้างความร่วมใกล้ชิดกันของนักการเมืองทั้งสองชาติ โดยเสนอให้มีการจัดให้สมาชิกสภาผู้แทนรราษฎรพบปะประสานงานกันมากขึ้น เพราะความสัมพันธ์ที่ดีในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์กับญี่ปุ่นมีมาเป็นเวลาหลายสิบปี ซึ่งนายอภิสิทธิ์ก็ตอบรับและแสดงความยินดีเพราะพรรคประชาธิปัตย์ของไทยและญี่ปุ่นมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันและมีชื่อสอดคล้องกัน และยินดีขยายแนวคิดนี้ไปยังพรรคการเมืองอื่นๆด้วย โดยนายกฯญี่ปุ่นให้มอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจัดให้มีการพบและประสานกันมากขึ้น
“การกระชับความสัมพันธ์อาเซียนกับสภาและนักการเมืองของสองประเทศน่าจะใกล้ชิดกันมากขึ้น ซึ่งตรงกับแนวทางเรื่องการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์หรือยูไอ ในลักษณะที่สมดุล โดยให้ยึดการพัฒนาแบบพอเพียง คือเน้นพัฒนารอบด้าน เพื่อจะได้มีความร่วมมือมากขึ้น”นายปณิธาน กล่าว
นอกจากนี้ยังมีการพูดถึงการจัดประชุมในกลุ่มต่างๆของอาเซียนให้เป็นระบบมากขึ้น เพราะการประชุมหลายรูปแบบน่าจะมีการประสานระบบให้สอดคล้องกระชับและต่อเนื่องซึ่งกันและกันให้มากขึ้น ทั้งนี้ยังมีการพูดถึงความมั่นคงด้านอาหาร มีการพูดถึงมาตรการรองรับเรื่องอาหารและพลังงาน
นายปณิธาน กล่าวต่อไปว่า ยังมีการตอบรับเรื่องของอาเซียนที่พบกับกลุ่มสมัชชาอาเซียน โดยก็จะมีการผลักดันเร่งรัดให้ออกกฎหมายมากขึ้น แต่ทั้งนี้กฎหมายดังกล่าวยังค้างในสภาของหลายประเทศ นอกจากนี้นายกฯญี่ปุ่นยังขอให้รัฐบาลช่วยดูแลส่งเสริมบริษัทของญี่ปุ่นในประเทศไทย ซึ่งนายกฯของไทยก็รับปากที่จะให้การสนับสนุนและสร้างสัมพันธ์และจะขยายความสัมพันธ์ออกไป ส่วนนนายอภิสิทธิ์ขอให้รัฐบาลญี่ปุ่นให้การสนับสนุนเรื่องอาหารและแรงงานที่จะเข้าไปทำงาน ในญี่ปุ่น ทั้งนี้นายกฯของไทยยังได้ชี้แจงในเรื่องของการเร่งแก้ปัญหามาบตาพุดว่าได้ดำเนินการออกระเบียบมากขึ้น ซึ่งทางญี่ปุ่นก็รับทราบ
นายปณิธาน กล่าวถึงผลการหารือระหว่างนายกฯของไทยและผู้นำของประเทศบรูไนว่า ในภาพรวมผู้นำบรูไนได้แจ้งว่าที่ท่านไม่ได้เดินทางมาร่วมพิธีเปิดการประชุมเพราะทานเพิ่งเสร็จภารกิจในการเดินทางไปเยือนหลายประเทศ และเดินทางมาถึงในช่วงดึกจึงมีพระอาการเหนื่อยอ่อน อย่างไรก็ตามในตอนค่ำวันนี้ผู้นำทั้งหมดจะพบกันหมด แต่ทั้งนี้ยังเหลือเพียงผู้นำของอินโดนีเซียกับฟิลิปปินส์เท่านั้นที่ยังไม่เดินทางมา แต่คาดว่าช่วงเย็นน่าจะร่วมครบทั้งหมด
ด้านเว็บไซต์ทำเนียบรัฐบาล (www.thaigov.go.th) รายงานผลการหารือทวิภาคีของนายกฯญี่ปุ่นกับนายอภิสิทธิ์ว่า มีการหารือที่ห้องบ่อฝ้าย โรงแรมดุสิตธานีหัวหิน สรุปสาระสำคัญการสนทนาว่า นายกรัฐมนตรี ญี่ปุ่นแสดงความยินดีที่ได้พบกับนายกรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่เคยได้พบกันที่นครนิวยอร์กแล้ว และหวังว่าการพบกันครั้งนี้จะมีส่วนช่วยให้ความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศ พัฒนาขึ้น ในโอกาสนี้นายกฯญี่ปุ่นแสดงความยินดีที่ได้ทราบว่าพระบาทสมเด็จพระ เจ้าอยู่หัวทรงมีพระอาการประชวรดีขึ้น ซึ่งความสัมพันธ์ระดับราชวงศ์ของไทยและญี่ปุ่นแน่นแฟ้นมาโดยตลอด
นายกฯแสดงความต้อนรับนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น และขอบคุณที่ให้ความสนใจในการประชุมครั้งนี้ ความสัมพันธ์ของไทยและญี่ปุ่นเป็นไปด้วยดี และแน่นแฟ้นในทุกระดับตั้งแต่ราชวงศ์จนถึงประชาชนทั่วไป นอกจากนี้ในด้านความสัมพันธ์เรื่องเศรษฐกิจซึ่งมีความสำคัญมากต่อทั้งสอง ประเทศ มูลค่าการค้า การลงทุน การจ้างงานของผู้ประกอบการญี่ปุ่นในไทยมีมูลค่าสูง ไทยและญี่ปุ่นมีความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่น (JTEPA) ระหว่าง กัน อย่างไรก็ตามในช่วงที่ผ่านมายังมีปัญหาและอุปสรรคอยู่บ้างแต่นายกรัฐมนตรีจะ เร่งรัดให้เกิดการดำเนินการตามข้อตกลง ซึ่งขณะนี้ได้ปัญหาต่างๆ ได้คลี่คลายไปแล้วเป็นส่วนใหญ่ ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นเห็นว่าทั้งสองฝ่ายควรใช้ประโยชน์จากข้อตกลงดัง กล่าว และญี่ปุ่นพร้อมให้ความร่วมมือกับไทยอย่างเต็มที่เพื่อขยายตัวทางด้านการค้า และการลงทุนต่อไป
ในฐานะผู้นำอาเซียนนายกรัฐมนตรีต้องการฟังวิสัยทัศน์ของนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นในการเชื่อมโยงเศรษฐกิจ ของภูมิภาคเอเชียตะวันออก ซึ่งอาเซียนให้ความสำคัญในการเชื่อมโยงกัน และญี่ปุ่นมีบทบาทสำคัญมาก ที่เสนอความคิดในเรื่องการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะต่อกลุ่มประเทศในแถบลุ่มแม่น้ำโขง โดยนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นได้แสดงความชื่นชมนายกรัฐมนตรีที่ใช้ความเป็นผู้นำ เพื่อผลักดันเป้าหมายในการสร้างประชาคมอาเซียนให้บรรลุผลในปี 2015 ซึ่งสอดคล้องกับหลักการ yu-ai (ยู ไอ) ของญี่ปุ่นซึ่งให้ความสำคัญกับการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ การศึกษาและสังคม และเน้นการเชื่อมโยงประชาชน และเห็นว่าไทยกับญี่ปุ่นน่าจะร่วมมือกันเพื่อพัฒนาภูมิภาคแม่โขง รวมทั้งการพัฒนาประเทศกลุ่มอาเซียนด้วย ซึ่งนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นยินดีที่ได้ทราบว่านายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปญี่ปุ่น เพื่อร่วมการประชุมประเทศลุ่มน้ำโขงกับญี่ปุ่นในเดือนหน้า ซึ่งจะช่วยกระชับความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศให้พัฒนามากยิ่งขึ้น
ในโอกาสนี้นายกรัฐมนตรีได้เสนอถึงโครงการที่ไทยต้องการความสนับสนุนจากญี่ปุ่น คือการตั้งระบบสำรองข้าว เนื่องจากมีเหตุการณ์ภัยธรรมชาติในอาเซียน ซึ่งนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นเห็นว่าเป็นแนวความคิดที่ดี และพร้อมให้ความร่วมมือ
นอกจากนี้นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นได้แสดงความคิดที่จะให้มีการแลกเปลี่ยนความ สัมพันธ์ในระดับพรรคการเมืองต่อกันด้วย เพราะที่ผ่านมาความสัมพันธ์ของนักการเมืองทั้งสองประเทศยังไม่มีเท่าที่ควร ซึ่งนายกรัฐมนตรีเห็นด้วยกับแนวความคิดนี้ โดยช่วงสิบปีที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีได้พบปะกับนักการเมืองญี่ปุ่นรุ่นใหม่ และมองเห็นปัญหาการทำงานในฐานะนักการเมืองที่คล้ายคลึงกัน หากได้มีการแลกเปลี่ยนความสัมพันธ์ต่อกันจะช่วยให้เกิดความเข้าใจที่ดี ขึ้น และจะช่วยกระชับความสัมพันธ์ในด้านอื่นๆ ต่อไป